หนุ่มตายปริศนาคอพาดสายฝักบัวอาบน้ำ เพื่อนเผยชอบทำเหมือนเห็น-คุยกับผีลูกน้อง
สุดเฮี้ยน หนุ่มตายปริศนาคอพาดสายฝักบัวอาบน้ำ ตามหลอนทั้งช่างภาพและเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เพื่อนร่วมงานเผยมักทำท่าทีเหมือนเห็นและคุยกับลูกน้องที่ตายไปแล้วบ่อยๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (26 มิ.ย.) เมื่อเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายเสียชีวิตปริศนาในห้องน้ำชั้น 2 ของอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเทพารักษ์
ที่เกิดเหตุภายในห้องน้ำด้านหลังห้องที่ 205 ชั้น 2 ของอะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว พบศพ นายปิยะวัฒน์ อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าสถานีปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในย่านถนนเทพารักษ์ เสียชีวิตในสภาพกึ่งนั่งกึ่งยืนลำคอพาดอยู่กับที่สายฝักบัวอาบน้ำ
จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด ส่วนในห้องที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ มีเพียงข้อความที่เขียนด้วยด้วยปากกาเมจิกบนพื้นห้องว่า "กูรักมึง" เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาสมุทรปราการ
จากการสอบถาม นายกอบชัย เพื่อนร่วมงานของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายมีหน้าที่ต้องมาคอยตรวจสอบความพร้อมของสถานีปั๊มน้ำมันเปิดใหม่ หลังจากที่เลิกงานตนและผู้ตายได้พากันนั่งดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนที่จะพากันกลับห้องพัก ซึ่งเป็นห้องที่ตนและเพื่อนร่วมงานเช่าพักกันมาได้หลายเดือนแล้ว ส่วนทางผู้ตายได้มาอาศัยพักอยู่ด้วยในช่วงนี้
ระหว่างที่ทุกคนนอนอยู่ ผู้ตายซึ่งอยู่ในอาการเมาสุรา ได้ลุกขึ้นมาถอดสร้อยคอที่ห้อยพระอยู่ออกวางไว้ที่พื้น จากนั้นก็ใช้ปากกาเมจิเขียนข้อความที่พื้น พร้อมพูดและบ่นถึงลูกน้องเก่าที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยหลังจากเขียนข้อความเสร็จก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ
ตอนแรกตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่เห็นผู้ตายหายไปนานผิดสังเกต จึงได้เดินไปดูที่ห้องน้ำพบว่าผู้ตายหมดสติอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งยืนคอพาดที่สายฝักบัวซึ่งไม่มีการรัดหรือผูกแต่อย่างไร ด้วยความตกใจตนจึงรีบนำร่างของผู้ตายลงมานอนอยู่ที่พื้น ก่อนที่จะปั๊มหัวใจ แต่ผู้ตายไม่ฟื้นจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ขณะที่ นายธนากร อายุ 20 ปี เพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง บอกว่า ผู้ตายมักจะพูดถึงลูกน้องที่เสียชีวิตไปแล้วให้ได้ยินบ่อยครั้ง และมีบางครั้งผู้ตายยังทำท่าทีคล้ายกับมองเห็นและคุยกับวิญาณลูกน้องที่เสียชีวิตไปแล้วได้
โดยเฉพาะเมื่อวันพระที่ผ่านมาผู้ตายได้เรียกชื่อลูกน้องที่ชื่อโอ้ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วให้มานอนด้วยกับเขา โดยก่อนทราบว่าผู้ตายเสียชีวิต ตนก็นอนอยู่ข้างๆ ผู้ตาย และไม่ทราบว่าผู้ตายเสียชีวิตตอนไหน จนมีเพื่อนมาเรียกและบอกว่าผู้ตายเสียชีวิตแล้ว ตนยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน นายเอกราช บุญกำเนิด ผู้ช่วยช่างภาพของทีมข่าว ซึ่งได้ใช้โทรศัพท์มือถือเข้าไปบันทึกภาพขณะที่กำลังพุดคุยกับนายธนากร ที่กำลังเล่าเหตุการณ์ที่ผู้ตายพูดถึงลูกน้องเก่าให้ฟัง แต่พอนำภาพคลิปวีดีโอขณะสัมภาษณ์มาตรวจสอบ พบว่าไม่มีเสียงและกลายเป็นภาพสปีดเร็วทุกช็อต และเหลือเพียงช็อตสั้นๆ เท่านั้น จนไม่สามารถใช่งานไฟล์ภาพได้ แต่ภาพเหตุการณ์อื่นๆ ทั้งก่อนหน้านี้และหลังการสัมภาษณ์ กลับใช้งานได้เป็นปกติ
เช่นเดียวกับ นายประพนธ์ เศรษฐสิโรตน์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูซึ่งใช้กล้องมือถือบันทึกวิดีโอขณะที่สัมภาษณ์นายธนากร ภาพเป็นเหมือนกันจนเจ้าตัวถึงกับยกมือไหว้ขอขมาผู้เสียชีวิต แต่หลังจากนั้นไม่นานภาพก็กลับมาใช้งานได้ แต่กลับเป็นภาพที่เจ้าตัวไม่ได้ถ่าย