โจรใจร้ายขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง เจ้าของน้ำตาตกใน วอดไม่เหลือซ้ำเติมพิษโควิด

โจรใจร้ายขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง เจ้าของน้ำตาตกใน วอดไม่เหลือซ้ำเติมพิษโควิด

โจรใจร้ายขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง เจ้าของน้ำตาตกใน วอดไม่เหลือซ้ำเติมพิษโควิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โจรใจร้ายขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง เจ้าของน้ำตาตกใน ร้านน้ำปั่นเล็กๆ แค่เจอโควิดก็แย่อยู่แล้ว ข้าวของเสียหายในกองเพลิงทั้งหมด

(19 มิ.ย. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสมาชิก เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ ได้แชร์เรื่องราวของเจ้าของร้านขายน้ำปั่น-กาแฟสด ในพื้นที่ของอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ถูกคนร้ายเข้ามางัดขโมยทรัพย์สินภายในร้านไปแถมยังเผาร้านทิ้ง สร้างความเจ็บช้ำให้กับเจ้าของร้านรายนี้ที่มาซ้ำเติมกันในช่วงโควิด ที่จะทำอะไรค้าขายอะไรก็เป็นไปอย่างแสนลำบาก โดยเจ้าของโพสต์ ผู้ใช้บริการเฟซบุ๊ก เฉลิมพร เนียมขันธ์ ได้เผยแพร่เรื่องราวของตนเองที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุงัดขโมยทรัพย์สินไปแถมยังเผาร้าน โดยระบุข้อความว่า "ฝันร้ายของลุงบิ๊ก #ไผ่หอมที่รัก #โจรใจบาปขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง #ฝากแชร์ ช่วยๆกันตามหาเบาะแสคนร้ายด้วยนะครับ แค่อยากจะรู้ว่าโกรธเคืองอะไรขนาดนั้นถึงกับต้องเผาร้านของเราด้วย #โจรใจร้ายขโมยของแล้วเผาร้านทิ้ง ร้านน้ำปั่นเล็กๆ ที่ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวใครกันชั่งใจร้ายกับลุงบิ๊กเสียจริงๆ  #เศรษฐกิจก็ย่ำแย่โจรผู้ร้ายก็ชุกชุม  ชีวิตนี้อยู่ยากจริงๆ ... R.I.P ไผ่หอม สมูทตี้ ปั่นปั่น By ลุงbig"

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปที่ร้านของลุงบิ๊ก ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสาย ราชบุรี – เขาช่องพราน ต.นางแก้ว อ.โพธาราม จ.ราชบุรี พบกับ นายเฉลิมพร เนียมขันธ์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ไผ่หอม กาแฟ-น้ำปั่น เปิดใจกับทีมข่าวว่า ร้านของตนเองเปิดมาได้ 3 ปีเศษ เป็นร้านเล็กๆ ร้านตั้งอยู่ติดกับโรงจำหน่ายน้ำดื่มชุมชน และเป็นที่รู้จักกันในชุมชน รวมไปถึงลูกค้าทั้งประจำและขาจร อีกทั้งอยู่ตั้งอยู่ทางเข้าบ้านผู้ใหญ่บ้านด้วย ที่ผ่านมาร้านจะถูกโจรมางัดขโมยสิ่งของนับได้ก็ปีละ 1 ครั้ง แต่ละครั้งก็จะไม่ทรัพย์สินไปไม่มากเนื่องจากตนเองจะไม่ทิ้งทรัพย์สินมีค่าใดๆ ไว้ นอกจากจะเป็นเครื่องปั่นน้ำ ปั่นกาแฟ และ พวกอุปกรณ์ชงเครื่องดื่มเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะร้านตั้งอยู่ติดริมถนน กลางคืนไม่มีคนเฝ้า



