พ่อไม่รู้ลูกสาวโพสต์ขอรับบริจาค หลังอดข้าว 3 วัน เครียดเจอดราม่าสร้างเรื่องใช้ลูกหากิน
พ่อตกใจ คนเอาข้าวสารอาหารแห้งมาให้ถึงบ้าน ไม่รู้ลูกสาวโพสต์ขอรับบริจาค เครียดเจอดราม่าสร้างเรื่องใช้ลูกหากิน ปิดรับบริจาคแล้วขออยู่อย่างเงียบๆ
(18 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ชุมชนวิมานแมน เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ หลังมีข่าวในโลกอนนไลน์ กรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในโซเชียลระบุ “มีใครใจบุญหนูขอค้าข้าว หนูกับพ่ออดข้าวมา 3 วันแล้ว กรุณาช่วยหนูกับพ่อที” ซึ่งก็ทำให้ผู้ที่พบเห็นข้อความดังกล่าว เกิดความสงสาร และความเห็นใจ ต่างช่วยกันแชร์โพสต์ออกไปอย่างกว้างขวางก่อนจะมีกลุ่มผู้ใจบุญรีบนำข้าวสารอาหารแห้งไปบริจาคให้กับเจ้าของเฟซบุ๊กของผู้โพสต์ ซึ่งทราบว่าเป็นเด็กหญิงวัย 9 ขวบ พักอาศัยอยู่กับบิดาเพียง 2 คน ในห้องเช่าเล็กๆ ใจกลางเมืองนครสวรรค์
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า เด็กสาวผู้โพสต์ ชื่อ น้องแพทตี้ วัย 9 ขวบ พักอาศัยอยู่กับบิดา คือ นายนพดล อายุ 40 ปี มีอาชีพเป็นช่างรับจ้างก่อสร้างทั่วไป โดยเมื่อไปถึง พบว่า ผู้เป็นบิดาของน้องแพทตี้ เกิดอาการเครียดอย่างหนัก เนื่องจากหลังที่บุตรสาวได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือผ่านโลกโซเชียลไป ก็มีทั้งผู้คนใจบุญนำของมาบริจาค และก็มีชาวโซเชียลอีกส่วนหนึ่งต่างตั้งข้อสังเกต และต่อว่ากรณีให้บุตรมาโพสต์สร้างเรื่องเพื่อหากิน ซึ่งนายนภดล ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญที่นำของมาบริจาคกันเป็นจำนวนมาก และตอนนี้ทางครอบครัวไม่ต้องการอะไรแล้ว จะขอใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบ
นายนพดล เล่าว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อ 3 วันก่อน ตนประสบอุบัติเหตุในระหว่างทำงานจนทำให้ข้อแขนอักเสบ ไม่สามารถทำงานได้ จึงทำได้แต่พักอาศัยอยู่ในบ้าน แต่แล้ว ก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกำซัด เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยา จนทำให้ภรรยาหอบลูกสาวคนเล็ก วัย 4 ขวบ ขับขี่รถจักรยานยนต์หนีออกจากห้องเช่าไป ทิ้งให้ตนและน้องแพทตี้อยู่ด้วยกันเพียง 2 คนเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ก็ยังตามหาตัวไม่พบว่าภรรยาหนีไปอยู่ไหน ส่วนในระหว่างที่อยู่กับน้องแพทตี้เพียงสองคน ตนยอมรับว่า ตนทำงานไม่ได้จึงทำให้ไม่มีเงินไปซื้อกับข้าวให้ลูกกิน จนทำให้น้องแพทตี้ต้องกินข้าวคลุกกับซอสฝาเขียวครบ 3 มื้อ มาเป็นเวลา 2 วัน และในวันที่น้องแพทตี้ไปโพสต์ขอความช่วยเหลือนั้น น้องได้นำโทรศัพท์มือถือของตนโพสต์ไปตอน 10.00 น. ของเมื่อวาน และตนก็ไม่ทราบเรื่องว่าน้องได้โพสต์อะไรลงไป จนกระทั่งมาทราบเรื่อง เมื่อตอนมีกลุ่มคนใจบุญนำข้าวสารอาหารแห้งมาบริจาคถึงบ้าน
“น้องแพทตี้ เขามีเฟซบุ๊กส่วนตัวแต่ลงไว้ในโทรศัพท์มือถือของผม โดยทุกวัน น้องแพทตี้จะใช้เฟซบุ๊กท่องไปตามห้องข่าวกลุ่มต่างๆ ของชาวนครสวรรค์ เพื่อดูว่า มีงานให้รับจ้างที่ไหน เขาก็จะช่วยดูแล้วมาบอกผมเพื่อให้พ่อของเขาได้งาน ซึ่งเขาก็ทำแบบนี้ปกติทุกวัน แต่ในเรื่องที่น้องเขาไปโพสต์ขอความช่วยเหลือ ตนก็ไม่ทราบเรื่องว่าเขาจะโพสต์ เพราะผมไม่ได้ตรวจดูอะไรในโทรศัพท์ กว่าจะมารู้อีกที โพสต์นั้นของน้องก็ถูกแพร่กระจายไปไหนต่อไหนแล้ว อีกทั้ง น้องยังได้โพสต์เบอร์โทรศัพท์ลงไปด้วย จนทำให้ตลอดทั้งวัน มีผู้คนโทรมาหาผมอย่างไม่ขาดสาย”
นายนพดล ระบุว่า รู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีชาวโซเชียลบางกลุ่ม มาคอมเมนต์ต่อว่าตน หาว่าใช้ลูกมาโพสต์หากิน ทั้งที่ตนไม่เคยรู้เรื่องตั้งแต่แรก จนทำให้ตอนนี้ ตนไม่อยากจะรับสายโทรศัพท์ของใครทั้งนั้น ซึ่งในส่วนของน้องแพทตี้ ตนเข้าใจบุตรสาวว่าเขาอยากช่วยพ่อ อยากช่วยครอบครัว จึงไม่รู้สึกโกรธลูก แต่ก็ต้องขอบอกผ่านสื่อว่า ตอนนี้ตนขออยู่แบบเงียบๆ กับลูก 2 คน และไม่ขอรับบริจาคอะไรอีกแล้ว เพราะของที่ได้รับบริจาคมาก็เยอะมากพอแล้ว เพื่อขอลบข้อครหาว่าตนใช้ลูกมาโพสต์หากิน แต่ก็ต้องกล่าวขอกราบขอบพระคุณกลุ่มผู้ใจบุญที่นำสิ่งของมาบริจาคให้ในครั้งนี้ด้วย
เมื่อสอบถามเกี่ยวกับภรรยา นายนพดล บอกว่า เป็นเรื่องของครอบครัว ไม่อยากพูดถึง แต่เมื่อภรรยาคิดที่จะจากไปจากชีวิตตนแล้ว ก็ขอให้คิดถึงน้องแพทตี้ที่ใกล้จะเปิดเรียนด้วย เนื่องจากรถจักรยานยนต์ที่ภรรยาใช้หอบลูกสาวคนเล็กขี่หนีไปนั้น ตนต้องใช้ขี่ไปส่งน้องแพทตี้ไปโรงเรียน และต้องใช้ขี่ไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งขณะนี้ แขนที่บาดเจ็บก็เริ่มจะหายเป็นปกติแล้ว จึงอยากให้ภรรยานำรถจักรยานยนต์มาคืน เพื่อให้ตนไว้ใช้ในการขี่ไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวต่อไป