หมอชี้แจง ยาที่ให้เด็ก 10 ขวบกินผิดไป แค่ทำให้หลับนานขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงอันตราย

หมอชี้แจง ยาที่ให้เด็ก 10 ขวบกินผิดไป แค่ทำให้หลับนานขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงอันตราย

หมอชี้แจง ยาที่ให้เด็ก 10 ขวบกินผิดไป แค่ทำให้หลับนานขึ้น ไม่มีผลข้างเคียงอันตราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(18 มิ.ย.64) ความคืบหน้าจากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพลูกชายขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ หลังลูกชายนอนหลับนานหลายชั่วโมง และอ่อนเพลียผิดปกติ กระทั่งมาทราบภายหลังว่า เจ้าหน้าที่ รพ.จ่ายยาให้น้องกินไป 14 เม็ด แต่ผิดพลาดเนื่องจาก เป็นยาของน้อง 6 เม็ด ส่วนอีก 8 เม็ดเป็นยาของผู้ป่วยเบาหวานและเลิกเหล้ากะทันหันของเตียงข้างกัน 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง รพ.ที่น้องนอนรักษาตัวอยู่ วันนี้พบว่าน้องรู้สึกตัวดีเดินไปมาได้ แต่มีอาการมึนๆ งงๆ อยู่บ้าง โดยมีผู้เป็นแม่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ก็มีแพทย์ พยาบาลมาพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้เป็นแม่ด้วย

ด้าน นายแพทย์อภิวัฒน์ ชุมเกตุ แพทย์ที่ทำการรักษา บอกว่า ผู้ป่วยเตียงข้างน้องหมิงซัน เป็นผู้ป่วยโรคพิษสุราเรื้อรัง จำเป็นต้องได้รับ ยากล่อมจิตประสาทเพื่อให้คนไข้สงบลงหรือนอนหลับ ซึ่งยาตัวนี้เป็นแค่ยานอนหลับ เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะทำให้นอนหลับนานขึ้น ก็จะทำให้นอนมีอาการซึมลงกว่าปกติ ซึ่งน้องหมิงซัน ได้เข้ามารักษาที่ รพ.ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ด้วยโรคไต ซึ่งวันที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่แม่ของน้องเปลี่ยนเวรกับคุณยาย

ซึ่งคุณยายอาจจะไม่รู้ว่าปกติน้องจะต้องรับประทานยาวันละกี่เม็ด เมื่อได้รับยาไปก็ให้น้องทานไปทั้งหมด แต่ยืนยันว่ายาทั้ง 14 เม็ดที่น้องกินไป เป็นยานอนหลับที่ทำให้หลับนานขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีผลข้างเคียงอะไร ซึ่งเบื้องต้นก็ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับแม่ของผู้ป่วยแล้ว ส่วนเรื่องการดูแลเยียวยาหรือไม่อย่างไรนั้น ทางผู้บริหารก็จะได้พูดคุยหารือกันอีกครั้ง

ด้านนางสุพัตร อายุ 35 ปี แม่ของน้องหมิงซัน บอกว่า น้องมารักษาโรคไตที่โรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว เมื่อวาน 17 มิ.ย. น้องมีอาการผิดปกติจึงไปสอบถามกับหมอ จนรู้ว่าหมอจ่ายยาผิดบางส่วน เป็นยาของเตียงข้างๆ โดยรวมน้องก็อาการดีขึ้น แต่ก็จะมีอาการมึนงงอยู่ และรู้สึกเจ็บที่ท้องบริเวณกระเพาะ แต่ส่วนตัวไม่ได้ติดใจหรือจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่หรือทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด แต่ที่โพสต์ไปก็เพราะเป็นห่วงลูก และอยากให้เป็นอุทาหรณ์ และรอบคอบมากขึ้นเท่านั้น หลังจากทาง รพ.มาพูดคุยและยืนยันว่ายาที่ลูกกินไปจะไม่มีผลข้างเคียงอะไร ก็สบายใจมากขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook