ประชุมนัดแรกคกก.สอบไทยเข้มแข็งสธ. หมอบรรลุคาดเสร็จใน 1 เดือน
หมอบรรลุ ยันสอบโกงไทยเข้มแข็ง สธ.เสร็จใน 1 เดือน เตรียมถกสัปดาห์ละ 3 วัน รายงานผลให้นายกฯทราบทีเดียว ระบุจะสาวถึงตัวการไม่มีชื่อย่อแน่นอน สาธารณสุข เล็งเปิดทาง รพ.สต.เลือกซื้อครุภัณฑ์นอกบัญชีได้ตามความต้องการ แห่งละ 5-10 รายการ โยนงบฯ 1.35 ล้านต่อแห่งให้จังหวัดบริหาร
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็ง ของกระทรวงสาธารณสุข ที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งแต่งตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี นพ.บรรลุ ศิริพานิช อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการ ได้ประชุมนัดแรก ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม โดย นพ.บรรลุ แถลงผลหลังประชุมคณะกรรมการว่า ได้วางกรอบการทำงานร่วมกันและคาดว่าจะใช้เวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงประมาณ 1 เดือน และจะสรุปให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบทีเดียว จะไม่รายงานเป็นระยะๆ
"คณะกรรมการจะประชุมอย่างต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3 ครั้ง คือทุกเย็นวันจันทร์-พุธ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และอย่ากลัวว่าเมื่อสอบสวนเสร็จแล้ว ผมจะแถลงข่าวว่าเป็น นาย ก. นาย ข. เป็นผู้กระทำผิด แต่จะระบุว่าเป็นใคร มีพฤติกรรมอย่างไร มีเจตนาในการทำทุจริตหรือไม่ แม้งบประมาณจะยังไม่จัดสรรลงมา แต่ต้องดูว่ามีเจตนาทุจริตคดโกงหรือไม่ ส่วนจะลงโทษอย่างไร คณะกรรมการไม่มีหน้าที่ตัดสิน แต่เป็นเรื่องของหน่วยงานอื่นที่ต้องรับผิดชอบต่อไป" นพ.บรรลุกล่าว
ด้าน นายไพโรจน์ แก้วมณี นิติกร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หนึ่งในกรรมการตรวจสอบฯ กล่าวว่า ข้อมูลที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงรายการครุภัณฑ์ตามที่มีการร้องเรียน 6 รายการที่มี นพ.เสรี หงษ์หยก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ส่งข้อมูลมาให้กับคณะกรรมการยังไม่ครบถ้วน มีเพียงส่วนที่เป็นผลสรุปของคณะกรรมการชุดดังกล่าวเท่านั้น ไม่มีส่วนของพยานที่ระบุว่ามีการเรียกมาสอบปากคำ 16 ปาก รวมถึงพยานที่เป็นเอกสารต่างๆ ไม่ได้แนบมาด้วย จึงจำเป็นต้องเรียกเอกสารดังกล่าวจากกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติม
ขณะที่ นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ (สนย.) สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีที่สมาคมวิชาชีพสาธารณสุขระบุว่ารายการครุภัณฑ์ที่กำหนดให้สถานีอนามัย (สอ.) ซึ่งจะยกระดับเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เลือกซื้อ 46 รายการมีอย่างน้อย 6 รายการที่มีราคาสูงและไม่เหมาะสมกับศักยภาพโรงพยาบาล ว่า คณะทำงานย่อยชุดตรวจสอบ รพ.สต. สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ (สสอ.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ที่มี นพ.วุฒิไกร มุ่งหมาย นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะประธานชมรมนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเป็นประธาน ซึ่งเป็นคณะทำงานย่อยจากคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมและแก้ไขปัญหาโครงการไทยเข้มแข็งของ สธ.ได้ประชุมปรึกษาหารือ โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นในส่วนของ รพ.สต.ว่า จะยังคงรายการครุภัณฑ์ที่ให้ รพ.สต.เลือกซื้อไว้ทั้ง 46 รายการ แต่จะเปิดโอกาสให้แต่ละแห่งจัดซื้อครุภัณฑ์นอกเหนือรายการได้ตามความจำเป็นและต้องการของโรงพยาบาลแต่ละแห่งอย่างน้อย 5-10 รายการ หากเห็นว่ารายการใดแพงหรือไม่เหมาะกับศักยภาพของโรงพยาบาลก็ไม่ต้องเลือกซื้อ
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า การจัดสรรงบประมาณของโครงการไทยเข้มแข็งให้กับ รพ.สต.ที่จะได้แห่งละ 1.35 ล้านบาท เดิมแบ่งเป็นค่าก่อสร้าง 500,000 บาท และค่าจัดซื้อครุภัณฑ์ 855,000 บาท อาจจัดสรรงบฯทั้งหมดให้เป็นรายจังหวัดแล้วให้จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการงบในส่วนนี้เอง โดยอาจจะไม่กำหนดเป็นงบฯก่อสร้าง 500,000 บาทหรืองบประมาณจัดซื้อครุภัณฑ์ 855,000 บาทด้วย จังหวัดพิจารณาขยับปรับงบประมาณระหว่างงบฯก่อสร้างและครุภัณฑ์ได้ตามความต้องการ โดยจะมี สสจ.และผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันตรวจสอบ
"ทั้งหมดนี้เป็นข้อสรุปเบื้องต้นของคณะทำงานย่อยยังไม่เป็นที่ยุติ จะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมฯ ในวันที่ 30 ตุลาคม อีกครั้งหนึ่ง ที่สำคัญ จะต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองของกระทรวงการคลังว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร ต่อกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขขอยกเว้นไม่คีย์ข้อมูลรายการครุภัณฑ์ส่งให้กับกระทรวงการคลังตามข้อกำหนด แต่จะทำเป็นไฟล์รายการครุภัณฑ์แนบไปให้ในภายหลังเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ เพราะรายการครุภัณฑ์ของ สธ.มีจำนวนมากยากที่จะคีย์ข้อมูล หากคณะกรรมการกลั่นกรองเห็นชอบจะต้องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป" นพ.ศุภกิจกล่าว