ชีวิตรัดทด!สาวลูก3เร่ขายไตย่านพลับพลาไชย

ชีวิตรัดทด!สาวลูก3เร่ขายไตย่านพลับพลาไชย

ชีวิตรัดทด!สาวลูก3เร่ขายไตย่านพลับพลาไชย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สาวลูก 3 นั่งรถจากเมืองจันทบุรีเข้ากรุงเดินเร่ขายไต เผยชีวิตสุดรันทด ผัวพากิ๊กเข้าบ้านบังคับสวิงกิ้ง บอกปัดถูกซ้อมจนหูหนวก-แท้งลูก เคราะห์ซ้ำเป็นมะเร็ง หมดหนทางร้อง"ระเบียบรัตน์"รับปากช่วย

เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 22 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายรุ่งเพชร ศรีสุวรรณ เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งว่ามีหญิงวัยกลางคนยืนเร่ขายไตอยู่บนถนนบริเวณ ถนนพลับพลาไชย แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. อยู่ใกล้กับ สน.พลับพลาไชย หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพบ นางปทุม เจียมจิรประเสริฐ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1-2 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โดยนางปทุม ยืนร้องไห้อยู่หน้า สน.พลับพลาไชย

สอบถามนางปทุม เปิดเผยว่า ปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพ ส่วนสาเหตุที่มายืนขายไตเนื่องจากตอนนี้กำลังตกงาน ไม่มีเงิน อีกทั้งยังถูกสามีทำร้ายร่างกายจนพิการ และได้ทอดทิ้งไป โดยก่อนหน้านี้เคยเปิดร้านเสริมสวยอยู่ใน จ.ตราด ส่วนสามีทำงานธนาคารแห่งหนึ่ง และยังมีอาชีพขายสินค้าตรงเป็นอาชีพเสริม โดยอยู่กินกันมาหลายปีจนมีลูกด้วยกัน 3 คน ต่อมาตนจับได้ว่าสามีพาผู้หญิงอื่นมานอนที่บ้าน รวมทั้งพูดชวนให้ตนมีเพศสัมพันธ์แบบเซ็กซ์หมู่อีกด้วย แต่ตนไม่ยอม จึงถูกสามีทุบตีทุกวัน และได้ไล่ตนออกจากบ้านด้วย

จากนั้นก็บังคับให้ตนไปอำเภอเพื่อเซ็นใบหย่า แต่ตนไม่ยอมเพราะสงสารลูกๆ จึงถูกสามีเตะเข้าที่บ้องหูอย่างแรง ซึ่งขณะนั้นตนกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 ได้ 3 เดือนทำให้แท้งลูก และแก้วหูซ้ายทะลุจนหูหนวกสนิท แขนขวาชาไม่มีแรง ตนจึงตัดสินใจแยกออกไปอยู่ที่อื่น โดยนำลูกคนโตไปด้วย

"จนล่าสุดปลายปี 50 สามีได้ทำเรื่องฟ้องศาลเพื่อหย่าขาด โดยที่ฉันไม่รู้เรื่องมาก่อน ซึ่งสามีโกหกศาลหน้าตาเฉยว่าฉันคบชู้สู่ชาย จนศาลมีคำสั่งให้หย่า และไม่ยอมแบ่งสินสมรสให้ ซึ่งฉันได้แต่ร้องไห้ และระหว่างที่ศาลมีคำสั่งให้หย่าแล้วนั้น ฉันก็ยังถูกสามีละลานอีกจนต้องขายร้านเสริมสวยทิ้งแล้วย้ายมาเป็นลูกจ้างในจันทบุรี และต้องส่งลูกสาวมาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ตอนนี้ฉันปวดท้องอย่างรุนแรงจึงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ก็พบว่าเป็นมะเร็งมดลูก หมอบอกว่าตอนแท้งลูกไม่ได้ขูดมดลูกทำให้มีเนื้องอกที่มดลูกจนกลายเป็นมะเร็ง ซึ่งต้องผ่าตัดใช้เงินมาก ตอนนี้ไม่มีเงินคงหมดหนทางรักษาตัว จึงตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯเพื่อขายไตโดยไม่ได้บอกลูกสาวให้รู้เรื่อง เพราะกลัวลูกจะอับอาย" นางปทุม กล่าวทั้งน้ำตา

นางปทุม กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้เดินทางไปร้องเรียนกับนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิชย์ เพื่อให้ช่วยเหลือ ก็รับปากว่าจะช่วยฟ้องร้องในเรื่องสินสมรส ให้ แต่ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง กระทั่งเมื่อช่วงเช้าตนปวดท้องอย่างรุนแรงจนถึงขนาดกลั้นน้ำตาไม่ไหว จึงเดินทางไปโรงพยาบาลหัวเฉียว เพื่อจะขายไต แต่ทางโรงพยาบาลไม่รับเพราะไม่มีนโยบาย ตนไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจป่าวประกาศขายไตตัวเองกับประชาชนที่สัญจรไปมาละแวกนี้ ส่วนราคานั้นไม่ได้ตั้งเอาไว้ แล้วแต่จะมีผู้ใจบุญให้ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต้กตึ้งเข้ามาพูดคุย ก่อนประสานผู้สื่อข่าวเพื่อขอความกรุณาให้ผู้ที่ใจบุญเมตตาผู้หญิงสิ้นไร้ไม้ตอกคนนี้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook