แอน จักรพงษ์ โพสต์เดือดหลังโดนด่า "Eด-ก" เหตุประกาศซื้อกิจการร้านอาหารเจอพิษโควิด
แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ผู้นำเข้าและส่งออกรายการและสื่อบันเทิงชื่อดัง โพสต์ลงอินสตาแกรมเมื่อวันอังคาร (29 มิ.ย.) ตอบโต้คนที่วิจารณ์ตนด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า "อีด_ก" หลังจากประกาศรับซื้อกิจการร้านอาหาร 10 ร้านที่เผชิญพิษโควิด-19 ว่า ตนผิดหวังกับคนกลุ่มนี้ ที่ตนใช้คำว่า "มนุษย์ปากเสีย" และมองว่าคนกลุ่มนี้ด่าอย่างเดียว โดยขาดการพิจารณาและวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน และถ้าหากไม่ต้องการให้ตนช่วย ตนก็จะหยุดตรงนี้
"นอกจากจะหยาบคายแล้ว ยังขาดอาหารหล่อเลี้ยงทางความคิดอีกว่ากิจการเค้าเจ๊ง เค้าหมดเงินทุน ครอบครัวเค้าจะกินอะไร ดิฉันซื้อต่อมาก็กลายเป็นภาระของดิฉันต่อนะ ไม่คิดบ้างล่ะ เพราะรายรับจากร้านอาหารเท่านี้ ดิฉันจะเอาไปเพื่ออะไร และคิดว่ายังขาดทุนด้วย ดิฉันทำก็เพียงแค่เพื่อให้เค้าจะได้มีเงินกลับไปใช้จ่ายแลกกับสิ่งที่เขาพลาดไป ซึ่งใครเดือดร้อนอยากจะขายก็ขาย ไม่อยากขายก็ไม่ต้องขาย ไม่เดือดร้อนก็ไม่ต้องสิคะ"
"ดิฉันเข้าอุ้มคนที่ล้มเพราะเค้าเหนื่อยจากความไม่ประสบความสำเร็จของการกิจการในช่วงโควิดและลำบากมากแล้ว หากคุณไม่ใช้สมองแล้ว ใช้แต่โซเชียลมีเดียโดยการมีอะไรก็ด่าไปเรื่อยๆ ไม่มีการวิเคราะห์ก่อนวิจารณ์ ประเทศชาติจะเจริญได้ไหมคะ ถ้าไม่ต้องการให้แอนช่วย แอนก็จะหยุดตรงนี้ค่ะ ผิดหวังมากกับมนุษย์ปากเสีย!!!"
ซื้อกิจการ 10 ร้านอาหารไปต่อไม่ไหว
เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจาก แอน จักรพงษ์ โพสต์รูปลงอินสตาแกรมเมื่อช่วงที่ผ่านมาของวันเดียวกัน (29 มิ.ย.) ซึ่งมีข้อความระบุว่า ตนอยากช่วยร้านอาหารที่มีปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะทางการเงิน ที่เกิดจากมาตรการการควบคุมโรคโควิด-19 ของภาครัฐ เป็นจำนวน 10 แห่ง
"ร้านอาหารหลายแห่งประสบปัญหา... แอนอยากช่วยด้วยการขอเข้าซื้อกิจการจำนวน 10 แห่ง inbox รายละเอียดร้านของท่านมาด่วนที่ JKN18 Facebook นะคะ #แอนจักรพงษ์ #ข้ามเพศพันล้าน #JKN18" แอน จักรพงษ์ โพสต์
"เป็นกำลังใจให้คนไทยทุกคนนะคะ"
ชาวเน็ตเสียงแตก
โพสต์ดังกล่าวได้รับเสียงตอบรับที่แตกต่างกันในโซเชียลมีเดีย หลายคนมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ช่วยหาให้ผู้ประกอบการที่ต้องการขายกิจการมีเงินจ่ายพนักงานและมีเงินใช้ส่วนตัวหรือนำไปใช้หนี้ต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนหนึ่งกลับมองว่า การขอซื้อกิจการของ แอน จักรพงษ์ ในวันที่ร้านอาหารเหล่านั้นอ่อนแอหรือประสบภาวะทางการเงิน ไม่ได้ทำให้ผู้ประกอบการเหล่านั้นคงกิจการของตัวเองเอาไว้ได้เลย และไม่ต่างจากการที่กลุ่มทุนใหญ่มาซื้อกิจการจากธุรกิจขนาดเล็กและกลาง ที่ลดความหลากหลายของธุรกิจในตลาดลงไป ขณะที่บางคนมองไปกระทั่งว่าอาจเพิ่มความเหลื่อมล้ำทางฐานะให้กว้างขึ้นไปอีก