ส่วนเหตุการณ์ที่โพสต์ในหน้าเฟซบุ๊ก เกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ ตี 2 เศษๆ ตนได้ยินเสียงคนข้างบ้านตะโกนว่าเห็นแสงไฟกะพริบออกมาจากที่ร้าน จึงได้รีบขับรถออกไปดูที่ร้านอย่างรวดเร็ว ก็พบว่าร้านเกิดไฟไหม้ ซึ่งวินาทีนั้นก็ตกใจจึงได้รีบหาสายยางเอาน้ำมาฉีดเพื่อดับไฟ แต่ร้านเป็นหลังคามุงจาก และสิ่งของภายในร้านติดไฟได้ง่าย ทำให้ไฟลุกอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนและชาวบ้านก็ต่างช่วยกันแจ้งรถดับเพลิงมาช่วยกันดับไฟ จนสามารถดับไฟได้ แต่ร้านก็เหลือแต่ตอตะโก ตู้เก็บของสังกะสีไฟไหม้ไม่หมด แต่สิ่งของภายในถูกไฟเผาหลอมละลายทั้งหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว

นายเฉลิมพร เจ้าของร้าน เล่าต่อว่า หลังจากที่เพลิงสงบลง ได้ตรวจสอบความเสียหาย โดยมีเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้ามาดู พบว่า ที่ตู้เก็บของถูกงัดด้วยของมีคมเฉือนแผ่นสังกะสีและงัดเข้าไปขโมยสิ่งของด้านใน ซึ่งพบว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ หายไปจำนวน 1 เครื่อง ส่วนสิ่งของอื่นน่าจะถูกไฟเผาไปทั้งหมด เพราะยังคงมีซากเหลืออยู่ แต่คอมพิวเตอร์หายไป ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ได้แต่ประกอบอาชีพค้าขายไม่ยุ่งอะไรกับใคร หรือมีปากมีเสียงใดๆ กับใคร จึงไม่น่าจะมีชนวนเหตุในการล้างแค้นโดยมาจุดไฟเผาร้าน แต่ที่คาดเดาก็น่าจะเป็นเพราะไม่ได้ของมีค่าใดๆ ไป คนร้ายคงจะฉุนและจุดไฟเผาร้านของตนเองเป็นได้


ส่วนการประเมินค่าความเสียหาย นายเฉลิมพร เจ้าของร้าน ระบุว่า ร้านถูกเผาเสียหายทั้งหมด เครื่องปั่นน้ำ เครื่องปั่นเมล็ดกาแฟ แก้ว อุปกรณ์การชงเครื่องดื่ม และสิ่งของประดับตกแต่งร้าน รวมมูลค่าก็จะประมาณ 1 แสนบาทเศษ ซึ่งตนเสียดายเพราะจะต้องปิดตำนานของร้านลุงบิ๊ก ขวัญใจชุมชน โดยเฉพาะเด็กๆ แล้ว ต่อไปคงจะไปเปิดที่บ้านแทน เสียดายวันเวลาที่ทำมา สิ่งของที่หายไปไม่เท่ากับร้านถูกเผา เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจเป็นอย่างมาก

ขณะนายวินัย บุญคุ้ม กำนันตำบลนางแก้ว กล่าวว่า วันนี้ตนได้พาผู้นำชุมชน กลุ่มผู้ใหญ่บ้าน และ ชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างเดินทางมาให้กำลังใจกับทางเจ้าของร้าน หลังจากทราบว่าร้านถูกโจรเข้ามางัดขโมยทรัพย์สิน และเผาร้านจนไม่เหลืออะไรเลย โดยร้านนี้ ชาวบ้านต่างก็แวะมานั่งคุย นั่งคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกัน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นร้านขวัญใจชุมชนเลยก็ว่าได้ หลังจากนี้ทางชุมชนก็จะกำชับพื้นที่ช่วยกันสอดส่องโจรผู้ร้าย และ จัดเวรยามออกตรวจในพื้นที่ และ บริเวณโดยรอบร้าน เนื่องจากเรายังไม่รู้ตัวคนร้ายว่าเป็นใครกลุ่มใด ตรงนี้ต้องปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook