งานนี้เห็นพ้อง! "เสรีพิศุทธ์-สิระ" พูดตรงกัน ค้านฉีดวัคซีนเข็มสาม ให้ ส.ส. และ ส.ว.

เสรีพิศุทธ์ ค้านฉีดเข็ม 3 ให้ ส.ส. ส.ว.ก่อน ฉะเห็นแก่ตัวเกินไป ถามประชาชนได้ฉีดสักเข็มหรือยัง ด้าน สิระ บอกไปจองวัคซีนทางเลือกเอาเอง แต่หนุนฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กรณีที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายมีการหารือให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ว่า มติดังกล่าวเป็นเรื่องที่ดี งานจะได้เดินได้ แต่ไม่เห็นด้วย เพราะต้องมองประชาชนทั้งประเทศ ว่าประชาชนฉีดเข็มที่หนึ่งไปบ้างหรือยัง ฉีดไปเท่าไหร่ ยังไม่ได้ฉีดอีกตั้งเท่าไหร่ ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากที่ยังไม่ได้ฉีด แต่ส.ส.และส.ว.ฉีดกันไปแล้วตั้ง 2 เข็ม ซึ่งจะให้ฉีดเข็ม 3 อีก ตนก็ไม่เห็นด้วย และมองว่าเห็นแก่ตัวเกินไป และไม่มีความจำเป็นแค่ 2 เข็มก็เพียงพอแล้ว รวมทั้งให้ป้องกันตัวเองด้วยให้ใส่หน้ากากอนามัยก็จะช่วยลดการแพร่ระบาดได้ ส่วนเข็ม 3 ที่จะฉีดให้นั้น สามารถกระจายไปให้ประชาชนได้

ทั้งนี้ มองว่าประเทศไทยมีความเหลื่อมล้ำอยู่เสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องวัคซีน แทนที่จะให้ผู้สูงอายุได้รับวัคซีนก่อน กลับเป็นผู้ที่มีเส้นสายได้วัคซีนก่อน ใครเส้นใหญ่มีเส้นสายได้ฉีดวัคซีนก่อน ดังนั้นจะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องนึกถึงประชาชนเป็นสำคัญ

นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่วิป 3 ฝ่ายมีข้อเสนอแนะในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ให้ ส.ส.และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ส่วนตัวเห็นว่าผู้แทนราษฎรที่มีเงินเดือน 100,000 กว่าบาท หากจะ ฉีดวัคซีนเข็ม3 นำเงินเดือนของตนเองไปจองสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนดีกว่า เนื่องจากวัคซีนทางเลือกขณะนี้ก็มีแล้ว ซึ่งขณะนี้ตนก็ได้จองวัคซีนเข็มที่ 3 แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงจำเป็นจะต้องเสียสละให้กับประชาชนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มแรก

ส่วนกระแสที่อยากให้ฉีดวัคซีนเข็ม3ให้กับบุคลากรทางการแพทย์นั้น ตนเห็นด้วย เพราะเป็นบุคลากรด่านหน้า ที่เสี่ยงมากที่สุด อีกทั้งมีข่าวว่าไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง ค่าล่วงเวลา ซึ่งเรื่องนี้ตนจะติดตามให้ถึงที่สุดและต้องเรียกร้องให้มีการเร่งจ่ายให้เร็วที่สุด

พร้อมกันนี้ นายสิระ ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ได้แจ้งต่อผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐถึงกรณีที่ตนกล่าวพาดพิง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถึงกรณีการบริหารจัดการวัคซีนที่ล่าช้า ว่า หากนายศุภชัยข้องใจหรืออยากทราบเรื่องอะไรเพิ่มเติม ให้มาคุยกับตนเป็นการส่วนตัวได้เลย อย่าไปฟ้องผู้ใหญ่