อดีตผู้ป่วยสาวโพสต์ขาย "ยาดมเชื้อโควิด" ดมปุ๊บติดปั๊บ ได้เงินประกันหลักแสนทันที

อดีตผู้ป่วยสาวโพสต์ขาย "ยาดมเชื้อโควิด" ดมปุ๊บติดปั๊บ ได้เงินประกันหลักแสนทันที

อดีตผู้ป่วยสาวโพสต์ขาย "ยาดมเชื้อโควิด" ดมปุ๊บติดปั๊บ ได้เงินประกันหลักแสนทันที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวอ้างเป็นอดีตผู้ป่วยโควิด โพสต์ขาย "ยาดม" ดมปุ๊บติดโควิดปั๊บ สำหรับคนอยากป่วยเพื่อหวังเงินประกัน  

จากกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งที่อ้างตัวที่ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด ได้โพสต์รูปและเอกสารยืนยันว่าเคยป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม ม.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์ คลิปวิดีโอประกาศขายยาดมที่ใช้ในระหว่างที่เข้ารับการรักษาตัว เพื่อให้ผู้ที่สนใจที่ทำประกันโควิดไว้กับบริษัทเอกชน และต้องการที่จะป่วยเพื่อเอาเงินประกันนับแสนบาทจากบริษัทประกันชีวิต เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ค่อยดี

ประเด็นดังกล่าวกำลังเป็นที่สงสัย และเป็นที่สนใจ ของประชาชน ว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมาย และมีความกังวลใจว่าอาจมีการแพร่เชื้อไวรัสโควิดและเกิดการแพร่ระบาดของเชื้ออีกครั้งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่  

ในประเด็นดังกล่าวงานประชาสัมพันธ์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นและอยู่ระหว่างตรวจสอบหาตัวผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นบุคคลดังกล่าวกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีนำข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่คอมพิวเตอร์ ซึ่งหากการกระทำดังกล่าวสำเร็จ มีผู้ติดเชื้อก็จะเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรค  

ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่หญิงสาวคนดังกล่าวโพสต์ เป็นรูปที่เอกสารยืนยันว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดและเป็นภาพกิจกรรมในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งอาจจะใช่รูปของผู้หญิงคนดังกล่าวหรือไม่ใช่ก็ได้  

อย่างไรก็ตามจากข้อมูล โรงพยาบาลสนาม จ.เชียงใหม่ เปิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 ซึ่งผู้ป่วยล็อตแรกที่รักษาตัวจนหายและออกจากโรงพยาบาลสนาม ใช้เวลา 14 วัน ซึ่งโรงพยาบาลสนาม จ.เชียงใหม่ ได้ปิดตัวลงเมื่อวันที่15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ระยะเวลาล่วงเลยมา 45 กว่าวัน  จึงคาดว่าผู้หญิงคนดังกล่าวไม่มีเชื้อในร่างกายแล้ว ส่วนยาดมที่อ้างว่ามีเชื้อไวรัสโควิดจะเป็นเชื้อตาย นอกจากว่าผู้หญิงคนดังกล่าวจะนำเชื้อจากที่อื่นมาใส่ในยาดมเท่านั้น เชื้อจึงจะสามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้  

อย่างไรก็ตาม สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ขอเตือนประชาชน ที่ทำประกันโควิด-19 หรือประชาชนทั่วไปให้งดเว้นการกระทำดังกล่าว เนื่องจากหากติดเชื้อไปแล้วอาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตและกระทบกับสุขภาพ  

 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook