รู้จัก"นพ วีรพล เขมะรังสรรค์"เบื้องหลังความสำเร็จของ MEDEZE GROUP ธนาคารสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของไทย
Thailand Web Stat

รู้จัก"นพ วีรพล เขมะรังสรรค์"เบื้องหลังความสำเร็จของ MEDEZE GROUP ธนาคารสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของไทย

รู้จัก"นพ วีรพล เขมะรังสรรค์"เบื้องหลังความสำเร็จของ MEDEZE GROUP ธนาคารสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าการมาถึงของวิกฤตโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกครั้งนี้ ทำให้ผู้คนตื่นตัวเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น เช่นเดียวกับกลุ่มอุตสาหกรรมทางการแพทย์แบบใหม่ ที่เรียกว่า กลุ่ม “Healthcare Innovation” จากเดิมที่ติดสปีดอัดฉีดเทคโนโลยีผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วก็ยิ่งต้องเร่งสปีดเพื่อหานวัตกรรมใหม่ๆ มาตอบโจทย์การรักษาผู้ป่วยและดูแลสุขภาพของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่สำคัญแรงกระเพื่อมครั้งนี้ยังส่งผลให้หุ้นกลุ่ม Biotechnology กลายเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในสินทรัพย์กระแสหลักของกลุ่ม Megatrend 

อย่างกลุ่ม Biotechnology ในพาร์ทของ Genomics ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการถอดรหัสพันธุกรรมและการตัดต่อยีน มีการนำ Genomics มาใช้ทางการแพทย์ทั้งการวินิจฉัยโรค ตัวอย่างบริษัทในกลุ่ม Genomics ในประเทศไทยที่โดดเด่น คือ กลุ่มบริษัททางการแพทย์เมดีซกรุ๊ป (MEDEZE GROUP)  ธนาคารสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของไทย ผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศ มุ่งเน้นบริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุดในทุกด้านแบบครบวงจรที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน สู่การเป็นธุรกิจด้านการแพทย์ชั้นนำระดับโลก พร้อมเดินหน้างานวิจัยและพัฒนาด้านสเต็มเซลล์สู่การรักษาโรคได้อย่างเต็มศักยภาพ

นพ.จำรัส สกุลไพศาล, นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์ และ รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย


จุดเริ่มต้นความสำเร็จ

ความสำเร็จของ ‘เมดีซกรุ๊ป’ เริ่มต้นขึ้นจากวิสัยทัศน์ของ 3 ผู้ร่วมก่อตั้ง นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์, รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล ที่ต้องการสร้างธนาคารฝากเก็บและพัฒนาการใช้สเต็มเซลล์ใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกของโลกที่มอบการฝากเก็บสเต็มเซลล์ชนิดมีเซนไคม์ (เนื้อเยื่อ)  

นับตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน เมดีซกรุ๊ป ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั่วโลกและเพิ่มจำนวนมากขึ้นต่อเนื่องทุกปี จนสามารถก้าวสู่การผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศ ขยายสาขาครอบคลุมความต้องการออกไปสู่ประเทศกว่า 9 ประเทศ อาทิ เวียดนาม เมียนมา สิงคโปร์ ฯลฯ

นพ. วีรพล เขมะรังสรรค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฝากเก็บเนื้อเยื่อและปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ให้ความรู้เกี่ยวกับสเต็มเซลล์ (Stem Cell) กล่าวว่า ภายในปี 2026 เมดีซกรุ๊ป จะเป็นหนึ่งในผู้นำแบรนด์ระดับโลก ในธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ โดยมุ่งพัฒนาตนเองในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อส่งมอบการมีชีวิตที่ยืนยาว ยกระดับการใช้ชีวิตให้ได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่เรารักให้ได้ยืนยาวที่สุดนานถึง 120 ปี

ปี 2017 เมดีซกรุ๊ป ได้รับรางวัล Thailand Stem Cell Banking Growth Excellence Leadership Award จาก Frost & Sullivan ตอกย้ำถึงการเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ที่มีความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี งานวิจัยและการตลาดดีเด่น รวมทั้งการเป็นธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดที่ยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย และยังคงรักษาตำแหน่งนี้ไว้ได้นานถึง 3 ปีต่อเนื่อง ส่งผลให้เมดีซกรุ๊ป เป็นธนาคารสเต็มเซลล์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตที่โดดเด่นในระดับอนุภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ล่าสุด ยังได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากลเพิ่มขึ้นอีกสถาบันคือ AABB Accreditation I Cell Therapy Activity: Cord Blood - processing, storage, distribution ซึ่งเป็นการครอบคลุม กิจกรรมทางด้านเซลล์บำบัดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเลือดสายสะดือทั้ง กระบวนการดำเนินการ การจัดเก็บ การกระจายขนส่ง สู่การปลูกถ่ายรักษาทั่วโลก รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา

อาจกล่าวได้ว่า เบื้องหลังอัตราการเติบโตสูงและมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในงานวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ของ เมดีซกรุ๊ป นั้น มี นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน NK Cell และ Stem Cell ได้รับเลือกให้เป็นบุคคลตัวอย่างภาคธุรกิจการแพทย์ ปี 2018 จากมูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังและไม่เคยหยุดนิ่งที่จะวิจัยและพัฒนาเพื่อสรรสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกใบนี้ ที่ตระหนักถึงคุณค่าที่แท้จริงของเซลล์ต้นกำเนิดที่จะสามารถสร้างประโยชน์และเปลี่ยนแปลงโลกของการรักษาได้จริง


สเต็มเซลล์ (Stem cells) ความหวังของการมีชีวิตยืนยาวพร้อมสุขภาพที่ดี

"เซลล์ต้นกำเนิดจะเป็นเหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ สำหรับผู้ที่หมดหวังทางการรักษาด้วยการแพทย์ปัจจุบัน" นพ. วีรพล เขมะรังสรรค์ กล่าวถึงความมหัศจรรย์ของเซลล์ต้นกำเนิด

นพ. วีรพล ยังกล่าวว่า MEDEZE GROUP by Bangkok Stem Cell เป็นธนาคารเก็บเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ (เนื้อเยื่อ) แห่งแรกของโลก ‘เซลล์ต้นกำเนิด’ หรือชื่อทางการแพทย์คือ  ‘สเต็มเซลล์’ (Stem cells) มีคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่ออวัยวะที่เสื่อมเลวลง นำไปสู่การบำบัด รักษาโรคเพื่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยยืดอายุขัยให้ยืนยาว อีกทั้งยังทำหน้าที่ยับยั้งและช่วยในการฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากไวรัส มีผลการทดลองที่ทำควบคู่ไปการใช้สเต็มเซลล์รักษาผู้ป่วยโควิด-19 เคสรุนแรงมากและรุนแรงน้อย พบว่าสเต็มเซลล์ช่วยให้ผู้ป่วยขั้นวิกฤติ ฟื้นตัวและออกจากโรงพยาบาลได้เร็วขึ้น เชื่อมโยงกับความสามารถของ Stem cells ที่ช่วยฟื้นสภาพและสร้างทดแทนเซลล์ในร่างกายได้โดยผ่านกระบวนการหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการลดการอักเสบ การหลั่งสารที่ช่วยปกป้องเซลล์ การขนส่งของไมโทคอนเดรีย (mitochondria) ลดการตายของเซลล์ ความสามารถในการต้านสารอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย

Advertisement

MEDEZE GROUP ยังเป็นที่แรกที่รับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิด ‘มีเซนไคม์’ หรือ เซลล์ต้นกำเนิดเนื้อเยื่อชนิดที่สกัดมาจากเนื้อเยื่อสายสะดือเด็กแรกเกิด เป็นเซลล์อ่อนที่ยังไม่มีหน้าที่จำเพาะใด ๆ สามารถแบ่งตัวทดแทนลักษณะเดิมของตัวเองและเพิ่มจำนวนได้ สามารถเจริญพัฒนาไปเป็นเซลล์ไขมัน เซลล์กระดูก และเซลล์กระดูกอ่อน หรือเซลล์จำเพาะต่างๆ ในหลายอวัยวะของร่างกาย เพื่อประสิทธิภาพในการฟื้นฟูร่างกายอย่างไรขีดจำกัด ซึ่งเซลล์ดังกล่าวจำเป็นต้องเก็บภายในห้องห้องปฏิบัติการคุณภาพระดับ Clean Room Class 100 ของ MEDEZE LABORATORY ที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล เพื่อทำการคัดแยกและเพาะเลี้ยงเซลล์ทันที เมดีซกรุ๊ป จึงเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทยที่สร้างห้องแล็บปลอดเชื้อโรคของตัวเอง พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติการดูแลเซลล์ต้นกำเนิดได้ใหญ่ที่สุดในประเทศ จึงสามารถควบคุมคุณภาพเซลล์ทุกเซลล์ด้วยตัวเอง มีบริษัทที่รับผิดชอบงานวิจัยและพัฒนาศักยภาพที่ทำงานอย่างเข้มแข็งและก้าวหน้า เป็นที่ไว้วางใจของแพทย์ นักวิทยาศาสตร์  ทั้งในประเทศ ต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่มีศักยภาพสูงในระดับนานาชาติ  

ด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์ต้นกำเนิดที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศและด้วยความร่วมมือระดับนานาชาติ ทำให้วันนี้เมดีซกรุ๊ป ก้าวไปอีกขั้นสู่การสร้างสรรค์เซลล์ต้นกำเนิดรากผม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยจิชิ (Jichi) ประเทศญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเทศไทย และเมดีซกรุ๊ป นับเป็นก้าวสำคัญสู่การรักษาผู้ที่ประสบปัญหาศีรษะล้านได้อย่างไม่มีขีดจำกัด รวมทั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพสู่นวัตกรรมในการสร้างอวัยวะสำรอง ซึ่งเป็นความร่วมมือของเมดีซกรุ๊ป และรัฐบาลสิงคโปร์ ด้วยการสร้างกระจกตาจากเซลล์ต้นกำเนิดส่วนบุคคลสู่การป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง ภายใต้การกำกับดูแลของเมดีซเอ็นเคเซลล์



‘NK Cell’ เม็ดเลือดขาวนักล่าและนักฆ่าเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็งระยะเริ่มต้น

นอกจากนั้นการบำบัดรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด รับฝากเก็บสเต็มเซลล์จากไขมัน สเต็มเซลล์จากรากผม และสเต็มเซลล์จากน้ำคร่ำ เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัย มีคลังสุขภาพไว้รักษาแบบเฉพาะบุคคล ที่มอบการฝากเก็บแบบระยะยาว 60 ปี  MEDEZE ยังมีนวัตกรรมต่อสู้โรคร้ายด้วยเซลล์ภูมิต้านทานหรือเซลล์ภูมิคุ้มกัน ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและรักษาโรคมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง ภายใต้การกำกับดูแลของ MEDEZE I NKCELL ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างเมดีซ กรุ๊ป และ Dr.Junichi Masuyama และ Dr.Sanehiko Fujita แห่ง New City Osaki Clinic  ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง และเป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน NK Cell ประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นและระดับโลก

ซึ่ง NK Cell (Natural Killer Cell) เป็นเม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่งโดยปกติแล้วจะมีจำนวนน้อยมาก ไม่เกิน 5% ของเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์ (Lymphocyte) ทั้งหมด ทางการแพทย์ขนานนามให้เป็นเซลล์นักฆ่า เนื่องจากบทบาทสำคัญของมันเปรียบเสมือนด่านแรกของระบบภูมิคุ้มกัน ในการค้นหาและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อไวรัสและเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้นและควบคุมการติดเชื้อไวรัสต่างๆ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกระตุ้นและการเรียนรู้ต่อเซลล์ที่ผิดปกตินั้น (Antigen Stimulation)

น่าเสียดายที่ประสิทธิภาพของ NK Cell จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น รวมถึงปริมาณที่พบในร่างกายของแต่ละบุคคลก็ต่างกัน หรือต่อให้ปริมาณเท่ากัน ความแข็งแรงของเซลล์ยังแตกต่างกันอีกด้วย ที่น่ากังวลไปกว่านั้น ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ NK Cell อ่อนแอลง อาทิ พักผ่อนไม่เพียงพอ คนที่อดนอนเป็นประจำ ไม่ออกกำลังกาย อย่างที่รู้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน  หรือการรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง รับประทานผักและผลไม้ไม่เพียงพอ ก็เป็นปัจจัยสำคัญ เมื่อร่างกายไม่มีแร่ธาตุและวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เซลล์ต่างๆ ในร่างกายย่อมอ่อนแอลง หรือแม้แต่คนที่เครียดสะสม เพราะฮอร์โมนความเครียดจะไปกดภูมิคุ้มกันให้อ่อนแอลงจนร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

มีงานวิจัยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19  ในเคสที่รุนแรงจะมีปริมาณ NK Cell ลดลง ดังนั้นการเพิ่มจำนวน NK Cell และดูแลให้แข็งแรง จึงเท่ากับเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ลดความรุนแรงของโรคได้ รวมถึงโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

“MEDEZE LABORATORY เราได้รับการถ่ายทอดนวัตกรรม "Highly Active NK Cell Therapy" ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ [OSAKI Method] ประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถใช้เลือดเพียง 50 cc ของผู้ป่วยเพื่อเพิ่มจำนวน Activated NK Cells ให้ได้มากกว่า 5,000 ล้านเซลล์ ภายในระยะเวลาเพียง 14  วัน ที่สำคัญ NK Cells ที่เพิ่มจำนวน จะถูกคัดมาแล้วว่าเป็นเซลล์แข็งแรงที่สุด ปริมาณมากที่สุดในสภาวะถูกกระตุ้น เพื่อให้มีความพร้อมสูงสุดในการ ทำลายสิ่งแปลกปลอม เช่น เซลล์ที่ติดไวรัส แบคทีเรีย หรือเซลล์มะเร็ง รวมทั้งปราศจากการแพ้ การต่อต้าน หรืออันตรายเพราะเป็นเซลล์ของตัวเอง” นพ. วีรพล กล่าว

นวัตกรรมดังกล่าว กำลังจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะในยุคโรคเยอะและการดูแลตัวเองแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป การเก็บ NK Cell และเพิ่มจำนวนให้มากพอพร้อมทั้งดูแลให้แข็งแรงเพื่อต่อกรกับโรคอุบัติใหม่จะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คนใส่ใจสุขภาพสนใจ ล่าสุด คุณกันต์  กันตถาวร พิธีกรหนุ่มชื่อดังและภรรยา ก็ไว้วางใจ MEDEZE ดูแลในการเพิ่มจำนวน Activated NK Cells เช่นกัน (ดูรีวิวผ่านคลิปวีดีโอนี้ https://fb.watch/5K_L6ciAXW/ )  



หากดูจากนวัตกรรมทั้งหมดที่กล่าวมา หรือนวัตกรรมการผ่าตัดที่หวังผลสำเร็จได้ 100% แบบไร้แผลเป็น ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องที่ดีที่สุด ซึ่ง นพ. วีรพล เคยสร้างชื่อเสียงบนเวทีโลก โชว์"การผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผล(ACMIG)" ในการประชุมนานาชาติแห่งภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ที่อินโดนีเซียมาแล้ว เป้าหมายสู่การเป็นผู้นำแบรนด์ระดับโลก ในธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เพื่อส่งมอบ “ชีวิตที่ยืนยาว” ภายในปี 2026 คงไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ

[Advertorial]

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้