หนุ่มทำเนียนยิงบาร์โค้ดมิเตอร์ไฟฟ้า เก็บเงินสด-ขู่ตัดไฟ คาดถูกหลอกไม่ต่ำ 300 หลัง

อดีตพนักงานขโมยเครื่องยิงบาร์โค้ดมิเตอร์ไฟฟ้า ก่อนตะเวนไปเก็บค่าไฟตามบ้าน เรียกเก็บเงินสด ขู่ตัดไฟ ชาวบ้านเชื่อเพราะเห็นอุปกรณ์ครบ

(19 มิ.ย. 64) เพจศูนย์แจ้งข่าวบุรีรัมย์แจ้งว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายราย ว่ามีพนักงานยิงบาร์โค้ดมิเตอร์ไฟฟ้า มาขู่จะตัดมิเตอร์ไฟฟ้า หากไม่จ่ายเงินสดที่ค้างชำระ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านแล้ว 3 ตำบล มี ต.กลันทา ,บ้านยาง และ ต.ชุมเห็ด

จากการตรวจสอบ พบ น.ส จันทรา อายุ 31 ปี ชาวบ้าน  ม.2 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่าเมื่อวันที่ 4 มิ.ย ที่ผ่านมา มีชายอายุประมาณ 30-35 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าพร้อมปรินต์ใบแจ้งหนี้ค้างชำระค่าไฟฟ้าให้ดู ว่ามียอดค้างจำนวน 1,600 บาท

โดยพนักงานคนดังกล่าว ระบุจะทำการตัดมิเตอร์ไฟฟ้า หากไม่จ่ายเงินสดในตอนนั้น ตนเองตกใจรีบกลัวจะโดนตัดไฟ เนื่องจากที่บ้านมีป้าวัย 54 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ในบ้าน จึงหาหยิบยืมเพื่อนบ้านมาได้แค่ 1,100 บาท

หนุ่มพนักงานแจ้งว่าเงินส่วนที่เหลือ 500 บาท ให้โอนเข้าบัญชี วันต่อมาพนักงานคนนั้น ยังได้ทักมาทางไลน์ทวงเงินที่ค้าง จึงรีบโอนเงินที่เหลือให้ ยอมรับว่าแปลกใจทั้งที่การไฟฟ้าอนุโลมการจ่ายค่าไฟฟ้า ในช่วงมีการระบาดของโรคโควิด-19 แต่พนักงานคนนี้กลับมาเร่ง ที่เชื่อเพราะมีเครื่องยิงบาร์โค้ดของการไฟฟ้า

ต่อมาซึ่งครบรอบบิลถัดไป ได้มีเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ใช่คนเดิมมายิงบาร์โค้ด เช่นเดียวกัน แต่ปรากฎว่ายังมียอดค้างชำระเดือนที่ผ่านมาอีก 1,600 บาท ทั้งที่จ่ายไปแล้ว จึงรีบไปติดต่อการไฟฟ้าภูมิภาคบุรีรัมย์ มาทราบว่าถูกหลอก ยอมรับว่าไม่ทราบว่าเป็นคนร้าย เพราะมีอุปกรณ์ของการไฟฟ้าครบ เบื้องต้นการไฟฟ้าให้ตนไปแจ้งความที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์

เช่นเดียวกับ นางโพ อายุ 80 ปี ชาวบ้าน ม.5 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เล่าว่า น่าจะเป็นชายคนเดียวกัน มาขู่จะตัดมิเตอร์ไฟฟ้า ทั้งที่ไม่มีพนักงานคนใดมาเก็บในลักษณะนี้มาก่อน ตนจำเป็นต้องจ่ายค่าไฟจำนวน 504 บาทให้ไป เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย เนื่องจากมีการพูดในลักษณะข่มขู่จริงแล้วเงินจำนวนดังกล่าว จะเก็บเอาไว้ใช้ก่อน เพราะปกติค่าไฟฟ้าจะไปจ่ายหลังได้บิลมาประมาณ 10 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากข้อมูล ทราบว่าชายคนดังกล่าวเคยเป็นพนักงานของบริษัทผู้รับเหมาจดมิเตอร์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบุรีรัมย์ ทราบชื่อนายเอกพจน์ (สงวนนามสกุล)อายุ 33 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ ถูกให้ออกจากบริษัท แต่นายเอกพจน์ ได้ขโมยเอาเครื่องยิงบาร์โค้ดของบริษัทไปด้วย สำหรับนายเอกพจน์ เคยเป็นพนักงานตัดมิเตอร์มาก่อน จึงรู้ช่องทางการทำงานเป็นอย่างดี โดยปกติพนักงานแต่ละคน จะยิงมิเตอร์ไฟฟ้าได้วันละประมาณ 300 หลังคาเรือน กรณีนี้อาจจะมีผู้เสียหายมากกว่า 300-400 ราย เพราะมีเครื่องยิงบาร์โค้ดอยู่ในมือ แต่คนที่โดนยังไม่ทราบว่าตัวเองถูกหลอก เพราะบิลรอบใหม่ยังไม่มา