ย้อนอดีตคู่แค้นคนลูกทุ่งด่าผ่านเพลงถึงโวยผ่านสื่อ

กรณีความขัดแย้งระหว่างสองนักร้องลูกทุ่งสาว ดาว มยุรี กับ อาภาพร นครสวรรค์ จากมือที่สามที่เข้ามาจนทั้งสองไม่มองหน้ากันและยากที่จะเยียวยาให้กลับมา เป็นเพื่อนรักกันดังเดิม ซึ่งนับเป็นนักร้องหญิงคู่แรกที่มีปัญหากันจนเป็นข่าวครึกโครม

ย้อนอดีตเรื่องราวข้อพิพาทของคนในวงการลูกทุ่งที่ผ่านมา มีทั้งที่เป็นข่าวใหญ่โตและที่ไม่เป็นข่าวนั้น มีมากมาย แต่วิธีการตอบโต้มีชั้นเชิงที่แตกต่างกัน ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ขอยกกรณีข้อพิพาทที่เป็นข่าวใหญ่ในวงการมาเป็นกรณีศึกษาดังนี้

เรื่องราวระหว่างครูสุรพล สมบัติเจริญ กับผ่องศรี วรนุช เหตุเกิดขึ้นเมื่อวงดนตรีสุรพลต้องพักวงชั่วคราวเนื่องจากปัญหาการเมือง ช่วงนั้นสุรพลเป็นทหารอยู่ ทางต้นสังกัดไม่อนุญาตให้ออกนอกกรมกอง ผ่องศรีจึงมาขออนุญาตสุรพลไปเดินสายกับวงดนตรีของพยงค์ มุกดา สุรพลก็อนุญาตให้ผ่องศรีไปร้องได้ แต่ต้องกลับมาร้องที่วงสุรพลเมื่อวงเปิดผ่องศรีรับปาก

ครั้นเมื่อวงดนตรีสุรพล กลับมารับงานอีกครั้ง ครูก็ประกาศว่าจะมีผ่องศรีมาร่วมวงด้วยเช่นเคย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อผ่องศรีได้ ทำให้ครูโกรธมาก และไม่ยอมพูดกับผ่องศรีเลย แถมแต่งเพลง "แก้วลืมดง" ต่อว่าผ่องศรีอีกด้วย ทางฝ่ายเพื่อนของครู อาทิ ก้าน แก้วสุพรรณ สมโภชน์ เสลากุล ที่ไม่เห็นด้วย จึงแต่งเพลง "สาลิกาลืมไพร" โต้กลับมา และจินดา สมบัติเจริญ น้องชายสุรพล เขียนเพลง "สาลิกาหน้ามนต์" ต่อว่าผ่องศรีอีก ทำให้เรื่องราวบาดหมางกันหนักขึ้น ครูจึงแต่งเพลง "ดาวจำลอง" ให้ไพรวัลย์ ลูกเพชร ร้องโต้อีกครั้ง

ข้างฝ่าย ครูเบญมินทร์ ที่ไม่พอใจสุรพลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะคิดว่าสุรพลร้องและแต่งเพลงเลียนแบบตัวเอง ครูเบญมินทร์เลยแต่งเพลง "อย่าเถียงกันเลย" เหน็บแนมครูสุรพล ซึ่งสุรพลก็เขียนเพลง "10 นิ้วขอขมา" ออกมาโต้ตอบเช่นกัน

ท้ายที่สุด ผ่องศรีพยายามจะไปขอโทษสุรพล แต่ครูเดินหนีไม่ยอมคุยด้วย จนกระทั่งครูถูกยิงเสียชีวิตที่บริเวณวิกแสงจันทร์ ทั้งคู่จึงไม่ได้ปรับความเข้าใจกันจนถึงทุกวันนี้

อีกคู่หนึ่งที่เป็นตำนานให้รุ่นหลังกล่าวถึง ระหว่าง ครูมงคล อมาตยกุล กับ พร ภิรมย์ เกิดขึ้นเมื่อพร ภิรมย์ ออกจากวงจุฬารัตน์ไปร้องเพลงให้กับสังกัดอื่นโดยไม่บอกกล่าว ครูจึงแต่งเพลง "มอดกัดไม้" ให้ ชาย เมืองสิงห์ ร้องต่อว่าพร ภิรมย์ ซึ่งพร ภิรมย์ก็เขียนเพลง "ไม้หลักปักเลน" โต้ทันที ทางด้านครูมงคลก็เขียนเพลง "ดาวหาง" โต้กลับอย่างไม่ลดละ

ต่อมา พล พรภักดี ก็เขียนเพลง "ดาวลืมฟ้า" ต่อว่า พร ภิรมย์ ด้านพร ภิรมย์ก็โต้ด้วยเพลง "ดาวเดี่ยว" จนทำให้ หยก นพเก้า ที่เป็นคนนอกเกิดสนุกขึ้นมา จึงเขียนเพลง "ดาวยุ" ผสมโรงอีกคน

ครูมงคล เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนพร ภิรมย์ บวชเป็นพระภิกษุจนถึงปัจจุบันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยที่ไม่ได้มีการหันหน้าเข้าหากัน

ข้อพิพาทที่ดูจะฮือฮาสะท้านวงการลูกทุ่งอีกเรื่องจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก หลาน คือ เรื่องราวของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ ไกรสร แสงอนันต์ ในเรื่องของความเจ้าชู้จนเธอต้องตรอมใจและเสียชีวิตลง แต่เรื่องราวยังไม่จบเมื่อมีเรื่องมรดกพุ่มพวงมาแทนที่ แต่ที่สุดทั้งฝ่ายแม่ของพุ่มพวงกับไกรสรก็ตกลงกันและจบลงได้ด้วยดีในเวลาต่อ มา

เวลาผ่านไปนับสิบปี ไกรสร แสงอนันต์ ก็ต้องเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งอีกครั้ง เมื่อเพชร สรภพ บุตรชายที่เกิดจากพุ่มพวงก็สร้างวีรกรรมหนีออกจากบ้านมาอยู่กับเพื่อนหญิง ที่ต่อมากลายเป็นสามีภรรยากัน และยังคงมีเรื่องราวถึงขั้นฟ้องร้องกัน ไม่มีแนวโน้มว่าจะจบสิ้น จนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง

 

ราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ ไกรสร แสงอนันต์

อีกคู่ที่ทำเอาคนวงการลูกทุ่งเอียงไปมาไม่แพ้อุกกาบาตตกใส่ คือ กรณีความเข้าใจผิดกันของสองเพื่อนซี้ ยอดรัก สลักใจ กับ สายัณห์ สัญญา ถึงเรื่องการเป็นมะเร็งตับของยอดรัก ที่สายัณห์ได้อ่านผ่านเว็บไซต์หนึ่ง ที่กล่าวหาว่ายอดรักเป็นนักร้องลวงโลก เมื่อมีสื่อมาสอบถาม สายัณห์จึงนำข้อความในเว็บดังกล่าวมาพูด แต่ถูกสื่อนำไปเผยแพร่ในลักษณะว่า พี่เป้าเป็นคนพูดเรื่องราวจึงบานปลายใหญ่โต กระทั่งยอดรักอาการทรุดหนักและเสียชีวิตลง

กรณียอดรักและสายัณห์จึงไม่ได้ปรับความเข้าใจกันจนกระทั่งตายจากกันไป ทั้งที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนที่รักกันมากคู่หนึ่งของวงการลูกทุ่ง
สรุป กรณีพิพาทของคนลูกทุ่งในสมัยก่อน มักจะโต้ตอบกันด้วยการใช้วาทศิลป์ผ่านบทเพลง ซึ่งมีผลดีคือ ทำให้แผ่นเสียงเพลงโต้ตอบขายดี แต่ปัจจุบันมักจะวิวาทกันผ่านสื่อ ที่ทำให้เรตติ้งโทรทัศน์หรือยอดพิมพ์สื่อหนังสือต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งๆ ที่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องทุกฝ่ายควรจะหันหน้ามาพูดคุยกันอย่างเข้าใจ เมื่อเรื่องราวผ่านไปยังสื่อบางอย่างทำให้เรื่องราวคลาดเคลื่อนเกิดความเสีย หายแก่คู่กรณีหนักกว่าเดิม