ส่งนักโทษเฝ้ามือฆ่าหั่นศพหวั่นคิดสั้น

ส่งนักโทษเฝ้ามือฆ่าหั่นศพหวั่นคิดสั้น

ส่งนักโทษเฝ้ามือฆ่าหั่นศพหวั่นคิดสั้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มือฆ่าหั่นศพยังมีอาการเครียด ไม่ชินคุกหลังอยู่มา 4 วัน กินข้าวน้อยลง ด้านเรือนจำส่งนักโทษประกบใกล้ชิด หวั่นฆ่าตัวตาย พนักงานสอบสวน แจ้ง 2 ข้อหาเพิ่ม กักขังหน่วงเหนี่ยว-ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ

(19ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโสภณ ธิติธรรมพฤกษ์ รักษาการผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ กล่าวถึงนายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ ที่ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า นายศิริพงษ์ ยังมีอาการเครียด แม้จะถูกส่งตัวเข้ามาในเรือนจำแล้ว 4 วัน ตนจึงจัดให้นายสิริพงษ์ อยู่ในห้องขังที่ใกล้เจ้าหน้าที่เวรยาม ซึ่งในห้องขังดังกล่าว จะมีกล้องวงจรปิดติดตามดูแลใกล้ชิด เนื่องจากนายสิริพงษ์มีอาการวิตกจากข่าวที่ได้ทราบ

นอกจากนี้เรือนจำยังส่งเพื่อนผู้ต้องขังบางส่วนเข้าไปอยู่ร่วมในห้องคุม ขังเพื่อประกบดูแล เพราะเกรงว่านายสิริพงษ์อาจคิดฆ่าตัวตาย หรืออาจไม่ปลอดภัยจากผู้ต้องขังด้วยกันที่รับทราบถึงการกระทำของนายศิริพงษ์ รวมทั้งได้ส่งนักจิตวิทยาเข้าไปพูดคุยให้คลายเครียด แต่นายศิริพงษ์ ยังคงอยู่ในอาการเครียดและรับประทานอาหารได้น้อยลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ พ.ต.ท.มานะ เผาะช่วย รอง ผกก.(สส.)สน.สุทธิสาร หัวหน้าชุดสอบสวนคดีฆ่าหั่นศพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าสอบปากคำนายศิริพงษ์ กาญจนนิวิฐ อายุ 40 ปี ว่า ได้รับมอบจากพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น.ให้สอบปากคำและแจ้งข้อหาผู้ต้องหาเพิ่มเติมตามวัตุพยานหลักฐานที่ ได้มา และนำทรัพย์สินที่เป็นหลักฐานให้ผู้ต้องหาดูซึ่งผู้ต้องหาให้ความร่วมมือ เป็นอย่างดี และยอมรับว่าทรัพย์สินทุกรายการเอามาจากตัวผู้ตาย แต่อ้างว่าบางรายการเป็นของตนเอง เช่นพระธาตุเลี่ยมทอง ส่วนต่างหูเพชร แหวนเพชร ถอดจากผู้ตายจริงแต่อาจสูญหาย หรือทำหล่น

พ.ต.ท.มานะ กล่าวอีกว่า เรื่องการกักขังน้องมินท์ นั้นผู้ต้องหาอ้างว่าน้องมินท์ อยู่ในความดูแลของเขา ซึ่งการให้การของผู้ต้องหาจะพูดอย่างไรก็ได้ตำรวจไม่ได้เชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับพยานวัตถุ อย่างไรก็ตามวันนี้เวลา 16.00น. พล.ต.ต.อำนวย จะประชุมเพื่อเร่งรัดคดี หากหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาตร์ การพิสูจน์ศพ หลักฐานทางอาวุธปืน ได้มาครบถ้วนก็จะสรุปคดีได้ภายในสัปดาห์นี้ ส่วนสาเหตุผู้ต้องหายังยืนยันเหมือนเดิมว่าโกรธแค้นผู้ตายที่ต้องการหาคนมา ทำร้ายตน ในวันนี้ผู้ต้องหาไม่มีอาการผิดปกติ พูดคุยปกติ และบอกว่าอยู่ในห้องขังนั่งทำสมาธิ และทางพนักงานสอบสวนคงไม่มาสอบคำผู้ต้องหาอีก

ส่วนข้อกล่าวหาเพิ่มเติมที่แจ้งกับนายสิริพงษ์ คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว และลักทรัพย์เวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ ซึ่งการสอบปากคำก็จะสอบทุกประเด็นที่เคยสอบปากคำมาก่อนหน้านี้แล้ว รวมถึงคำให้การของพยานแวดล้อม พยานบุคคล และน้องมิ้นท์ ที่ให้ข้อมูลทั้งหมด ว่าตรงกับคำให้การผู้ต้องหาหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหามีอาการทางจิต หรือไม่นั้นผู้ต้องหาบอกว่าสิ่งที่พูดสามารถพิสูจน์ได้มีการรู้ผิดชอบ ไม่น่ามีอาการทางจิตแต่อย่างใด ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่หายไปยังหาไม่เจอคือ ต่างหูเพชร และแหวนเพชร

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook