กลัวเอาไปติดพ่อแม่ หนุ่มผูกคอดับขณะกักตัวรอตรวจโควิด สุดท้ายผลตรวจศพพบเชื้อ

กลัวเอาไปติดพ่อแม่ หนุ่มผูกคอดับขณะกักตัวรอตรวจโควิด สุดท้ายผลตรวจศพพบเชื้อ

กลัวเอาไปติดพ่อแม่ หนุ่มผูกคอดับขณะกักตัวรอตรวจโควิด สุดท้ายผลตรวจศพพบเชื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สลดใจอีกราย หนุ่มผูกคอดับระหว่างกักตัว ยังไม่ทันได้เข้าตรวจโควิด-19 ก่อนตายโทรหาน้องฝากดูแลพ่อแม่ สุดท้ายผลตรวจพบเชื้อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ก.ค.) ตำรวจ สภ.ทุ่งคลี อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 5 ต.ทุ่งคลี ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนหนึ่งยืนจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ที่ริมถนนหน้าบ้าน และที่โรงเก็บของหลังบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตใช้ผ้าห่มผูกคอตัวเองห้อยติดกับขื่อ โดยที่พื้นมีรองเท้าแตะไฟฉายติดหน้าผากของผู้ตายวางอยู่และเก้าอี้พลาสติกสีแดงตั้งอยู่

แพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงสวมชุดป้องกัน ก่อนเข้าไปนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาชันสูตรเบื้องต้นทราบชื่อ นายศิริพร อายุ 39 ปี ไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายและร่องรอยการต่อสู้ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงนำร่างผู้เสียชีวิตใส่ถุงซิปเพื่อความปลอดภัย

จากนั้นได้ทำการตรวจหาเชื้อด้วย Rapid Antigen test (ชุดตรวจโควิด-19 แบบเร่งด่วน) ผลปรากฎว่าผู้ตายติดเชื้อโควิดเจ้าหน้าที่จึงรีบนำร่างผู้เสียชีวิตไปดำเนินการฌาปนกิจตามขั้นตอนมาตรการทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 และเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

จากการสอบถาม นางวิไล อายุ 61 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนอยู่ที่บ้านนี้กัน 3 คน ลูกชายเคยทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่กรุงเทพฯ แต่ได้ลาออกก่อนที่โควิดจะระบาดแล้วมาทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ที่บ้าน

ซึ่งผู้ตายเป็นเสาหลักหาเลี้ยงครอบครัว ตนและสามีซึ่งป่วยมีโรคประจำตัวหลายโรคทำงานไม่ไหว ก็ได้ลูกชายคนนี้ที่ช่วยทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวเลี้ยงดูพ่อแม่ ส่วนลูกสาวก็มีครอบครัวและแยกตัวออกไปอยู่กับครอบครัว

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกชายได้ไปเยี่ยมหัวหน้างานเก่าที่เคยทำงานด้วยกัน บ้านอยู่กรุงเทพฯ แต่มาซื้อที่ทำไร่อยู่ที่หมู่บ้านติดกันและมีอาการป่วยด้วยโรคปอด ลูกชายไม่รู้ว่าอดีตหัวหน้าติดเชื้อโควิด หลังกลับจากเยี่ยมไข้แล้วจึงรู้ว่าอดีตหัวหน้าติดเชื้อโควิด

ซึ่งลูกชายก็ได้แยกตัวออกมานอนนอกบ้านทันทีไม่ได้เข้าใกล้พ่อแม่ และลูกชายก็รีบไปหาหมอที่โรงพยาบาลเดิมบางนางบวช เพื่อขอตรวจโควิดในวันเดียวกัน แต่ทางโรงพยาบาลคิวเต็มจึงให้กลับมากักตัวรอที่บ้าน หลังกลับจากโรงพยาบาลทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รพ.สต.และอสม.ได้มาสอบถาม และมีหนังสือให้กักตัวเพื่อรอตรวจ หลังจากกักตัวได้ 2 วัน ลูกชายก็มาก่อเหตุฆ่าตัวตาย

นางวิไล แม่ของผู้ตาย เล่าให้ฟังอีกว่า ลูกชายเป็นคนขยัน แต่เป็นคนคิดมากและเก็บกด มีเรื่องอะไรจะไม่ค่อยเล่าให้พ่อแม่ฟัง กระทั่งก่อนเกิดเหตุลูกชายเล่าให้ฟังเพียงแค่ว่าเครียดที่ถูกกักตัวและเครียดเรื่องหนี้ที่ติดค้างไฟแนนซ์ 20,000 บาท ลูกชายกลัวไม่มีเงินผ่อนหนี้และกลัวจะเป็นคนนำเชื้อโควิดมาติดพ่อแม่ จึงความเครียดซึ่งตนก็ได้แต่ปลอบใจไม่ให้คิดมาก แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะมาตัดสินใจทำแบบนี้

ด้าน น.ส.พัชรี อายุ 37 ปี น้องสาวผู้ตาย เล่าว่า เมื่อคืนช่วงประมาณสองทุ่มพี่ชายได้โทรศัพท์มาหา ตนรู้สึกแปลกใจเพราะพี่ชายไม่เคยโทรหา หลังรับสายตนจึงถามว่ามีอะไรพี่ชายบอกว่าฝากดูแลพ่อกับแม่ให้ดีด้วย ตนจึงถามกลับไปอีกว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าพี่ชายก็บอกว่าไม่มีอะไร จากนั้นก็วางสาย กระทั่งเช้ามีคนไปบอกว่าพี่ชายผูกคอตายแล้วจึงรีบมาดู รู้สึกเสียใจมาก เพราะพี่ชายเป็นเสาหลักของครอบครัว

ขณะที่ น.ส.กุลธิดา บุญยงค์ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งคลี เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง เนื่องจากไปสัมผัสผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ก.ค. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าไปสอบสวนโรคแล้ว พบว่ามีผู้ร่วมสัมผัสเสี่ยงจำนวน 4 คน และได้ทำหนังสือกักตัวแล้วอยู่ระหว่างรอตรวจหาเชื้อรอบแรก และผู้เสียชีวิตก็อยู่กับพ่อแม่รวม 3 คน ก็ถูกสั่งกักตัวทั้งหมด

หลังจากสั่งกักตัวทางสาธารณสุข อสม.และผู้ใหญ่บ้าน ไม่ได้ทอดทิ้งได้นำสิ่งของมามอบให้ มาเยี่ยมให้กำลังใจ ซึ่งภายใน 1-2 วันก็จะได้ไปตรวจหาเชื้อแล้ว ไม่คิดว่าผู้กักตัวรายนี้จะก่อเหตุทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ และยังไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือไม่ ก็มาก่อเหตุขึ้นก่อน

อย่างไรก็ตาม หลังจากตรวจหาเชื้อผู้เสียชีวิตแล้วพบติดเชื้อโควิด-19 จึงได้สั่งกักตัวพ่อกับแม่ของผู้เสียชีวิต และจะรีบทำการตรวจหาเชื้ออย่างเร่งด่วนทันที  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook