เร่งสอบพยานหาที่มากระสุนฆ่าเด็กแว๊น

พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกพยานสอบหาที่มากระสุนปริศนาฆ่าเด็กแว๊น

(24ต.ค.) พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ ฐิตมาดี รองผกก.สส.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนายวีรพจน์ นิลเวก อายุ 18 ปี เสียชีวิตจากกระสุนปริศนาบนถนนวิภาวดี ว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือเรียกพยานแวดล้อมที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบเพื่อหาที่มาที่ไปของกระสุนดังกล่าวว่ามาจากไหน และรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ผู้ผ่าพิสูจน์ศพว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใดพบหัวกระสุนหรือไม่อย่างไร ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกว่าได้กระสุนดังกล่าวมาจากไหน

เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีแก๊งจักรยานยนต์ตามหลังรถผู้ตายมาจำนวนมากกระสุนอาจมาจากกลุ่มจยย.ที่ตามมาก็ได้ ส่วนกรณีที่เพื่อนผู้ตายเห็นมีชายแต่งกายคล้ายตำรวจยืนอยู่ด้านหลังนั้นจากการสอบสวนเด็กบอกว่าเห็นชายแต่งกายคล้ายตำรวจยืนสูบบุหรี่อยู่ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นคนยิงแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามการสอบสวนจะเป็นไปตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเราก็ดำเนินการ แต่อย่าปักใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนยิงเพราะตอนนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาพยานหลักฐาน

พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้องมีการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดไหนเข้าไปปฏิบัติงานในขณะเกิดเหตุบ้าง ซึ่งหากมีตำรวจคนไหนเข้าไปเราก็จะทำการสอบปากคำเช่นเดียวกัน เพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่แท้จริงว่ากระสุนปริศนามาจากไหนเพื่อจะหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ก่อนหน้านั้นเวลา 01.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.สมบัติ ทองอุปการ ร้อยเวร สน.ทุ่งสองห้อง รับเแจ้งคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่กลางถนนวิภาวดีรังสิต เส้นทางคู่ขนานขาออก จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าด่านเก็บเงินทางด่วนหลักสี่ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม.พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายวีรพจน์ นิลเวก อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2029/86 แขวงและเขตดินแดง กทม.ใส่เสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์สีดำ นอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนนดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าสีข้างหลังด้านซ้ายกระสุนฝังใน

จากการสอบสวนนายหยาม (นามสมมติ) อายุ 17 ปี เพื่อนผู้ตายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขี่จยย.ยามาฮ่ามีโอ จำหมวดอักษรไม่ได้ ทะเบียน 573 ไปรับผู้ตายจากบ้านย่านดินแดงเพื่อไปหาเพื่อนอีกคนย่านดอนเมือง ระหว่างที่ผู้ตายเป็นผู้ขี่ตนนั่งซ้อนท้ายวิ่งตามถนนวิภาวดีก่อนถึงแยกไฟแดงหลักสี่ได้มีกลุ่มจยย.แก๊งเด็กแว๊นขี่แซงขึ้นไปผ่านหน้าป้อมตำรวจแยกหลักสี่ ระหว่างนั้นได้ยิงเสียงปืนดัง 1 นัด รู้สึกเจ็บที่สีข้างด้านซ้ายจึงหันไปดูด้านหลัง พบชายคนหนึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจจราจรกลางยืนหน้าป้อม ขณะนั้นผู้ตายก็เริ่มขี่ส่ายไปมาก่อนจะล้มลงตรงจุดที่พบศพแล้วแน่นิ่งไป ตนพยายามเขย่าร่างผู้ตาย แต่ไม่รู้สึก ด้วยความตกใจจึงขี่จยย.ย้อนกลับไปบอกแม่ผู้ตายที่บ้านพักว่าถูกยิงเสียชีวิต และนำ จยย.จอดที่บ้านพัก

นางสะอาด นิลเวก อายุ 40 ปี มารดาผู้ตายให้การว่า ลูกชายออกจากบ้านเมื่อเวลาห้าทุ่มเศษ บอกจะไปหาเพื่อนย่านดอนเมือง แต่ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับเด็กแว๊นหรือไม่ กระทั่งประมาณตีหนึ่งเศษ เพื่อนลูกชายได้ไปบอกว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าจะถูกยิงเสียชีวิต ก่อนหน้านี้ 2-3 วัน บ่นว่ารู้สึกร้อน หงุดหงิด นอนไม่หลับ เหมือนเป็นลางบอกการเสียชีวิต

ร.ต.ท.สมบัติกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดการเสียชีวิตของคนตาย ส่วนคำให้การของเพื่อนคนตายที่บอกว่าได้ยินเสียงปืนแล้วหันไปเห็นชายคนหนึ่งแต่งกายคล้ายตำรวจที่ป้อมอาจเป็นคนยิงปืนใส่ขณะนี้ยังไม่ปักใจเชื่อมากนั้น เนื่องจากการสอบสวนพยานใกล้เคียงทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีกลุ่มเด็กแว๊นขี่รถกันมาจำนวนมาก ส่วนรถผู้ตายอยู่รั้งท้ายขบวนด้านหน้า ส่วนด้านหลังยังมีกลุ่มเด็กแว๊นอีกชุดขี่ตามมา และมีผู้เห็นเหตุการณ์ให้การว่ากลุ่มมเด็กแว๊นมีการพกไม้กระบองกันมาด้วย ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีการเขม่นกันในกลุ่มเด็กแว๊นด้วยกันหรือมไ จะทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุแท้จริงและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป