คนละครึ่ง เป็นเหตุ!? แม่ค้าอาหารทะเล โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 9 หมื่นบาท

คนละครึ่ง เป็นเหตุ!? แม่ค้าอาหารทะเล โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 9 หมื่นบาท

คนละครึ่ง เป็นเหตุ!? แม่ค้าอาหารทะเล โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง 9 หมื่นบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (29 มิ.ย.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ มีการแชร์โพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นแม่ค้าขายอาหารทะเล ระบุว่าร้านของตนเข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง ล่าสุดได้รับจดหมายจากกรมสรรพากร เรียกเก็บภาษีย้อนหลังของปี 2563 เป็นเงินมากกว่า 9 หมื่นบาท ข้อความระบุว่า

“#คนละครึ่งเป็นเหตุสังเกตได้ พบผู้ร่วมชะตากรรม ณ ที่ว่าการอำเภออีกเพียบ บางร้านผู้เฒ่าผู้แก่มาแบบงง..งง อิหยังวะ ส่ง จม. มาบ้าน เพื่อเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเสยยย.. หนาวเลยตรู #พบกันหน้าอำเภอ #คนละครึ่ง_เราชนะ_เรารักกัน_ม33 ทำให้คนหลายคนมาเจอกัน โพดโพ..สเตทเม้นท์ย้อนหลัง 1 ปี” ก่อนจะเขียนข้อความอัปเดตเพิ่มเติมว่า “สรุปผล โดนภาษีย้อนหลังปี 63 (ไม่รวมปีนี้ 64) ยอดที่ต้องเสียทั้งหมด 92,257 บาท ต้องทำยังไงดี ใครจะมีจ่ายขนาดนั้น”

ในเวลาต่อมา สาวคนดังล่าวโพสต์ข้อความอีกครั้ง ระบุว่า 

“ขอทีมปรึกษาเรื่องเสียภาษีด้วยคร้า โดนภาษีปี 63 ยอดที่ต้องเสียทั้งหมด 92,257 บาท ต้องทำยังไงดี ใครจะมีจ่ายขนาดนั้น”

ล่าสุดแม่ค้าสาว ได้โพสต์ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า

จากกรณีที่เมื่อวานโพสต์เรื่องภาษีไป คนให้ความสนใจเยอะมาก ยอดแชร์ 15,000++ ทั้งทักทั้งส่งข้อความมาถามว่าเจอเหมือนกัน นักข่าวหลายสำนักก็โทรมาสัมภาษณ์ ขอตอบแบบรวมๆ ตามนี้นะคะ

1.มีคนถามว่าได้หลบเลี่ยงภาษีมั้ย ตอบ.. ไม่เคยคิดที่จะหลบเลี่ยงภาษี ก่อนหน้ายอดขายอาจไม่เยอะเลยไม่ได้โดนเรียกเก็บ พอมีจม.มาก็รีบติดต่อไปที่สรรพากรทันที และแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการใช้บัญชีหลักในการยื่น ให้ตรวจสอบ

2.ตอนลงโพสต์ตอนแรกแจ้งว่าเกี่ยวกับโครงการทำไมถึงใช้บัญชีกสิกรยื่น ตอบ.. เพราะบริสุทธิ์ใจที่จะให้ตรวจสอบ(หลายคนมองว่าโง่ ทำไมไม่เอาบัญชีอื่นไปยื่น ส่วนตัวเรามองว่ามีจม.มาขนาดนี้ ยังไงก็ต้องมีข้อมูลเบื้องต้นอยู่แล้ว ยื่นไปจะได้รู้เรื่องและเสร็จเร็ว

3.ยอดขายเท่าไรทำไมเสียขนาดนี้ ตอบ..ยอดขายทั้งสิ้นของปี63 อยู่ที่ 3 ล้านบาท (ยอดจ่ายค่าของที่สั่งมาอยู่ที่ประมาณ80%+)

สาเหตุที่โพสต์คือ.. ไม่มีความรู้เรื่องเสียภาษีเลย อยากให้คนที่รู้มาให้คำปรึกษา และหาผู้ที่เผชิญปัญหาเหมือนเรามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ไม่คิดว่าจะดังขนาดนี้กะว่าแลกเปลี่ยนเพื่อนภายในเฟซแค่ไม่กี่ร้อยคน พอเรื่องดังและเป็นข่าวออกไป ทำให้รู้ว่า เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นหลายมุมมาก มีหลายคนที่กำลังเจอปัญหานี้อยู่ และกำลังหาวิธีแก้ไข

ปล.ที่หลายต่อหลายคนบอก ที่ยอดเยอะเพราะรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินใช่มั้ย.. ขอตอบเลยนะคะว่าไม่ใช่ ลูกค้าบางคนที่กล้าซื้อเยอะ เพราะเค้าบอกเป็นเงินฟรีจะกินเท่าไรยังไงก็ได้เค้าไม่ได้ควักจ่าย

ว่าด้วยเรื่องภาษีหลายคนอาจคิดแบบเราว่าคงเสียไม่กี่บาท ก่อนหน้าที่จะหันเห มาขายของแบบเดลิเวอรี่ ก็เคยมีหน้าร้านขายของที่บขส.เก่าที่จดทะเบียนจ่ายภาษีถูกต้องแต่เป็นชื่อแม่ ปีละ5_1000บ. (เราก็เลยคิดแบบโง่ๆว่าคงจะจ่ายเกินนั้นไม่เยอะไม่ถึงหมื่นจึงทำให้ชะล่าใจ) (#มีหลายคนที่ทักมาและคิดแบบเราว่าจะเสียไม่เยอะ) พอบขส.โดนย้าย เราก็พยายามดิ้นรนหาอาชีพ เพื่อมาเลี้ยงครอบครัวที่พ่อและแม่พิการทั้งคู่ ก็มาค้นพบการขายแบบเดลิเวอรี่นี่ล่ะทำให้อยู่รอดมาถึงปัจจุบัน แต่พอมาเจอยอดภาษีเท่านั้นล่ะ..ไปไม่เป็น คิดไม่ออก..บอกไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มทำอะไรยังไงก่อน

ทางสรรพากรแนะนำว่า.. ถ้าอยากให้ยอดลดกว่านี้ ให้ไปขอบิลต้นทางที่ซื้อของปี63ทั้งปีมา ซึ่งตอนนี้กำลังขออยู่ แต่ไม่รู้จะได้ครบและเกิน60%มั้ย เพราะก่อนหน้าไม่เคยขอรึเซฟเก็บไว้เลย และกำหนดยื่นเสียภาษีต้องภายในวันพรุ่งนี้30มิย. หลังจากนั้นจะมีเบี้ยปรับตามมา

หากมีอะไรคืบหน้าจะมาอัปเดตเรื่อยๆนะคะ ขอบคุณสำหรับผู้ที่ให้ความสนใจ แต่ขอร้องเหอะ ก่อนจะเอาเราไปว่าในทางไม่ดี ตรวจสอบเราก่อนได้นะ เราค้าขายแบบเปิดเผย เราไม่ได้หลบเลี่ยงภาษีเหมือนที่ใครๆกล่าวหา และที่บอกว่าทำไมไม่แจ้งยอดขาย เราไม่รู้จริงๆว่ามันจะดังและคนจะสนใจเยอะ เราก็โพสต์ทั่วไปตามประสาเราหวังเพียงให้คนรู้จักมาตอบ ในส่วนที่เราอยากรู้

แต่..ตอนนี้ตอบแล้วนะคะ ข้อความอาจจะดูเยอะๆและงงๆหน่อยๆ ต้องขออภัยด้วย เราตอบตามความรู้สึกความคิดของแม่ค้าธรรมดาๆคนนึง หากไม่ถูกใจใครต้องขอโทษจริงๆ

ปล.2 ยังอยากได้คนให้คำปรึกษาอยู่นะคะ เพราะตั้งแต่มะวานถึงตอนนี้เครียดจัด กินไรไม่ได้ สมองเบลอไปหมด ไม่รู้จะหาทางออกยังไง ใครพอมีคำแนะนำรบกวนด้วยนะคะ

ปล.3 เต็มใจที่จะเสียภาษีค่ะ แต่อยากถามดูว่ามีตรงส่วนไหนพอจะมาลดหย่อนได้เพิ่มอีกมั้ย เพราะมันเยอะมาก ถ้าหักจากยอดจ่ายออกจริงๆคำนวนแล้วน่าจะไม่ได้จ่ายเยอะขนาดนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook