ประยุทธ์บอก เสียใจถูกถล่มด้วยคำหยาบคายแต่ก็อดทน-เป็นห่วงร้านอาหารรายย่อย

ประยุทธ์บอก เสียใจถูกถล่มด้วยคำหยาบคายแต่ก็อดทน-เป็นห่วงร้านอาหารรายย่อย

ประยุทธ์บอก เสียใจถูกถล่มด้วยคำหยาบคายแต่ก็อดทน-เป็นห่วงร้านอาหารรายย่อย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 28 มิ.ย. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผย ว่าที่ประชุม ศบศ. วันนี้ได้ออกมาตรการการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดตามมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 25 ในพื้นที่ควบคุม 6 จังหวัด เพื่อลดผลกระทบในระยะ 1 เดือน โดยใช้งบประมาณจากรัฐบาลและประกันสังคม 7,500 ล้านบาท โดยจะต้องจ่ายเพิ่มเติมให้ลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคม และจ่ายให้นายจ้างที่มีลูกจ้างในระบบประกันสังคมไม่เกิน 200 คน 3,000 บาทต่อหัว ซึ่งจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลเช่นกัน 

นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันจะดูแลผู้ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม พร้อมย้ำถึงสาเหตุที่จะต้องปิดคลัสเตอร์แรงงาน เพราะมีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมาก และจะทำให้เกิดผลกระทบในจุดอื่นไปด้วย ส่วนแรงงานที่ทยอยเดินทางกลับไปต่างจังหวัดนั้นจะต้องดูข้อมูลที่มีอยู่ ที่ผ่านมาตนก็เป็นห่วงในเรื่องนี้อยู่แล้ว เห็นได้ว่าตนได้สั่งการไปตั้งแต่เช้าวันเสาร์ ให้ทหาร ตำรวจ พลเรือน ลงพื้นที่ตรวจ เพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายกลับบ้าน เพราะจะไปแพร่เชื้อในที่อื่น ซึ่งทหารหลายคนก็ได้รับความเสี่ยงสูง ตนได้สั่งดูแลในเรื่องของวัคซีนแล้ว 

สำหรับการเดินทางกลับบ้านของแรงงาน นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าไม่มีใครอยากกลับไป เพราะหากกลับไปแล้วในพื้นที่จะถูกควบคุม ให้อยู่ในพื้นที่กำหนดและไม่มีงานทำ แต่หากยังอยู่ในคลัสเตอร์ที่เราควบคุมได้ ก็จะมีเงินเยียวยาให้ร้อยละ 50 รวมถึงมีอาหารดูแลด้วย 

นายกรัฐมนตรี ยอมรับเป็นห่วงร้านอาหารรายย่อย เพราะประชาชนไม่ออกไปใช้บริการ จึงขอความร่วมมือกับสมาคมก่อสร้างและร้านอาหาร จ้างประกอบอาหารจัดส่งไปให้แคมป์คนงานก่อสร้าง ซึ่งถือว่าเป็นอีก 1 ทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งเรื่องนี้ กทม.รับทราบแล้ว 

ทั้งนี้ ยอมรับยังมีคนไม่สบายใจและไม่พอใจกับมาตรการนี้ แต่ก็ต้องบริหารงานให้เป็นระบบ ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาในอนาคต โดยจะนำมาตรการที่ประชุมในวันนี้ เข้าครม. พิจารณาเห็นชอบวันที่ 29 มิ.ย.นี้ พร้อมย้ำมาตรการเยียวยาจะใช้เฉพาะพื้นที่ 6 จังหวัดควบคุมสูงสุด ซึ่งไม่ใช่โครงการเราชนะ หรือ ม.33 เรารักกัน ส่วนโครงการคนละครึ่ง และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้เป็นไปตามกำหนดเดิม ไม่มีการเลื่อน 

ครวญถูกถล่มด้วยวาจาไม่สุภาพ แต่อดทน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลายประเทศก็ได้รับความเดือดร้อน เช่นกันและยิ่งกว่าประเทศไทย พร้อมยอมรับว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น เกิดจากการตรวจค้นหาเชิงรุก เพราะหลายคนติดเชื้อแล้วไม่มีอาการ แต่เมื่อตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงขึ้น ก็ต้องดูตัวเลขผู้หายป่วยกลับบ้านด้วย รวมถึงการบริหารจัดการโรงพยาบาล วันนี้ตนไม่ได้ทำงานรายวัน ไม่ได้ทำงานคนเดียว รัฐบาลยืนยันดูแลเต็มที่ รับฟังความเห็นของทุกคน ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบตน ตนดูทั้งหมด แต่สิ่งไหนที่ทำได้ก็รับมา แต่สิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์ ก็ไม่อยากจะดู ถ้าเป็นไปในเชิงสร้างความเกลียดชัง สร้างความขัดแย้งมากๆ ไม่เกิดประโยชน์

"ผมไม่ได้รังเกียจใคร เพราะถือว่าทุกคนเป็นคนไทย หลายอย่างผมก็เสียใจที่หลายคนใช้วาจากิริยาไม่สุภาพ ซึ่งถามว่าควรหรือไม่ แต่ผมก็อดทน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook