แม่ตายยังไม่ทันเผา ลูกชายวัย 34 ยิงพี่สะใภ้ดับคาบ้าน เก็บกดถูกบ่นมาตั้งแต่แม่ยังป่วย

น้องสามีวัย 34 ยิงพี่สะใภ้ดับคาบ้าน อ้างเก็บกดเพราะเคยถูกพี่สะใภ้ต่อว่าเรื่องการดูแลแม่ที่นอนป่วย เห็นเดินไปเดินมาในบ้าน คว้าปืนไล่ยิง 3 นัด

(8 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลา 09.00 น. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สิงหพล  สารวัตรเว รสภ.ป่าบอน จ.พัทลุง รับแจ้งจากพลเมืองดีมีเหตุ น้องสามียิงพี่สะใภ้เสียชีวิต โดยเหตุเกิดที่บ้าน ม.7 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบอน หลังรับแจ้งจึงเดินทางรุดสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพัทลุง เขตพื้นที่ป่าบอน และแพทย์เวร รพ.ป่าบอน ในที่เกิดเหตุ

บริเวณข้างบ้านที่เป็นโรงจอดรถ เจ้าหน้าที่พบศพ นางสุทา อายุ 46 ปี ภรรยาของนายเจริญ เจ้าของบ้านดังกล่าว ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด .38 มม. เข้าบริเวณหน้าอก แขนซ้าย และขวา รวม 3 นัด นอนหงายเสียชีวิต นุ่งผ้าถุงลาย ใส่เสื้อยืด โดยภายในบ้าน เจ้าหน้าที่พบรอยเลือด และกระสุนปืนขนาด .38 มม. ตกอยู่ 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน   

ส่วนผู้ก่อเหตุ ในเบื้องต้นทราบชื่อคือ นายจารึก อายุ 34 ปี  ซึ่งเป็นน้องของนายเจริญ หลังก่อเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านก่อนไปมอบตัว ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.ป่าบอน  โดยในเบื้องต้น รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ จริงเนื่องจากเก็บกดที่เคยถูกพี่สะใภ้ต่อว่าเรื่องการดูแลผู้เป็นแม่ที่นอนป่วย ว่าไม่ช่วยทำความสะอาด จนกระทั่งผู้เป็นแม่เสียชีวิต และกำลังตั้งศพในวัดใกล้บ้าน โดยจะเผาในวันพรุ่งนี้ทำให้ตนคับแค้นใจมาหลายวัน และช่วงที่เกิดเหตุขณะที่ตนกำลังนอนดูทีวีภายในบ้าน  พี่สะใภ้เดินไปเดินมาภายในบ้าน ด้วยความเก็บกดจึงใช้อาวุธปืนยิงดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพร้อมสอบสวนรายละเอียดก่อนดำเนินคดีต่อไป 

ด้าน นางน้อย อายุ 50 ปี ญาติของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในตอนสายขณะที่ตนและผู้ตาย พร้อมสามี ได้เดินทางกลับมาจากงานศพภายในวัด เพื่อที่จะกลับมาอาบน้ำยังบ้านที่เกิดเหตุ ตนเป็นคนอาบน้ำก่อน และแต่งตัวเสร็จ รอผู้ตายอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเดินทางไปร่วมงานศพต่อ แต่จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนที่จะมีนัดที่ 2 และ 3 ตาม ตนจึงวิ่งมาดูด้วยความตกใจ  แต่ก็ไม่เห็นผู้ตายเลยคิดว่า ผู้ตายน่าจะตกใจเสียงปืนวิ่งหลบหนีหรือซ่อนตัวตะโกนหาไม่เจอ ในจังหวะชุลมุน เห็นนายจารึก ดินออกมาจากบ้าน เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายจารึกไม่ตอบก่อนยกมือไหว้ แล้วขับรถออกจากบ้านไป จนกระทั่งพบนางสุทา ถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว