ลูกชายช็อก เห็นคาตาพ่อถูกลุงแอบรักแม่ยิงดับ วิ่งหนีตายไปบ้านข้างๆ ยังไม่รอด

ลูกชายช็อก เห็นคาตาพ่อถูกลุงแอบรักแม่ยิงดับ วิ่งหนีตายไปบ้านข้างๆ ยังไม่รอด

ลูกชายช็อก เห็นคาตาพ่อถูกลุงแอบรักแม่ยิงดับ วิ่งหนีตายไปบ้านข้างๆ ยังไม่รอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลุงวัย 68 ปี ฉุนขาด อ้างถูกหนุ่มคราวลูกกล่าวหาว่าเป็นกิ๊กกับเมีย เรียก "ไอ้โง่" ควงลูกซองบุกกระหน่ำยิง วิ่งหนีตายไปบ้านข้างๆ แต่ไม่รอด

จากกรณีที่มีคนร้ายอาวุธปืนลูกซองบุกยิง นายอาทร อายุ 38 ปี เข้าที่ใบหน้าจนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 4 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ก.ค.64 เมื่อเวลา 16.30 น. พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ สภ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว นายมน อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนลูกซองบุกยิง นายอาทร ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายหลังจากที่ผู้ต้องหาได้ประสานเข้ามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

จากการสอบถาม นายมน อายุ 68 ปี ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองได้มีการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงกับนายอาทร ผู้ตาย โดยนายอาทรได้ใช้ถ้อยคำด่าตนเองอย่างรุนแรง และกล่าวหาว่าตนเป็นกิ๊กกับภรรยาของนายอาทร และด่าหยามตนว่าเป็นไอ้โง่ ในขณะที่ตนเองไปช่วยลากรถให้กับภรรยาผู้ตาย

ตนเองจึงผูกความแค้นเพราะตนเองเป็นคนไม่ยอมใคร จึงกลับไปบ้านเพื่อเอาปืนลูกซอง และขับรถจักรยานยนต์ไปจอดไว้ใกล้กับบ้านพักของนายอาทร ผู้เสียชีวิต ที่ได้เช่าพักอาศัยอยู่กับครอบครัว ก่อนจะบุกเข้าไปยิงนายอาทรที่นั่งอยู่หน้าบ้าน แต่พลาด

นายอาทรวิ่งหนีไปหลบในบ้านเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียง แล้วปิดประตู นายมน ผู้ก่อเหตุจึงตามไปดึงประตูออกแล้วจ่อยิงไปอีก 2 นัด กระสุนปืนเข้าใบหน้าด้านขวา 1 นัด พลาดหนึ่งนัด เมื่อเห็นนายอาทรเสียชีวิตแล้ว จึงเดินกลับไปเอารถจักรยานยนต์ที่จอดเอาไว้ แล้วขับหนีไปกบดานในกระท่อมแห่งหนึ่ง เพื่อสงบจิตใจก่อนที่จะติดต่อขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

จากการสอบถาม นางภัทราภร อายุ 45 ปี แฟนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผู้ก่อเหตุนั้นได้มาแอบชอบตนเอง แต่ด้วยความที่ตนเองนั้นมีแฟนอยู่แล้วคือผู้เสียชีวิต ตนเองก็ไม่สนใจที่จะเล่นด้วย ผู้ก่อเหตุจึงมีปัญหากับผู้เสียชีวิตเรื่อยมา โดยปกติที่มีปัญหากันก็จะคุยกันแยกย้ายกันได้

แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ คิดว่าจะจบด้วยดี เนื่องจากมีการแยกย้ายกันไป แต่หลังจากแยกย้ายกันไปผู้ก่อเหตุได้กลับไปเอาปืนลูกซองยาวกลับมาไล่ยิงผู้ตาย และตนเองจนต้องวิ่งหนีเข้าไปขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้าน

เหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเองรู้สึกเสียใจมาก ตนนั้นอยู่กับผู้ตายมาตลอด ผ่านร้อนผ่านหนาวมาด้วยกันเยอะ และเหตุการณ์นี้ ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุนั้นทำลงคอได้ยังไง เด็กก็อยู่ตรงนั้น ลูกผู้ตายก็อยู่ตรงนั้น ทั้งลูกและตนเองนั้นพากันหลบอยู่ในมุมของบ้านของเพื่อนบ้าน ส่วนผู้ตายนั้นอยู่ตรงประตู ผู้ก่อเหตุนั้นเห็นผู้ตายจึงเอาปืนส่องเข้ามาตามช่องว่างของหน้าต่าง และลั่นไกยิงผู้ตาย

ขณะที่ ด.ช.เก่ง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ลูกชายของผู้ตาย กล่าวว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้มาก เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นต่อหน้า ก่อนเกิดเหตุตนเองเห็นพ่อกับผู้ก่อเหตุทะเลาะกัน แม่ไปห้ามไว้ พ่อจึงได้เดินไปหลังบ้านเพื่อที่จะโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ หลังจากนั้นระหว่างที่แม่กำลังไปห้าม แต่ผู้ก่อเหตุก็ได้เดินไปเอาปืนลูกซองมายิงพ่อจนเสียชีวิต ซึ่งตนไปหลบอยู่อีกฝั่งของบ้านเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ถึงกับช็อกกับภาพดังกล่าวมาก

ด้าน นางนพรัตน์ อายุ 40 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตาย และเป็นบ้านที่ผู้ตายและครอบครัววิ่งหนีมาหลบจนถูกยิงเสียชีวิต เล่าว่า ขณะเกิดเหตุผู้ตายและครอบครัวได้วิ่งมาทางบ้านตนเองที่มีบ้านติดกัน ซึ่งผู้ตายและครอบครัวนั้นมาเช่าบ้านอยู่ข้างๆ ตอนนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนมีการทะเลาะกันเสียงดัง ซึ่งปกติผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตนั้นก็มีเรื่องกันมาก่อนอยู่แล้ว

ในคืนเกิดเหตุได้ยินเสียงผู้ตาย และครอบครัววิ่งมาขอความช่วยเหลือที่ประตูหน้าบ้านเมื่อเปิดประตูออกไปดูเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านจึงเปิดประตูออกไปรับ ผู้ตายและครอบครัวก็ได้วิ่งเข้ามาหลบในตัวบ้าน ส่วนผู้ตายนั้นวิ่งเข้ามาไม่ทัน จึงอยู่ตรงประตูบ้าน ผู้ก่อเหตุจึงเดินมา และใช้ปืนลูกซอง แหย่เข้ามาตรงช่องประตู และยิงไปยังผู้เสียชีวิต

ส่วนสาเหตุนั้นตนเองไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร แต่รู้สึกตกใจและหดหู่ กับเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดมาเกิดขึ้นที่บ้านตนเอง และเป็นเพื่อนบ้านข้างกันเจอหน้ากันประจำ และเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าเด็กๆ ซึ่งคราบเลือดของผู้ตายนั้นก็ยังอยู่ที่เกิดเหตุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook