แม่พริตตี้ผู้รอดชีวิต BMW พุ่งชนเก๋ง 3 ศพ เผยมีคนสวมรอยลูกสาวตอบโต้ชาวเน็ต

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

แม่พริตตี้สาว ผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุ BMW Z4 ชนเก๋ง เผยมีคนสวมรอยเป็นลูกสาว ตอบโต้กับชาวเน็ต ยันโทรศัพท์พัง-นอนอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่สามารถโต้ตอบใครได้

(14 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายว่า จากกรณีที่ รถเก๋งสปอร์ตหรู ยี่ห้อ BMW รุ่น Z4 สีส้ม หมายเลขทะเบียน 7558 กรุงเทพมหานคร ซิ่งฝ่าสายฝนแล้วเสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลางถนน ไปชนประสานงากับรถเก๋งยี่ห้อ ซูซูกิ สวิฟท์ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน 9316 กรุงเทพมหานคร ทำให้คนขับและคนนั่งข้างคนขับ ในรถเก๋งซูซูกิ เสียชีวิตทันที 2 ราย

ส่วน นายสุรภัก อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถสปอร์ต BMW ไ ด้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่พริตตี้สาวที่นั่งคู่มาด้วย คือ น.ส.เมษสวรรค์ อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เพื่อทำการผ่าตัดขาที่หักผิดรูป

ขณะเดียวกัน โลกออนไลน์ก็ได้มีการบันทึกภาพหน้าจอ ข้อความที่อ้างว่าเป็น น.ส.เมษสวรรค์ เข้ามาพิมพ์โต้ตอบชาวเน็ตโดยมีข้อความว่า “ด่ามาด่ากลับไม่โกงนะ พวกมึงระวังตัวไว้, ไอพวกที่ด่าเราอยากรู้จริงว่าเราไปเกี่ยวเหี้_ไรด้วยเราไม่ใช่คนขับสักหน่อย ไม่ได้เข้าข้างใครนะคิดก่อนด่า ไม่ใช่ด่าก่อนคิดนะคะ จะด่าก็ไปด่าคนขับนู่น” และจากข้อความดังกล่าว ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่พอใจ เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสได้พูดคุยกับแม่ ของ น.ส.เมษสวรรค์ ในขณะที่เดินทางมาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.นาเฉลียง โดยได้เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคนเข้ามารุมด่าว่าน้อง ในสื่อออนไลน์ และในเฟซบุ๊กส่วนตัวของน้องค่อนข้างรุนแรง ตนในฐานะแม่รู้สึกไม่ดี ไม่ค่อยสบายใจ และอยากขอชี้แจงตรงนี้ว่า คนที่เข้าไปตอบโต้ในสื่อออนไลน์หรือในเฟซบุ๊กว่า ไม่ใช่น้องเมษสวรรค์ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุโทรศัพท์ของน้องพัง และตัวน้องเองก็นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊ค ที่จะไปโต้ตอบใครได้ จึงอยากวอนสังคมให้เข้าใจตรงจุดนี้ด้วยว่า คนที่ไปโต้ตอบนั้นไม่ใช่ตัวน้อง และเรื่องราวที่เกิดขึ้น แม่เองก็สะเทือนใจ นอนไม่หลับ ไม่มีใครอยากให้เกิดความสูญเสีย ทั้งครอบครับคนขับรถ BMW Z4 และคนที่อยู่ในรถเก๋งซูซูกิ

ส่วนเรื่องคดีความใครถูกหรือผิด ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็กำลังรวบรวมหลักฐานจากกล้องหน้ารถทั้ง 2 คัน หรือรถคันอื่นที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ส่วนเรื่องที่น้องไลฟ์สด ก็เป็นคนละสถานที่กับที่เกิดเหตุ และต่างเวลากัน ซึ่งจุดนี้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด ซึ่งแม่เองก็ไปห้ามใครไม่ได้ แต่ทั้งนี้ก็อยากให้ทุกคนอย่าเพิ่งไปตัดสินว่า ใครถูกใครผิด จนกว่าทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ซึ่งแม่เองก็รู้สึกเสียใจมากๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น