สุวรรณภูมิยัน เหตุโรงงานไฟไหม้ยังไม่กระทบการบิน หวั่นหากระเบิดซ้ำ อาจทำรันเวย์แตก
ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมและเม็ดพลาสติกขนาดใหญ่ ซอยกิ่งแก้ว 21 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ตั้งแต่ตี 3 ที่ผ่านมา ผ่านมานานกว่า 6 ชม.เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยยังมีกลุ่มควันสีดำหนาแน่นพวยพุ่งออกมาจากโรงงานดังกล่าว และมีคำสั่งการให้ถอนกำลังเจ้าหน้าที่รวมถึงประชาชนออกจากพื้นที่ให้อยู่ในจุดปลอดภัยรัศมีประมาณ 5 กม.เนื่องจากมีรายงานว่ายังมีถังสารเคมีขนาดใหญ่น้ำหนัก 20,000 ลิตร อยู่ใกล้กับจุดที่ยังมีไฟปะทุจึงเกรงว่าจะเกิดการระเบิดอีกครั้ง
วันนี้ (5 ก.ค.) นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทยจำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นหน่วยให้บริการจราจรทางอากาศ ทำการเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์
เบื้องต้นกลุ่มควันจากการระเบิดยังไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนวิสัยต่อการทำการบิน โดย บวท. ยังสามารถให้บริการจราจรทางอากาศ ทำให้สายการบินยังสามารถทำการบินได้ตามปกติ ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีพื้นที่บางส่วนที่อยู่ในรัศมีอพยพ คือพื้นที่ส่วนที่เป็นออฟฟิศสำนักโครงการซึ่งล่าสุดสั่งให้พนักงานทำงานที่บ้านแล้ว
ด้าน นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติการ บวท. กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มควันจากการระเบิดยังไม่รบกวนทัศนวิสัยของนักบิน เนื่องจากกลุ่มควันได้มีการลอยขึ้นสูงก่อนที่จะพัดมายังแนวร่อนของสนามบิน จึงยังไม่กระทบแนวร่อนขึ้น และลงของอากาศยาน โดยยังทำการบินได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันมีการทำการบินราว 200 เที่ยวบินต่อวัน
"ขณะนี้ บวท. และ ทอท. กำลังจับตา และประเมินความเสี่ยงอยู่ เนื่องจากขณะนี้ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ และยังต้องเฝ้าระวังการระเบิดระลอกที่สอง สำหรับถังเคมี 20,000 ลิตร เพราะอยู่ห่างจากกึ่งกลางทางวิ่งด้านตะวันตกไม่ไกลมาก ราว 2-3 กิโลเมตร หากมีการระเบิดเกิดขึ้นจริง จะต้องเร่งประเมินความเสียหายว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะบริเวณรันเวย์ว่ามีการแตกร้าวหรือไม่ และมีกลุ่มควันเข้ามารบกวนภายในสนามบินแนวร่อน แท็กซี่เวย์ รันเวย์ มากน้อยแค่ไหน หากรันเวย์เสียหายแตกร้าว หรือกลุ่มควันลอยต่ำก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำการบิน” นายทินกร กล่าว