รวบแล้ว ลูกโหดฆ่าพ่อฝังดิน ชาวบ้านไม่เชื่อปมฆ่าโหดเพราะพ่อเอาบัตรคนจนไปจำนำ

รวบแล้ว ลูกโหดฆ่าพ่อฝังดิน ชาวบ้านไม่เชื่อปมฆ่าโหดเพราะพ่อเอาบัตรคนจนไปจำนำ

รวบแล้ว ลูกโหดฆ่าพ่อฝังดิน ชาวบ้านไม่เชื่อปมฆ่าโหดเพราะพ่อเอาบัตรคนจนไปจำนำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับได้แล้ว ลูกโหดฆ่าพ่อฝังดินอำพราง หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ไปหาเพื่อน ชาวบ้านไม่เชื่อปมฆ่าโหดเพราะพ่อเอาบัตรคนจนไปจำนำตามที่ญาติให้ข้อมูล วอนอย่าเพิ่งให้ร้ายคนตาย ควรรอฟังจากปากผู้ก่อเหตุ

จากกรณีพบศพ นายเป อายุ 72 ปี ชาวบ้านโศกนาก ต.แดงใหญ่ อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ถูกฆ่าตายอย่างโหดในสภาพมีบาดแผลจากการใช้ของมีคมฟันที่ใบหน้าศีรษะ ตามร่างกาย และใบหูข้างขวาถูกตัดขาด แล้วนำร่างไปฝังดินเพื่ออำพรางไว้บริเวณหลังบ้านของตัวเอง ก่อนหายตัวอย่างปริศนาตั้งแต่คืนวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่า นายวิเชียร หรือ ตูบ อายุ 41 ปี ลูกชายคนเล็กของนายเป น่าจะเป็นคนก่อเหตุฆ่าพ่อของตัวเอง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (28 มิ.ย.) ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ได้อนุมัติหมายจับ นายวิเชียร อายุ 41 ปี ลูกชายที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านายเปแล้ว ในฐานความผิด “ฆ่าบุพการี, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย”

ขณะที่ พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ก็ได้นำทีมชุดสืบสวน สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ร่วมกับชุดสืบภูธรจังหวัด และชุดสืบภาค 3 ออกติดตามล่าตัวนายวิเชียร ด้วยตัวเอง ล่าสุด ทราบว่าสามารถจับกุมตัวนายวิเชียรได้แล้ว ในท้องที่ สน.ทุ่งสองห้อง ขณะหลบหนีไปหาเพื่อน ส่วนศพผู้เสียชีวิตถูกส่งไปยังผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ขอนแก่น

ขณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เสียชีวิตและคนในครอบครัว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดเหตุเป็นคดีความรุนแรงในครอบครัว ส่วนผู้ตายก็เป็นผู้สูงอายุ และผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกชาย ก็มีประวัติเข้ารักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวช

เบื้องต้น ก็จะช่วยเหลือเรื่องค่าจัดการศพให้แก่ผู้เสียชีวิต ส่วนผลกระทบด้านอื่นต้องรอดูเรื่องคดีอีกครั้ง ก่อนจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขต่อไป

ด้าน นางนภาพร และ นายกล ชาวบ้านโศกนาก ได้ออกมาระบุถึงกรณีที่มีญาติของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลกับสื่อว่า ปมการก่อเหตุฆาตกรรมโหดในครั้งนี้ เกิดจากผู้เสียชีวิตนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนไปจำนำยังร้านค้าแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง แล้วไม่ยอมแบ่งเงินให้กับลูกชายนั้น ส่งผลกระทบให้กับชาวบ้านที่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งชาวบ้านต่างก็รู้ระเบียบเงื่อนไขในการใช้บัตร และเงินที่ได้รับก็เดือนละ 200 – 300 บาท คงไม่มีใครกล้าเสี่ยงทำผิดระเบียบหรือกฎหมาย และไม่เชื่อว่าผู้เสียชีวิตจะเอาบัตรไปจำนำ

ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวทำให้ผู้เสียชีวิตได้รับความเสียหาย ทั้งที่ยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง เพราะคนตายก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาพูดหรือแก้ต่างให้กับตัวเองได้ ซึ่งก็ต้องรอฟังจากปากของผู้ก่อเหตุด้วยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร   

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook