พรรคไทยสร้างไทย ช็อก! ไข่ไก่ปีนี้แพงขึ้น 20% แต่ชาวบ้านรายได้ลด จี้ประยุทธ์แก้ปัญหา

นางสาวเกณิกา ตาปสนันทน์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย เผยเมื่อวันศุกร์ (18 มิ.ย.) ว่า ขณะนี้ไข่ไก่ในหลายพื้นที่มีราคาแพงกว่าช่วงโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว สวนทางกับรายได้ประชาชนที่ลดลง เรียกร้องให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แก้ไขปัญหานี้โดยด่วน

รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยเผยว่า ไข่ไก่เบอร์ 0 ในขณะนี้ขายที่แผงละ 110 บาท สูงกว่าช่วงก่อนการระบาดระลอกล่าสุดถึง 20 บาท หรือราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 20% ซึ่งถือว่าแพงขึ้นไม่น้อยเลย

"ยิ่งภาวะที่ประชาชนรายได้หดหาย กำลังซื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในช่วงโควิดเกิดการระบาด ร้านรวงธุรกิจต่างๆ ถูกสั่งปิด มาตรการของรัฐที่ให้คนทำงานอยู่บ้าน คนตกงานกันเป็นแถบๆ เช่นนี้ การที่ไข่ไก่ อันเป็นสินค้าหลักที่ทุกบ้านต้องมีติดครัวไว้ ดันมาขึ้นราคา ย่อมกระทบต่อคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนที่ทำอาหารกินเอง ก็มีต้นทุนสูงขึ้น คนที่ไปซื้อข้าวกินจากร้านอาหาร ก็ต้องจ่ายแพงขึ้น" นางสาวเกณิกา ระบุผ่านเฟซบุ๊ก

ผู้ขายรายย่อยจ่อคิวเจ๊ง

ราคาไข่ที่สูงขึ้นนี้ทำให้กำไรจากการขายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับไข่ไก่ลดลงด้วย นางสาวเกณิกา เผยว่า ผู้ขายไข่ปิ้งรายหนึ่งเหลือกำไรเพียงแค่ฟองละ 1 บาทเท่านั้น หากหายได้ 60 ฟองจะมีกำไรเพียงแค่ 60 บาท ตนจึงมองว่าผู้ขายรายเล็กเช่นนี้จะอยู่ได้อย่างไร การที่ไม่แก้ไขปัญหานี้และปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมเท่ากับซ้ำเติมคนกลุ่มนี้หรือไม่

ไม่ใช่แค่นั้น นางสาวเกณิกายังอ้างว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลจัดการกับปัญหาไข่ไก่แพงผิดวิธี เพราะมุ่งแต่ไปจับคนขายไข่ไก่รายย่อย ทั้งที่รับไข่ที่มีราคาสูงขึ้นมาจากผู้ขายรายใหญ่อีกทอด ส่วนการบริหารโควตานำเข้าส่งออกไข่ไก่ที่ผิดพลาดของรัฐบาล ก็ไม่ช่วยแก้ปัญหาด้วย

ไข่ไก่วัดกึ๋นรัฐบาล

รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย จึงมองว่า การแก้ปัญหาไข่ไก่เป็นการวัดกึ๋นหรือวัดฝีมือของการบริหารประเทศอย่างหนึ่งของรัฐบาล แต่ที่ผ่านมากลับยังพบว่าต้นทุนค่าอาหารของเกษตรกรสูงขึ้น ผู้เลี้ยงไก่บางรายแบกรับต้นทุนไม่ได้ จึงต้องลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ไข่ไก่ที่ออกสู่ตลาดน้อยลง แต่ความต้องการของผู้บริโภคกลับสูงขึ้นเพราะหลายคนต้องอยู่บ้านเพราะโควิด-19 จึงไม่สมดุลกันอย่างมาก

"ถ้ารัฐบาลไม่เร่งแก้ไขให้ถูกวิธี บริหารอย่างมีวิสัยทัศน์ ประชาชนคนตัวเล็กตัวน้อยจะยิ่งเดือดร้อน ในสภาวะที่พวกเขาเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจอยู่แล้วในขณะนี้"