อย่าหาทำ! เตือนประชาชนจงใจติดโควิดหวังเงินประกัน ผิดกฎหมายแถมชวดเงิน
จากกรณีข่าวลือในกระแสโซเชียล ที่ได้เผยแพร่ว่า ตอนนี้บางชุมชนที่โควิดระบาดหนัก เพราะมีคนตั้งใจเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงเพื่อติดโควิด-19 ทั้งนำหน้ากากคนติดโควิดมาใส่ ดื่มน้ำแก้วเดียวกับคนที่เป็นโควิดเพื่อหวังเอาเงินประกัน ขณะที่อีกมุมมองว่าเป็น
รายการโหนกระแสวันที่ 29 มิ.ย. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ อดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการสายกฎหมายและคดีสำนักงานศบก. , ฐวิกาญจน์ เดชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทวิริยะ ประกันภัยจำกัด (มหาชน) รวมทั้ง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร
ในกรณีการที่บางคนไปสมัครหรือซื้อประกันโควิด เจอ จ่าย จบ แล้วเอาตัวเองไปเป็นโควิด มันมีมั้ย?
อดิศร : ต้องเรียนก่อนว่าเป็นกระแสและข่าวที่เกิดขึ้น สิ่งที่สำนักงานยังไม่ได้รับการร้องเรียน แต่ถามว่าการที่เราออกมาให้ข่าวบ้าง เจตนารมณ์หลักๆ ไม่ได้จะเกิดผลกระทบหลักกับธุรกิจประกันภัยนะ เรามองภาพรวมภาพใหญ่ ทั้งอันตรายที่จะเกิดกับครอบครัวเขา ตัวเขา สาธารณสุข รวมถึงทำให้คนสุจริตพยายามบริหารความเสี่ยงตัวเองได้รับผลกระทบด้วย เพราะวิธีคิดต้องเรียนว่า ประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการออกแบบประกันโควิด ท่านเลขาฯ ได้ให้แนวคิดว่าเราควรมีประกันถูกๆ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ทำง่ายๆ จ่ายกันง่ายๆ เพื่อดูแลประชาชน เอกชนก็เห็นด้วย ซึ่งขับเคลื่อนกันได้ตามปกติ ก็ต้องเรียนว่าก่อนหน้านี้ระลอกแรกเคยมีข่าวตร.ท่องเที่ยวจับ ทลายแหล่งออกใบรับรองติดโควิดปลอม ปริ้นท์ออกมาแล้ว มีรายชื่อ แต่ถูกจับได้ก่อน ยังไม่มีการส่งบริษัทประกัน กระแสเมื่อวานที่โพสต์กันเรื่องการพยายามติดโควิด อยากเรียนว่ามีบางอย่างที่น่ากลัวอยู่และอาจทำให้เยาวชน วัยรุ่น ผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์อาจสับสน เพราะมีติ๊กต่อกบ้าง อะไรบ้างที่ออกมาโพสต์ว่าเข้ารพ. ออกมาแล้วและได้เงินใช้เรียบร้อยดีเท่านั้น เท่านี้บาท ผมมองว่าการสื่อสารแบบนี้ไม่ใช่วิธีคิดที่ถูกต้อง เพราะเราทำเพื่อป้องกันความเสี่ยง แล้วมันไม่ใช่เรื่องสนุกที่ใครสักคนจะมาเจ็บป่วย แล้วมันทำลายระบบที่ดี
กำลังจะบอกว่ามีเจ้ากรมข่าวลือเกิดขึ้น?
อดิศร : ในคดีอาญาทั้งหลาย ไม่ว่าใครก็ตามก็คงต้องรวบรวมหลักฐานก่อน ก่อนกล่าวหากัน ณ ตอนนี้ต้องบอกว่ามันเป็นข่าวในเรื่องการใส่หน้ากากทั้งหลายยังเป็นข่าวอยู่ แต่ถามว่ามีแนวคิดมั้ย มีการสื่อสารที่ผิดมั้ย ทำไมรัฐต้องออกมาเตือน ผมเรียนว่าไม่ใช่เรื่องเงินที่เป็นทุนประกันอย่างเดียว เงินที่คนๆ นึงจะได้อาจ 2-3-5 หมื่น แม็กซิมัมอาจจะแสนนึง เขาอาจเคยเห็นตัวผู้คนที่ติดโรคในระลอกแรก ซึ่งเชื้อโรคไม่ร้ายแรง ออกมาแล้วโอเค แต่วันนี้เชื้อโรคมีความร้ายแรงขึ้น เราก็กังวลเพราะสภาพเศรษฐกิจ หลายคนก็เดือดร้อน ถ้าเลือกทางผิด ไม่ใช่เรื่องได้เข้ารพ.แล้วจะได้ออกมา ความร้ายแรงหนักหนากว่านั้น
ถามคุณฐวิกาญจน์ยังมีประกันตัวนี้อยู่?
ฐวิกาญจน์ : ตัวเจอจ่ายจบ ปัจจุบันยังมีอยู่ค่ะ จริงๆ ของเรา เราเจอปุ๊บเราจ่ายปั๊บทันที แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นต้องพ้นระยะ 14 วัน เราจะมีชดเชยรายได้ให้อีก 1 ส่วน และมีตัวประกันอุบัติเหตุ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุให้อีก 1 ก้อน จริงๆ ของเราอาจไม่ได้จบ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเมื่อไหร่ที่ลูกค้าเป็นโควิด เราจ่ายไปเรียบร้อย กรมประธรรม์ยังเดินต่อไป เพราะเรายังมีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุให้อีก 1 ก้อน
เขาจ่ายคุณเท่าไหร่?
ฐวิกาญจน์ : 299 เจอจ่ายโควิด 3 หมื่น และมีชดเชยรายได้ให้อีกวันละ 300 สูงสุด 14 วัน และมีเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุให้อีก 1 แสนบาท แถมให้อีก
ถ้ามากกว่า 299?
ฐวิกาญจน์ : 399 เจอจ่ายได้ 5 หมื่น และ 599 เจอจ่าย 1 แสนบาท
เคยเจอมั้ยคนที่เขาทำกับคุณแล้วต้องจ่าย?
ฐวิกาญจน์ : เป็นโควิดแล้วมาเบิกเงินเยอะค่ะ หลักหลายพันคนที่มา ได้แสนนึงเป็นหลักพันกรมธรรม์ที่มาเบิกกับเรา
เฉพาะวิริยะ คนไปทำประกันโควิด กี่กรมธรรม์แล้ว?
ฐวิกาญจน์ : หลักล้านกว่ากรมธรรม์
ล่าสุดมีประเด็นแบบนี้เกิดขึ้น คุณโดนมั้ย?
ฐวิกาญจน์ : เรายังไม่ได้เจอเคสแบบนี้ รอพิสูจน์อยู่ แต่ ณ ปัจจุบันยังไม่มีเคสดังกล่าว
พิสูจน์กันได้?
ฐวิกาญจน์ : เราก็คงต้องพยายามหาทางพิสูจน์ให้มันได้
ได้แสนนึงไม่ต้องรอรักษา เป็นช่องว่างมั้ย?
ฐวิกาญจน์ : จริงๆ ด้วยกรมธรรม์มีระยะเวลาในการรอคอย 14 วันแรก ถ้าลูกค้าซื้อวันนี้ ไม่ได้คุ้มครองทันทีตัวเจอจ่าย ต้องพ้นระยะรอคอยไปก่อน 14 วัน นั่นหมายถึงวันที่ 15 เป็นต้นไปเราถึงจะจ่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าลูกค้าเข้าข่ายอย่างมีกระแสสังคมอยู่ปัจจุบัน เราก็มีอีกซอสนึงที่ตรวจสอบได้คือส่งเคลมดาต้าไป คปภ. ถ้าเห็นวาลูกค้าคนนี้เคลมหลายบริษัทประกัน ทางคปภ.จะมีการแจ้งกลับมาหาเราเหมือนกัน เราอาจไปตรวจสอบได้ ณ ตอนนั้น
หนึ่งคนอาจทำกรมธรรม์หลายๆ ที่ ถ้าจะเจ้าเล่ห์หน่อยก็ทำหลายบริษัท ถึงเวลาก็ได้เงินหลายแสน เอาชีวิตตัวเองไปเสียง คิดว่ามันมีมั้ย?
ฐวิกาญจน์ : ตอนเห็นข่าวแรกๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว เราเองไม่ได้เชื่อมาก แต่มารอบนี้ รู้สึกว่าค่อนข้างน่ากลัว เข้าไปดูในติ๊กต๊อก มีทั้งขายยาดมให้ติดโควิด เราก็ชักจะกลัวแล้ว เอาตรง ๆ ในมุมวิริยะเราก็ค่อนข้างกลัว เพราะเราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้คนอยากติด ตอนนี้สาธารณสุขเองก็ค่อนข้างน่าจะกังวล รพ.อาจมีรับรอง แต่หมอเริ่มไม่มีแล้ว เรากังวลในส่วนนั้นมากกว่า
ทนาย : เพื่อนผมซื้อเต็มเลย ซื้อที 7 ที่ ปีที่แล้วราคาถูกกว่าปีนี้ เขาก็ซื้อไว้ 7-10 ที่หวังว่าได้สักล้านนึงเจอตรวจโควิด
ฐวิกาญจน์ : อันนั้นเป็นการโปรเทค จริงๆ กลุ่มคนแบบนี้เยอะ เขามีการซื้อโปรเทค แต่ด้วยกระแสสังคมตอนนี้มันอาจจะกลับด้าน
ทำไมบริษัทประกันต้องทำโครงการนี้ขึ้นมา?
ฐวิกาญจน์ : ช่วงแรกที่มีการระบาด สาธารณสุขก็เป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะท้ายที่สุดถ้าลูกค้าไม่มีประกัน ยังไงรัฐบาลก็เป็นคนจ่ายง่ายๆ เราก็มองว่าอยากออกผลิตภัณฑ์เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงง่ายๆ ขายเยอะมั้ยไม่ได้มอง เรามองเรื่องการเยียวยา ตอนนั้นไม่ได้มองว่าต้องเป็นล้านกรมธรรม์ เรามองเรื่องการเยียวยาคนที่เป็น เพราะเมื่อไหร่ที่เขาเป็น เขารักษาตัวยาวมาก 14 วัน ระหว่างนั้นไม่ได้ทำงาน เหมือนเอาเงิน 500 กว่าบาทไปแลกเงินแสน แต่อย่างที่บอกเรามองการเยียวยาคนป่วย เยียวยาลูกค้าที่ซื้อประกันของเรา
สมมติคนติดวันนึง 2 พัน 1 พันที่ทำประกัน แล้วได้แสนนึง คูณไปอีก 1 แสน เท่ากับคุณต้องจ่ายวันนึงร้อยล้าน อันนี้เป็นสาเหตุหรือเปล่าเขาลือกันเยอะว่ามันเป็นแผนของทางประกันเพื่อล้มโครงการนี้ เร็วๆ นี้จะล้มโครงการนี้ทิ้งแล้ว?
ฐวิกาญจน์ : จริงๆ ถามว่าล้มมั้ย วิริยะไม่ได้คิดว่าจะล้มโครงการนี้ซะเลยทีเดียว จริงๆ เราจะมีการปรับเปลี่ยนแผน เราจะมีแผนใหม่ออกมาวันที่ 16 ก.ค. เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากกว่า
เจอไม่จ่าย ไม่จบ หรืออะไร?
ฐวิกาญจน์ : (หัวเราะ) อาจมีเจอจ่ายบ้าง แต่แค่เล็กน้อย ไม่ได้เยอะขนาดนี้ เพราะเรามองว่าโปรดักตัวนี้ก็ยังเหมาะสมกับตัวลูกค้าที่เป็นโควิดอยู่ จริงๆเราไม่ได้มองเรื่องตัวเคลมที่เกิดขึ้น ตอนเราทำผลิตภัณฑ์ออกมา เรามองหลักของวิริยะเหมือนกันว่าเสี่ยงมาก เสี่ยงน้อย เสี่ยงกลาง เงินเราจะพอเพียงในการจ่ายเคลมหรือเปล่า แต่ที่เราปรับเปลี่ยนแผน เพราะเรามองกระแสสังคมเป็นที่ตั้ง จากข่าวที่ได้รับมา
มีผลกระทบมั้ยกับข่าวที่ออกมา?
ฐวิกาญจน์ : ณ ปัจจุบัน ยังตรวจสอบไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามีจริงหรือเปล่า แต่ดูในติ๊กต๊อกเริ่มมีหลายๆ คนพูด เริ่มมีคนติดและไปชวนเพื่อให้มาติด เรามีความกังวล
พูดกันขนาดนั้นเลยเหรอ?
อดิศร : สิ่งที่เห็นหลายอันคือการสื่อสารทำนองว่าเขาไปนอนสักพัก ไม่กี่วันสบายๆ ได้เงินฟรีๆ กลับบ้าน กลายเป็นว่าสิ่งที่เราต้องการ จะใช้ระบบประกันภัยมาเป็นรากฐานของสังคมให้คนได้ใช้ประโยชน์ ถ้าใช้ในทางที่ผิด สื่อสารในทางที่ผิด นอกจากกระทบกับคนสุจริต อาจเข้าถึงประกันได้ยากขึ้น เมื่อเช้าท่านเลขาฯ มีการเชิญประกัน สมาคมประชุมออนไลน์
เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน?
อดิศร : ต้องบอกว่า เราปกป้องประกัน ดูแลสมดุลให้ธุรกิจมีความสมดุล พร้อมจ่ายเคลมตลอดเวลา ท่านกำชับว่าการจ่ายเคลมต้องรวดเร็วอยู่ เว้นแต่กรณีมีประเด็นน่าสงสัยไม่สุจริตจริงๆ ฉะนั้นเป็นการตอบรับของเอกชนด้วย สาธารณชนที่มีความสุจริตสบายใจได้ อ่างเพื่อนพี่ทนายซื้อหลายฉบับ บางคนซื้อหลายฉบับ แต่โดยสภาพดูแล้วไม่แปลก ค่อยๆ ซื้อ สมดุลกับวิถีชีวิตของเขา ขณะที่บางคนเพิ่งมีข่าวสองสามวันเริ่มซื้อหลายฉบับ มันก็เกิดข้อสังเกต แล้วการใช้ชีวิตปกติเป็นยังไง รายได้ปกติเป็นยังไง ถ้ามีข้อสังเกตแบบนั้นเราถึงมาสอบสวนว่ามีความผิดปกติมั้ย แต่เรายืนยันว่าในเคสคนสุจริตทั้งหลายไม่ได้รับผลกระทบแน่นอน ยืนยันครับ
เรื่องนี้พี่เคลื่อนไหวมาก มีคนทำจริงแล้วเหรอ?
ทนาย : มีบางคนซื้อไม่เยอะ อยู่ในพื้นที่เสี่ยงแล้วไม่สนใจทั้งสิ้น เพราะเขาเคลมได้จากบริษัทประกันหลายๆ เจ้าที่เขาเคลมไว้ได้ ได้เงินไปตั้งเยอะ เขามองว่าเขาคุ้ม แต่ในแง่มุมทางกฎหมาย มีบางกรณีที่ผู้รับประกัน ทางบริษัทประกันไม่ต้องรับผิดชอบเลย คือลูกค้ารู้ว่าพื้นที่ตรงนี้มีความเสี่ยง ยังวิ่งไปให้ตัวเองติดโควิด ถ้ากรณีแบบนี้ บริษัทประกันปฏิเสธการจ่ายเงินได้ ต่อให้ทำมา 5-10 บริษัท ถ้าตรวจพบว่าคุณตั้งใจให้ติดโควิด อย่างแรกเลยคุณไม่ได้เงิน สองคุณจะถูกดำเนินคดีอาญาย้อนหลังไปอีก ซึ่งเป็นคดีที่มีความผิดเรื่องฉ้อโกงฉ้อฉล มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับ 3 แสน ในอดีตมีคนโดนดำเนินคดีแบบนี้ แต่ในเรื่องเชื้อโรคยังไม่มีชัดเท่านั้นเอง
กรณีประกันโควิด แล้วพอไปทำหลายอัน มีคนทำแล้วจริงๆ เหรอ?
ทนาย : คนมีกำลังจ่ายเขาไม่เอาตัวเองไปเสี่ยง แต่คนเอาตัวเองไปเสี่ยงอาจอยู่อีกกลุ่มนึง ซึ่งไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว ผมว่าเงินแสนนึงสำหรับเขามันก็เยอะ เพราะจ่าย 500 แล้ววิ่งไปติดโควิดเลย หรืออยู่พื้นที่เสี่ยงอยู่แล้ว
บริษัทประกันจะเปลี่ยนนโยบาย เจอจ่ายจบไม่เอาแล้ว?
ฐวิกาญจน์ : คือจะยังมีจ่าย แต่มีจ่ายน้อยลง แล้วไปเน้นเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้มากขึ้น เรามองว่าเราอาจไปช่วยภาครัฐ เพราะรัฐบาลประกาศอยู่แล้วว่าถ้าใครมีประกันสุขภาพก็ให้ใช้ประกันสุขภาพก่อน เราก็มองว่าเราไปตอบโจทย์รัฐบาลด้วยในการเพิ่มค่ารักษาพยาบาลให้เยอะขึ้น เพราะแผนเราปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลเรายังไม่เยอะมาก ไปเพิ่มความคุ้มครองรักษาพยาบาลให้ได้สัก 8 หมื่นหรือ 1 แสน เพื่อให้โคฟเวอร์กับที่ลูกค้าได้เข้ารพ.
มีอาชีพที่ไม่รับทำมั้ย?
ฐวิกาญจน์ : มีบุคลากรทางการแพทย์ ต้องบอกว่าเราไม่ได้ไม่รับ เรามีแผนสำหรับเขาโดยเฉพาะเป็นเบี้ยพิเศษสำหรับคนกลุ่มนี้ เขาทำได้แต่เบี้ยเป็นอีกเบี้ยหนึ่ง อาจปรับขึ้นนิดหน่อย ตอนเราขายไปก็หลักพัน เพราะด้วยความที่บุคลากรทางการแพทย์มีความเสี่ยงกว่าคนปกติ
มีน้องคนนึงบอกว่าเขาเป็นบุคลากรทางการแพทย์ เขาไปทำแต่ไม่ได้?
ฐวิกาญจน์ : มันบางที่ บางที่ก็รับ บางที่ก็ไม่รับค่ะ
ทนาย : เดี๋ยวจบรายการจะแห่มาสมัครมาก ต้องบอกอย่างนึงว่าบริษัทประกันเขาต้องประเมินความเสี่ยง ถ้าคนจำนวนมากมาซื้อ เขาอาจจะปิดหรือปรับขึ้นไปก็ได้ ส่วนหนึ่งเราตรวจโควิดได้วันละเท่าไหร่แค่นั้นเองที่จะเอามาใช้เบิก
ตอนนี้ประเด็นไปไกลมาก คนไทยเองลำบาก บางคนอยากเอาชีวิตไปเสี่ยงเพื่อให้ได้เงินมา เราแก้ไขยังไงดี?
อดิศร : เป็นเรื่องดีที่หลายภาคส่วนเข้ามาสนใจและประชาสัมพันธ์ เราเชื่อว่าถ้าทุกคนเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร จะไม่มีคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปดำเนินการตามนั้น ถ้าสมมติเจตนาเข้าไปติดโควิด กฎหมายเก่าประมวลแพ่งบอกว่ากระทำการทุจริตเพื่อให้ได้เงินประกัน ประกันไม่คุ้มครอง ผู้รับประกันไม่ต้องจ่าย ประเด็นถัดมาเข้าข่ายฉ้อฉลประกันภัย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ผมเรียนว่านี่คือความเลวร้ายของมันคุณเอาชีวิตไปเสี่ยง และโอกาสที่จะไม่ได้เงินก็มี โอกาสโดนคดีอาญาก็มี และอยากเรียนว่ากฎหมายฉ้อฉลประกันภัย ไม่ได้มีขึ้นเพื่อจับผิด วิธีคิดที่เราสร้างขึ้นมาตามหลักสากลคือเบี้ยประกันทุกบาทที่โอนเข้าบริษัท มันควรถูกใช้สำหรับคนสุจริต ไม่ควรมีคนแปลกๆ เข้ามาเพื่อเอาเงินนั้นออกไป เป็นต้นทุนให้เราทุกคน จ่ายเบี้ยประกันที่แพงกว่าจริง ต้นทุนสุขภาพที่คนเข้าไม่ถึงเพราะมีคนทำวิธีการต่างๆ เป็นการฉ้อโกง รัฐต้องเข้ามาดูแลด้วยเหตุผลตรงนี้ เพื่อให้ทุกคนจ่ายเบี้ยที่เหมาะสม ให้ทุกคนเข้าถึงประกันภัย
มีคนร้องมาว่าเขาเองเป็นโควิด ทำเรื่องไปขออนุมัติการเบิกจ่ายกับทางวิริยะ วิริยะให้สำรองจ่ายไปก่อน เขาก็สำรองจ่ายไป ปรากฏว่าคนอนุมัติลาออกไปแล้ว?
ฐวิกาญจน์ : อันนี้เดี๋ยวขอตรวจสอบเพิ่มนะคะ โจทย์แรกที่บอกว่าสำรองจ่าย ด้วยแผนเราเป็นแผนเจอจ่าย ลูกค้าต้องจ่ายไปก่อน ต้องจ่ายเองอยู่แล้ว เมื่อไหร่ลูกค้าส่งผลแล็บมา เราก็จ่ายทันที แต่อันนี้ขอไปหาข้อมูลก่อน เพราะพนักงานเราลาออกจริง แต่ไม่เกี่ยวกับการจ่ายสินไหม ใดๆ ทั้งสิ้น กระบวนการจ่ายสินไหมต้องเดินไปปกติ เคสนี้ขอตรวจก่อน
เขาบอกติดอยู่และรักษา แต่ยังไม่ได้ตังค์?
ฐวิกาญจน์ : ถ้ามีผลแล็บให้เรา เราก็ทำจ่ายได้เลย ระยะการจ่ายเราตามคปก.ก็ 15 วัน เราจะทำเงินจ่ายให้ อันนี้ไม่เกี่ยวกับการรักษาเลย
จะเลิกทำเมื่อไหร่?
ฐวิกาญจน์ : 30 มิ.ย. เราจะมีแผนปรับเปลี่ยนใหม่ออกมา
อดิศร : ไม่ใช่ทุกบริษัทนะครับ แล้วแต่ที่
เพราะบริษัทโดนเยอะหรือเปล่า?
ฐวิกาญจน์ : ไม่เกี่ยวกับสินไหม เจตนาของเรา เรามองผลประโยชน์ภาพรวมเป็นหลักมากกว่า เดี๋ยว 16 ก.ค. เราจะมีแผนใหม่ออกมา
แล้วล้านกรมธรรม์ที่เขาทำมา?
ฐวิกาญจน์ : ไม่เกี่ยวค่ะ ที่ทำมาแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องสินไหมเลย ยังไงเราก็รับผิดชอบ ครอบคลุมปีต่อปีค่ะ ซึ่งอยู่ที่สถานการณ์ ณ ตอนนั้นมากกว่าค่ะ จริงๆ ก่อนหน้านี้ปีที่แล้ว ตัวเจอจ่ายเราก็ปิดไปช่วงนึงด้วยกระแสสังคมเหมือนกัน แต่พอผ่านมา 2-3 เดือน เราก็เปิดมาขายใหม่ เราปิดเพราะกระแสสังคมมากกว่า
เป็นแล้วเป็นอีก จ่าย 2 ครั้งมั้ย?
ฐวิกาญจน์ : กรมธรรม์เราได้ครั้งเดียวต่อปี แต่แผนวิริยะเรา ถ้าเจอจ่าย เรายังได้รับกรณีเสียชีวิตอีกก้อนนึงอยู่แล้ว
มีทางแก้ยังไงถ้าคนทำแบบนั้นจริงๆ?
ทนาย : ก็มีคนทำจริง แต่พอวันนี้เขาไม่โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแล้ว เขาจะไปลอบทำ เคลมเงียบๆ เพราะมีคนไปผลิตสื่อคอนเทนต์ให้คนหลงเชื่อแล้วทำตาม ต้องบอกอย่างนึงไม่รู้ว่าป่วยแล้วจะเสียชีวิตหรือเปล่า เป็นการล้อเล่นกับตัวเองและคนรอบข้างด้วย ถ้าบริษัทประกันตรวจเจอ เงินที่เขาจ่ายไปก็เอาคืนได้นะ แล้วมีคดีอาญาตามหลัง ไม่โดนปีนี้ ปีหน้า ปีถัดไปก็โดนได้ เพราะทุกบริษัทเขามีสุ่มตรวจอยู่แล้ว ถ้าโดนก็ต้องตอบให้ได้นะ
เป็นไปได้มั้ยเมื่อก่อนคนไม่ได้ติดเยอะขนาดนี้ ประกันภัยต่างๆ นานาก็โหมทำเพราะคนติดน้อย แต่พอคนติดเยอะๆ ก็เลยไม่ไหว ยกเลิก เพราะต้องมานั่งจ่ายค่าสินไหมวันนึง 100 ล้าน?
อดิศร : ตอนเราทำกรมธรรม์นี้ ท่านเลขาฯ โยนไอเดียลงไป เราต้องการช่วยสังคม เราไม่คิดเลยว่ายอดขายจะสูงขนาดนี้ แต่ก็ดีใจว่าประชาชนรู้ตระหนักบริหารความเสี่ยงของตัวเอง นั่นเป็นจุดที่ดี เรื่องนี้ประกันภัยตระหนักมาตลอด ต้องการให้ทุกคนเข้าถึงประกันภัย ไม่ใช่เรื่องที่เราบอกว่าเราจะหยุดขายประกัน แต่เป็นปกติที่บริษัทต้องบริหารความเสี่ยง ต้องดูว่าตัวเองรับมาขนาดไหน เงินกองทุนเป็นเท่าไหร่ รับแล้วต้องมีเงินจ่ายทันที เขาต้องมานั่งประมวลตัวเลขบ้าง และปรับปรุงแบบบ้าง ถ้าอันตรายหรือไม่ถูกกับสภาพการณ์ อาจมีการปรับบ้าง แต่ยืนยันว่าตอนนี้สถานการณ์การเงินของบริษัทประกันยังมั่นคง และวิธีคิดที่บอกว่าประกันตั้งใจล้มเลิกโครงการนี้ไม่ใช่ เขายังอยากทำ แต่เราต้องมีการสะท้อนบางอย่างว่าของที่ดีต้องไม่กลับไปทำร้ายสังคม ไปทำร้ายระบบสาธารณสุข
ถ้ามองอีกมุม ถ้ามองว่าเรื่องนี้เป็นเฟกนิวส์ ไม่มีคนเสียหายมาร้อง ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ ทำไมไม่เปิดให้ประชาชนต่อไปที่เขาได้เอาเงินน้อยมาปกป้องดูแลตัวเอง จะได้มีเงินก้อนกลับมา?
ทนาย : หรือฉุกคิดว่ามีคนกำลังทำแบบนี้อยู่ เลยพยายามเบรก
อดิศร : ต้องเรียนก่อนว่าเมื่อมีข่าวว่าอาจจะเกิดอะไรที่ไม่ดี เราควรตักเตือนให้เขาตระหนักรู้ ถามว่าเราจะเห็นตัวเลขตัวนี้ตอนไหน ก็สักพักนึง เพราะบริษัทมีการส่งตัวเลขอยู่แล้วว่ามีการซื้อประกันโควิด จริงๆ เราสามารถตรวจในฐานข้อมูลได้ว่า นายก. นายข. ซื้อประกันมากน้อยยังไง และจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาใกล้ๆ