นายอำเภอเชียงของ ชี้ "เสาไฟปลาบึก" คุ้มค่าทุกบาท งบ 1.4 ล้าน จ่ายจริงแค่ 9 แสน
นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายสมหมาย หลวงสอน นายกเทศมนตรีตำบลเวียง อ.เชียงของ นายธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงของ นายสงวน ซ่อนกลิ่น รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย และ นายวัชระ หลิ่วพงษ์สวัสดิ์ ประธานกลุ่มเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ อ.เชียงของ ร่วมกันตรวจดูพื้นที่สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เทศบาลตำบลเวียง อ.เชียงของ จ.เชียงราย อยู่ในพื้นที่บ้านหัวเวียง และพื้นที่สวน โดยมีเนื้อที่ 19 ไร่ ซึ่งชาวอำเภอเชียงของ เรียกว่า "สวนสาธารณะปลาบึก 7 สี" พร้อมกันนี้ยังได้ตรวจดู เสาไฟส่องสว่าง จำนวน 22 ต้น ที่มีการนำไปโพสต์ในโลกโซเซียล ว่าไม่คุ้มค่าด้านงบประมาณ จนเป็นข่าวดังอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้เสาไฟส่องสว่างทั้ง 22 ต้น จะเป็นเสาไฟที่มีปลาบึกพันรอบตัวเสาไฟ และด้านบนยอดเสาจะมีนกนางนวล และช่อดอกหางนกยูง โดยตัวปลาจะเป็นงานศิลปะปูนปั้น โดยเสาไฟส่องสว่างทุกต้น
โดยนายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ เปิดเผยว่า จากการตรวจดูเสาไฟปลาบึกดังกล่าว จะมีป้ายปิดประกาศชัดเจนว่าเป็นโคมไฟประติมากรรมปูนปั้น จำนวน 22 ต้น และยังรวมงานปรับปรุงทางขนาดกว้าง 1.50 เมตร ความยาว 300 เมตร งบประมาณ 1,449,000 บาท ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารพบว่า จากที่ตั้งราคาไว้ 1.5 ล้านบาท แต่เมื่อมีการประมูล ราคาจึงลดลงมา จากนั้นผู้รับเหมาดำเนินการเกินระยะเวลาสัญญา จึงถูกปรับเงิน 5 แสนกว่าบาท จึงได้จ่ายจริงเป็นเงินจำนวน 9 แสนกว่าบาท
สำหรับการดำเนินการทั้งหมดอยู่ในแผนการพัฒนาเมือง ของอำเภอเชียงของ ทั้งทางด้านการท่องเที่ยว การลงทุนทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งไม่มีการใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่าอย่างแน่นอน และการที่ต้องนำประติมากรรมอยู่บนเสาไฟดังกล่าว ก็เพราะให้เกิดเอกลักษณ์ของอำเภอเชียงของ ที่อำเภอเชียงของ เป็นเมืองชายแดนติดแม่น้ำโขง และในอดีตเคยมีปลาบึกจำนวนมาก และปลาบึกก็เป็นปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงได้ใช้สิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเชียงของ
ทางด้าน นายธันวา เหลี่ยมพันธุ์ ประธานสภาวัฒนธรรม อ.เชียงของ ให้สัมภาษณ์ว่า ในฐานะที่ตนเองเป็นภาคเอกชน และได้พูดคุยกับภาคเอกชนด้วยกัน มีความเห็นตรงกันว่า การดำเนินการดังกล่าวของทางภาครัฐในพื้นที่ ได้ใช้งบประมาณที่คุ้มค่า ที่ต้องการพัฒนาอำเภอเชียงของที่แท้จริง ที่ผ่านมาทางภาคเอกชนและภาครัฐ ก็มีการจัดการในพื้นที่ดังกล่าว และเมื่อมีภาพเสาไฟปลาบึก ถูกถ่ายรูปออกไป ก็จะทำให้ทุกคนรู้ว่าที่แห่งนี้คืออำเภอเชียงของ เพราะสัญลักษณ์ของปลาบึกจะมีแห่งเดียวในโลกที่ทุกคนรู้จัก คืออำเภอเชียงของนั่นเอง