สื่อจิงโจ้ชี้ ฮุนเซน ผิดมารยาทขัดพิธีการทูต
อดีตทูตซัดทำเป็นผจก.การเมืองไทย แผน"แม้ว"ให้มาร์คตบะแตก รุมจวกฮุนเซนเปิดปากหนุนทักษิณ สื่อออสซี่ แจงทำผิดมารยาท ขัดพิธีการทูต ผิดหวังยก"ทักษิณ"เทียบ"ซูจี อดีตทูต 5 ประเทศ ลั่นเป็นแผนแม้วทำให้มาร์คตบะแตก ซัดนายกฯกัมพูชาทำตัวราวผจก.การเมืองไทย
เว็บไซต์ของสำนักข่าวเอบีซีนิวส์ของออสเตรเลีย นำเสนอความเคลื่อนไหวบนเวทีการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนและประเทศภาคี 6 ชาติ โดยชี้ว่าการประชุมอาเซียนครั้งนี้เจออุปสรรคตั้งแต่เริ่มแรกจากเหตุพิพาททางการทูตระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเอบีซีนิวส์ชี้ว่า พฤติกรรมของสมเด็จฯฮุน เซน ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ถือว่าขัดต่อพิธีการทูตของอาเซียนที่จะไม่ทำให้ประเทศสมาชิกต้องอับอายหรือลำบากใจในที่สาธารณะ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนี้กำลังสะท้อนความสัมพันธ์ที่ยุ่งยากระหว่างไทยกับกัมพูชา
เอบีซีนิวส์ระบุอีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณและสมเด็จฯฮุน เซน ทำธุรกิจร่วมกันมานาน และว่า นักสังเกตการณ์ทางการเมืองหลายคนต่างรู้สึกผิดหวังที่ผู้นำกัมพูชายก พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นมาเปรียบเทียบกับนางออง ซาน ซูจี ที่เป็นนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในพม่า
อดีตทูตซัด"ผจก.การเมืองไทย"
นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต 5 ประเทศซึ่งเคยขึ้นเวทีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ (พธม.) กล่าวถึงท่าทีสมเด็จฯฮุน เซน ว่าไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดใหม่ เพราะนโยบายด้านการต่างประเทศของกัมพูชาดำเนินมาในลักษณะเช่นนี้กว่า 70 ปีแล้วคือ พยายามตอกลิ่ม และสร้างความขัดแย้งภายในประเทศที่มีปัญหากับตน ยอมรับว่าสมเด็จฯฮุน เซน สามารถอ่านการเมืองไทยได้อย่างทะลุ จึงประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นผู้จัดการการเมืองไทย และสามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้
"ต้องยอมรับว่าท่าทีของสมเด็จฯฮุน เซน ที่ออกมา เป็นการผิดมารยาททางการเมืองระหว่างประเทศขั้นรุนแรง โดยเฉพาะการแถลงเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณขณะมาประชุมในไทย อีกทั้งยังนำกรณีของนางออง ซาน ซูจี มาเปรียบเทียบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ใครก็รู้ว่ามันต่างกันราวฟ้ากับเหว ยังไม่รวมการประกาศไม่ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาให้ทางการไทยโดยอ้างว่าเป็นคดีการเมือง ทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณคือผู้ต้องหาคดีอาญา"
ชี้"แม้ว"หวังให้"มาร์ค"ตบะแตก
เมื่อถามว่า รัฐบาลไทยควรตอบโต้ท่าทีกัมพูชาอย่างไร นายสุรพงษ์กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายอภิสิทธิ์ที่ตอบโต้นายกฯกัมพูชาอย่างสุภาพเพียงพอแล้ว และไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่เป็นอยู่ เชื่อว่าน่าจะสร้างความผิดหวังให้ พ.ต.ท.ทักษิณกับพวกอย่างมาก เพราะต้องการให้นายกฯตบะแตกแล้วตอบโต้กัมพูชาด้วยทีกักขฬะ
"แต่ในส่วนของ พธม. ผมเชื่อว่าต้องมีความเคลื่อนไหวตอบโต้สมเด็จฯฮุน เซน อย่างรุนแรง ควบคู่กับการโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ และ พล.อ.ชวลิต ซึ่งไม่เฉพาะ พธม. หรือกลุ่มคนเสื้อเหลือง แต่เชื่อว่านักวิชาการและคนไทยหลายกลุ่มที่มีความรักชาติย่อมไม่พอใจที่จู่ๆ คนต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเรา คาดว่าหลายกลุ่มจะไปประท้วงหน้าสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทย" นายสุรพงษ์กล่าว และว่า กรณี พล.อ.ชวลิตเดินสายไปพบผู้นำอีกหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย พม่า ฯลฯ นั้นเป็นแผนการใช้ต่างประเทศกดดันรัฐบาลไทยอย่างชัดแจ้ง
"กษิต"ทวงบุญคุณไทยช่วยเขมร
เมื่อเวลา 17.40 น. ที่โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน จ.เพชรบุรี นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงถึงการให้สัมภาษณ์ของสมเด็จฯฮุน เซน กรณี พ.ต.ท.ทักษิณว่า ความสัมพันธ์ยังมีอยู่ เพราะเพิ่งให้ความช่วยเหลือและเปิดถนน ซึ่งการไปมาหาสู่และนักท่องเที่ยวยังมีอย่างเต็มที่ การทำมาค้าขายตลอดแนวชายแดนก็ยังไม่มีปัญหา ซึ่งด้านอื่นๆ ยังให้ความช่วยเหลืออยู่ไม่ใช่ว่าเรื่องหนึ่งเรื่องใดหรือกรณีหนึ่งใดจะทำให้โกรธเกลียดกันแล้วก็ไม่ทำอย่างอื่น
"นี่เป็นการให้คำมั่นสัญญาระหว่างท่านนายกฯอภิสิทธิ์กับสมเด็จฯฮุน เซน โดยตลอดมา ตั้งแต่เรามาเป็นรัฐบาลได้ 10 เดือนก็ได้พูดกับผู้นำกัมพูชาว่าจะมิให้เรื่องหนึ่งเรื่องเป็นอุปสรรคต่อความร่วมมืออีก 50-60 เรื่อง และกัมพูชายังต้องการความช่วยเหลือ เราก็ต้องให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ด้านการพัฒนาต่างๆ ที่สมเด็จฯฮุน เซน ให้สัมภาษณ์ไปที่ปากทางของโรงแรม และนายกฯอภิสิทธิ์ก็ได้มาชี้แจงที่นี่แล้วก็คิดว่าชัดดีว่าอะไรเป็นอะไร เพราะฉะนั้นก็เท่านั้น ท่านสมเด็จฯฮุน เซน ก็ได้รับสิ่งที่ท่านนายกฯอภิสิทธิ์ได้พูด แล้วก็ต้องรับไปพิจารณาว่าอะไรเป็นอะไร"
เชื่อ"พธม."ไล่ผู้นำเขมรไม่รุนแรง
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรมายื่นหนังสือขับไล่นายกฯกัมพูชาและประกาศจะทำอะไรบางอย่างหากรัฐบาลไม่ดำเนินการเรื่องนี้ นายกษิตกล่าวว่า เราเป็นสังคมประชาธิปไตยที่มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล และมีสิทธิแสดงความเห็น สิ่งเดียวที่รัฐบาลนี้พูดมาตลอดคืออย่าใช้ความรุนแรง อย่าใช้อารมณ์ ต้องพูดกันด้วยเหตุผลและดูเรื่องความเป็นหนึ่งเดียวของสังคมไทยที่มีความจำเป็นว่าหากถึงจุดหนึ่งที่ต้องรักชาติ ต้องร่วมมือกันทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้น ก็ต้องกระทำ และรัฐบาลนี้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสไม่มีอะไรปิดบังเลย หากพันธมิตรมายื่นหนังสือต่ออาเซียน ตนส่งนายวิทวัส ศรีวิหค อธิบดีกรมอาเซียนไปรับหนังสือแล้ว
"ความร้อนใจของพันธมิตรบางกลุ่ม แต่ไม่ใช่พันธมิตรทั้งหมดก็รับไว้และจะนำมาพิจารณา มีอะไรที่จะถ่ายทอดไปได้ต่อสาธารณะหรือต้องบอกกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ต้องบอกให้ทราบว่ามันมีความเป็นไปเป็นมาแบบนี้"
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะไม่กลายเป็นเรื่องใหญ่ใช่หรือไม่ นายกษิตกล่าวว่า ไม่ควร อยู่ในสมาคมอาเซียนร่วมกันก็ต้องร่วมมือกันและมีกติกาคือกฎบัตรอาเซียน กฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งสนธิสัญญาต่างๆ อยากให้เกษตรกรไทยมั่งคั่งและประชาชนของสองประเทศตลอดแนวชายแดน 700 กิโลเมตร อยู่อย่างสันติสุข ผู้นำมีหน้าที่พูดหรือทำอะไรที่ไม่นำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งหรือเข้าใจผิด มันเป็นภาระหน้าที่ของนักการเมืองที่ดี
บอก"ฮุนเซน"โตกันแล้วพูดรู้เรื่อง
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรยื่นหนังสือแล้ว โดยระบุว่าขอเชิญนายกฯกัมพูชาออกจากไทยเพราะระบุว่าจะให้ที่พักในกัมพูชากับ พ.ต.ท.ทักษิณเรื่องนี้จะดำเนินการอย่างไร นายกษิตกล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นหนังสือ
"แต่ผมไม่ทราบว่าจะหาที่พักหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะติดคุกที่ไทยก่อนหรือไม่ คือหากมาติดคุกเสียก่อนก็สามารถไปอยู่ได้ หากจะไปอยู่ที่นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะบอกว่าเรามีสนธิสัญญาพิเศษและพันธกรณีระหว่างไทย-กัมพูชา รวมทั้งสิ่งที่นายกฯไทยได้บอกไว้ว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ไม่ควรนำมากระทบหรืออยู่เหนือความสัมพันธ์ระดับสองประเทศ โตๆ กันแล้วก็อยู่ในแวดวงการเมืองกันนานก็พอจะรู้ว่าสิ่งที่ต้องปฏิบัติในเรื่องกติการะหว่างประเทศคืออะไร คงไม่ต้องอธิบายหรือสอนกันมากมาย โตๆ กันแล้ว"
ยันผู้นำกัมพูชาคุยสร้างสรรค์
จากนั้นสื่อมวลชนต่างประเทศรายหนึ่งถามว่า คำให้สัมภาษณ์ของนายอภิสิทธิ์ที่บอกว่านายกฯกัมพูชาตกเป็นเหยื่อ เชื่อมโยงกับการเดินทางไปกัมพูชาของ พล.อ.ชวลิต และการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส่งเทปให้กับนายกฯกัมพูชา จะปลดชนวนความขัดแย้งนี้อย่างไร นายกษิตกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เป็นการนำไปสู่ความตึงเครียด พยายามหาทางออกด้วยความใจเย็น วันนี้ตนยังอยู่กับสมเด็จฯฮุน เซน ตลอดทั้งวันในการประชุมอย่างสร้างสรรค์ และช่วงที่ตนพบนายฮอ นัม ฮง รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชานั้น มีความรู้สึกที่สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ร่วมกันให้มากที่สุด
ปชป.หวั่นทำกระทบ"อาเซียน"
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษก ปชป. แถลงตอบโต้ท่าทีของสมเด็จฯฮุน เซน ต่อกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นห่วงจะส่งผลกระทบต่อการประชุมสุดยอดอาเซียน ซึ่งธรรมเนียมปฏิบัติไม่เคยมีการแทรกแซงกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้าน และไทยเองไม่เคยแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) แสดงความชัดเจนเรื่องกัมพูชาให้ที่พักกับ พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวแทรกแซงการเมืองไทย และเรื่องสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน และให้ พล.อ.ชวลิตยังคิดถึงการไปประเทศพม่าและมาเลเซีย ที่อาจเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดระหว่างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ นพ.บุรณัชย์ยังเตือนถึงพรรคเพื่อไทยอย่านำกรณีดังกล่าวมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการเมือง เพราะมีเรื่องที่ผิดสังเกตเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (23 ตุลาคม) คือผู้ที่ประสานกับรัฐบาลกัมพูชา และจากการแถลงข่าวของโฆษกรัฐบาลกัมพูชาให้กับสื่อมวลชนต่างประเทศ เป็นการประสานงานและดำเนินการจากทีมโฆษก พท.โดยตลอด
นพ.บุรณัชย์ยังยืนยันว่า คดีทุจริตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดีการเมือง ขอให้สมเด็จฯฮุน เซน ทบทวนท่าทีเรื่องนี้ จะนำมาเปรียบเทียบกับกรณีนางออง ซาน ซูจี ว่าเหมือนกันไม่ได้
หวังผู้นำเขมรไตร่ตรองใหม่
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค ปชป. ออกมาตอบโต้ท่าทีของสมเด็จฯฮุน เซน ว่าท่าทีของนายอภิสิทธิ์ที่แสดงภาวะผู้นำในฐานะประเทศเจ้าภาพได้ดีเยี่ยม ที่ใช้ความระมัดระวังทางการทูตเพราะไม่อยากให้เสียบรรยากาศของการประชุม แม้ว่าจะเป็นผู้นำชาติที่มีอาวุโสน้อยกว่าก็ตาม แต่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสมเด็จฯฮุน เซน ซึ่งเป็นผู้นำชาติที่มีอาวุโสสูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างสุภาพนอบน้อม และเชื่อว่าคงจะนำคำชี้แจงกล่าวเตือนนี้ไปไตร่ตรองให้รอบคอบ มิฉะนั้นความเสียหายด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะส่งกระทบต่อเศรษฐกิจและการเมืองของทั้งสองชาติได้
ซัดแม้วภัยอันตรายร้ายแรง
นายเทพไทกล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ชัดแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณคือภัยอันตรายที่ร้ายแรงจริงๆ ที่สร้างความแตกแยกในชาติจนป่นปี้แล้ว ยังสร้างความแตกแยกในระดับนานาชาติ และไม่เข้าใจว่าที่สมเด็จฯฮุน เซน ยกตัวพ.ต.ท.ทักษิณมาเปรียบเทียบกับนางออง ซาน ซูจี ได้อย่างไร เพราะข้อเท็จจริงนางออง ซาน คือนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ถูกกลุ่มทหารยึดอำนาจจริง แต่กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนักธนาธิปไตย เป็นนายทุนสามานย์จนถูกทหารไล่ลงจากตำแหน่ง ถ้าเหตุการณ์ 19 กันยายน 2549 ที่สมเด็จฯฮุน เซน มองว่าไม่ถูกต้อง แต่ทำไมจึงยอมรับรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องชอบธรรมตามกฎหมาย เหตุใดจึงไม่ออกมาโวยวายและปฏิเสธในช่วงเวลานั้น แต่พอการเมืองภายในประเทศไทยเปลี่ยนขั้ว มีรัฐบาลใหม่ที่อยู่ตรงข้ามกับระบบทักษิณกลับออกมาโวยวาย กล่าวหาว่าไม่ชอบธรรมทันที
ขู่ตั้งกุนซือศก.เกิดสงคราม3ฝ่ายอีก
"ไม่เข้าใจว่าสมเด็จฯฮุน เซน ได้รับสัญญาณอะไรบางอย่างหรือข้อมูลที่ผิดพลาด โดยเฉพาะท่าทีหลังพูดคุยกับ พล.อ.ชวลิต ทำให้มีท่าทีเปลี่ยนไป อาจสันนิษฐานได้ว่าสื่อความหมายรู้เรื่องกันหรือไม่ เพราะตัว พล.อ.ชวลิตเองพูดภาษาไทยยังต้องแปลเป็นภาษาไทย ส่วนที่สมเด็จฯฮุน เซน ประกาศจะแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจนั้น ก็ถือเป็นสิทธิแต่อยากเตือนด้วยความหวังดีว่า สักวันหนึ่งจะเห็นคนเขมรออกมาต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณเหมือนกับคนไทย ถ้าต้องการที่จะให้ทุนสามานย์ครองเมือง ผู้นำประเทศร่ำรวยเพียงตระกูลเดียวในขณะที่คนทั้งชาติยากจนแสนเข็น กัมพูชาก็จะกลับย้อนยุคเหมือนเหตุการณ์สงครามเขมร 3 ฝ่ายก็เป็นได้อีกครั้งหนึ่ง"
สวนกลับใครกันอาฆาตแก้แค้น
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตเตอร์ถึงนายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กับสมเด็จฯฮุน เซน โดยเตือนให้ความแค้นความปฏิปักษ์ส่วนตัวมาใช้ว่า นายกฯอภิสิทธิ์รู้จักและเข้าใจมารยาททางการทูตดี ไม่เคยเอาความแค้นส่วนตัวมาเกี่ยวของกับการบริหารบ้านเมือง ที่ทำไปอยู่ภายใต้กฎหมาย และไม่มีความแค้นและไม่เคยอาฆาตกับใคร รวมทั้งกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
แต่อยากถามกลับว่าแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณแค้นกับใครบ้าง ที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ถึงออกมาชำระความแค้นตลอดเวลา โดยเฉพาะการอ้างถึงผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญจนถึงวันนี้นั้น ถืออาฆาตแค้นหรือไม่ ขนาดที่ตัวอยู่ต่างประเทศแต่ก็สั่งให้ลิ่วล้อตามราวีคนที่ผู้ฝ่ายตรงข้าม