ย้อนไทม์ไลน์ 28 ชั่วโมงระทึก เหตุโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้
จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ภายในซอย 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บกว่า 30 ราย และบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 70 หลัง
Sanook News ขอพาทุกท่านย้อนไล่เรียงเหตุการณ์กันอีกครั้งว่าตลอด 28 ชั่วโมงที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้าง
วันที่ 5 กรกฎาคม 2564
- เวลาประมาณ 03.10 น.
เกิดเหตุระเบิด บริเวณถนนกิ่งแก้ว บางพลี แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้เป็นวงกว้าง จากนั้นเกิดแสงเพลิงขนาดใหญ่ขึ้น อาคาร บ้านเรือน ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนหลายหลัง กระจกประตูหน้าต่าง หลังคา ของบ้านบริเวณโดยรอบแตกพังเสียหาย ภายหลังทราบว่าพื้นที่เกิดเหตุคือ โรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก ของ บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด ภายในซอย 21 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
- เวลาประมาณ 08.30 น.
โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ออกประกาศด่วนให้เลื่อนการมาตรวจ หรืองดเดินทางยังโรงพยาบาล เนื่องจากกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย มีคำสั่งด่วนให้อพยพประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงโรงงานกิ่งแก้วไฟไหม้ในรัศมี 5 กิโลเมตร
รพ.จุฬารัตน์ ได้เร่งอพยพขนย้ายผู้ป่วยกว่า 100 ชีวิตไปตามโรงพยาบาลเครือข่ายของจุฬารัตน์และโรงพยาบาลสิรินธร
- เวลาประมาณ 08.40 น.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข โพสต์ผ่านทวิตเตอร์ประกาศเตือนประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัยเพื่อเลี่ยงการสูดดมกลิ่นควันไฟจากโรงงานโฟมระเบิดเนื่องจากเป็นสารเคมี สไตรีนโมโนเมอร์ ซึ่งเป็นสารอันตรายและเป็นสารก่อมะเร็ง
- เวลาประมาณ 09.00 น.
ยังคงมีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งสู่อากาศในระดับสูงตลอดเวลา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมไม่ให้ลุกลามไปยังถังเก็บสารเคมีอีกถัง ทั้งนี้เบื้องต้น มีรายงานความเสียหาย บ้านประชาชนเสียหาย 70 หลัง รถยนต์เสียหาย 15 คัน บาดเจ็บ 15 ราย
ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยง ถนนลาดกระบัง การจราจรติดขัดมาก หลังจากมีการประกาศอพยพจากรัศมี 5 กม. โดยฝั่งขาเข้าท้ายแถวสะสมตัดถนนกิ่งแก้ว ติดปัญหาไปถนนเลียบวงแหวนตะวันออก พร้อมจัดตั้งศูนย์อพยพให้ประชาชนได้แก่ 1.โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ 2.องค์การบริหารส่วนตำบลบางพลีใหญ่ และ 3.วัดสลุด อำเภอบางพลีใหญ่
- เวลาประมาณ 11.30 น.
เฮลิคอปเตอร์ ปภ. KA-32 ถึงสนามบินดอนเมือง พร้อมชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต ERT 10 นาย เตรียมขึ้นบินปฏิบัติหน้าที่
- เวลาประมาณ 12.10 น.
เกิดเหตุระเบิดระลอกที่สอง ผู้ใช้เฟซบุ๊ก พงศ์พัฒน นาคธน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ หน่วยแพทย์กู้ชีวิตวชิรพยาบาล ไลฟ์สดเหตุการณ์ แจ้งเหตุว่า ยืนยันว่าพบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ยังไม่ทราบสังกัด และมีรายงานผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย
- เวลาประมาณ 12.40 น.
นายทินกร ชูวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติการ บวท. ยืนยันว่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังคงเปิดให้บริการ ขณะนี้กลุ่มควันจากการระเบิดยังไม่รบกวนทัศนวิสัยของนักบิน เนื่องจากกลุ่มควันได้มีการลอยขึ้นสูงก่อนที่จะพัดมายังแนวร่อนของสนามบิน จึงยังไม่กระทบแนวร่อนขึ้น และลงของอากาศยาน โดยยังทำการบินได้ตามปกติ
ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายปฏิบัติการ 1 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน (ทอท.) เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ขณะนี้สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกับบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทยจำกัด (บวท.) ซึ่งเป็นหน่วยให้บริการจราจรทางอากาศ ทำการเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์
- เวลาประมาณ 12.45 น.
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ในโรงงาน ถอนกำลังออกแล้ว เนื่องจากไฟกำลังเข้าใกล้ถังน้ำมัน
- เวลาประมาณ 14.20 น.
สื่อได้ถาม พล.อ.ประวิตร ถึงกรณีเหตุไฟไหม้ รวมถึงมาตรการในการดูแลเยียวยาประชาชนในพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ แต่ พล.อ.ประวิตร กลับเงียบ ไม่ตอบคำถาม และไม่แสดงท่าทีใดๆ
- เวลาประมาณ 14.55 น.
ศูนย์การค้าเมกาบางนา แจ้งปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 16.00 น เป็นต้นไป โดยจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 6 ก.ค. เวลา 10.00 น.
- เวลาประมาณ 15.30 น.
ผู้จัดการโรงงานหมิงตี้ฯ Hsu cheng-chung เดินทางเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสำรวจทิศทางลม ทั้งในระดับผิวพื้นและระดับเพดานอากาศ พบว่า จากจุดเกิดเหตุลมจะพัดกลุ่มหมอกควันจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปยังจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก นอกจากนี้นายณัฐพลยังเผยว่า สิ่งที่เป็นห่วง คือ ช่วงบ่ายถึงค่ำ บริเวณ กทม.และปริมณฑล อาจมีฝนเพิ่มขึ้น หากฝนลงไปชะล้างกลุ่มควันเหล่านี้ซึ่งเป็นสารพิษ และตกลงในแม่น้ำ ลำคลอง หรือบ่อน้ำ อาจส่งผลต่อประชาชนในการใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค
จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการใช้น้ำช่วงนี้ โดยในช่วง 1-2 วันนี้ ต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
- เวลาประมาณ 22.20 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตนยังคงติดตามสถานการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดูแล และขอให้กำลังใจให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่กำลังดำเนินภารกิจเสี่ยงภัยนี้ให้สำเร็จลุล่วง คืนกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกคน
- เวลาประมาณ 23.41 น.
สถานการณ์เหตุเพลิงไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมิคอล จำกัด จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งจากรองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแจ้ง ขณะนี้เพลิงใกล้สงบ ควันเบาบาง
- เวลาประมาณ 23.55 น.
ทีมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทำการปิดวาล์วของถังสารเคมีทั้ง 3 จุด และทำการควบคุมเพลิงได้สำเร็จ
วันที่ 6 กรกฎาคม 2564
- เวลาประมาณ 00.30 น.
เพลิงกลับมาปะทุลุกไหม้อีกครั้ง
- เวลาประมาณ 00.45 น.
เจ้าหน้าที่เริ่มควบคุมเพลิงได้ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนที่อพยพออกไปอย่าเพิ่งกลับเข้ามา เพราะคงคงมีควันจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
- เวลาประมาณ 00.55 น.
บริเวณที่เกิดเหตุกลับมาลุกไหม้รุนแรงอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ให้สื่อมวลชนออกจากพื้นที่เสี่ยงโดยด่วน
- เวลาประมาณ 01.20 น.
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกระทรวงการเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ โดยได้มีการพูดคุยหารือกับเจ้าหน้าที่ และผู้ว่าราชการ จ.สมุทรปราการ ถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ พร้อมสั่งให้ตำรวจตามตัวเจ้าของโรงงาน นำพิมพ์เขียวของโรงงานมาแสดง
- เวลาประมาณ 03.10 น.
เหตุการณ์ผ่านมาครบ 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้ายับยั้งเพลิงไหม้ ยังควบคุมสถานการณ์ไม่ได้และยังเกิดการปะทุอยู่เรื่อยๆ
- เวลาประมาณ 05.20 น.
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าดับเพลิงในที่เกิดเหตุได้แล้ว หลังควบคุมสถานการณ์กว่า 26 ชั่วโมง แต่ยังคงต้องควบคุมอุณหภูมิอยู่
- เวลาประมาณ 06.10 น.
เกิดการปะทุลุกไหม้ขึ้นอีกครั้งในบางจุด แต่เพลิงไม่รุนแรงมาก เจ้าหน้าที่ระดมฉีดโฟมเพื่อควบคุมเพลิงในแต่ละจุด
- เวลาประมาณ 07.00 น.
เจ้าหน้าที่สามารถดับไฟได้หมดทุกจุดแล้ว แต่ยังคงจับตาดูสถานการณ์ และระวังไม่ให้ไฟลุกไหม้ขึ้นมาอีก
ย้อนชมคลิปมุมในบ้าน แรงระเบิดจากโรงงานกิ่งแก้วกระทบเต็มๆ ทุกอย่างปลิวว่อน