ปิกอัพซิ่งหลบแผงกั้นม้าเหล็กขยี้!

ปิกอัพซิ่งหลบแผงกั้นม้าเหล็กขยี้!

ปิกอัพซิ่งหลบแผงกั้นม้าเหล็กขยี้!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รถไฟมรณะสายกรุงเทพฯ-หนองคาย บดขยี้ปิกอัพรทุกแม่ชีไปงานกฐินเมืองอุดรฯ เละเป็นซากเหล็ก ดับสยองเกลื่อนกลาด 7 ศพ หลังโชเฟอร์ใจร้อนซิ่งหลบแผงเหล็กกั้นทางรถไฟ แต่สุดท้ายหลบไม่พ้นถูกพุ่งชนอัดก๊อบปี้กระชากลากกระเด็นไปไกลกว่า 500 เมตร ตายหมู่ยกคัน ส่วนรถไฟอียิปต์ชนประสานงาเซ่นสังเวย 25 ศพ บาดเจ็บครึ่งร้อย

เหตุการณ์รถไฟชนสยองรายนี้ เกิดขึ้น เมื่อเวลา 05.40 น. วันที่ 25 ต.ค. ร.ต.ท.ชินภานุ จิตต์อามาตย์ ร้อยเวร สภ. เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถปิกอัพ มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บริเวณทางพาดรถไฟหน้าเขตงานธีระจิตร ถนนรอบเมือง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จึงพร้อมแพทย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รีบ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟดีเซลราง ขบวนที่ 77 กรุงเทพฯ-หนองคาย จอดอยู่บนรางรถไฟ บริเวณหัวรถจักรชนอัดก๊อบปี้กับรถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ทะเบียน ผค 141 ขอนแก่น ติดอยู่บนรางรถไฟ สภาพรถพังยับเยินเป็นเศษเหล็ก

จากการตรวจสอบภายในรถบริเวณคนขับ พบร่างนายยิ้ม จารุจิตร อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 8 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ถูกอัดก๊อบปี้ติดคาพวงมาลัย นั่งหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังนำเครื่องตัดถ่างมาตัดเหล็กนำร่าง ออกมา แต่ผู้บาดเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังพบศพ แม่ชีและผู้หญิงตกอยู่สองข้างรางรถไฟ สภาพแหลกเหลวทั้งหมด 6 ศพ สร้างความเวทนาแก่ผู้พบเห็น

ต่อมาทราบชื่อภายหลัง 4 ราย คือนางสง่า จารุจิตร อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 8 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอน แก่น แม่ชีละมัย สุพรมอินทร์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 9 ต.เขาสวนกวาง แม่ชีอุดมศิลป์ คำประมุข อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 6 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน แม่ชีกนกวรรณ ชินอ่อน อายุ 46 ปี แม่ชีแอ๋ว ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริงและที่อยู่ และหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี

สอบสวนนายนิพนธ์ รัตนบุตร อายุ 46 ปี พนักงานกั้นถนน สถานีรถไฟอุดร ธานี ให้การว่า ปกติรถไฟขบวนนี้จะมาถึงบริเวณดังกล่าวประมาณ 05.20 น. ของทุกวัน ก่อนเกิดเหตุตนมาเข้าเวรตามปกติ เวลาประมาณ 04.16 น. ของเช้ามืดวันนี้ ตนได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารว่า รถไฟขบวนดังกล่าวออกจากสถานีรถไฟอุดรธานีแล้ว เพื่อมุ่งหน้าไปสถานีรถไฟหนองคาย ตนจึงเปิดเสียงสัญญาณและนำแผงเหล็กกั้นระบบไฟฟ้าลงกั้นถนน รถที่ขับผ่านไปมาได้จอดรถเพื่อให้รถไฟผ่าน แต่ทันใดนั้น ตนเห็นรถปิกอัพคันดังกล่าว ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารมาเต็มคัน กลับไม่ยอมจอดรถ แต่ได้เร่งเครื่องขับแซงขึ้นมาช่องทางขวา

ก่อนจะหลบเหล็กกั้นเพื่อข้ามทางรถไฟไป ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับขบวนรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ได้พุ่งชนรถคันดังกล่าวกลางรางรถไฟเข้าอย่างจังเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แรงพุ่งชนทำให้ผู้โดยสารที่ นั่งอยู่หลังกระบะกระเด็นตกจากรถไปคน ละทิศคนละทาง และเสียชีวิตทั้งคัน แต่รถไฟยังไม่สามารถหยุดรถได้ทันที จึงได้ ลากรถคันดังกล่าวติดรางไปประมาณ 500 เมตร จึงสามารถหยุดรถไฟไว้ได้ แต่รถไฟไม่สามารถขับต่อไปได้ จึงได้ขับไปจอดที่สถานีอุดรธานี เพื่อรอให้นำซากรถปิกอัพออกจาก รางก่อน

ร.ต.ท.ชินภานุ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถคันดังกล่าว มีนายยิ้ม เป็นผู้ขับ และมีผู้หญิงรวมถึงแม่ชี นั่งอยู่กระบะด้านหลัง ขับมุ่งหน้าไปทำบุญทอดกฐินที่วัดป่านาคำหลวง ภูย่าอู่ ต.คำด้วง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคาดว่าผู้ขับเกรงว่าจะไปร่วมงาน กฐินไม่ทัน ด้วยความรีบร้อนจึงไม่ยอมจอดรถ และได้เร่งเครื่องขับหลบแผงเหล็กกั้นขึ้นไป และเป็นจังหวะเดียวกับขบวนรถ ไฟวิ่งมาด้วยความเร็วสูง และพุ่งชนรถคัน ดังกล่าวพอดี ทำให้เสียชีวิตทั้งหมดรวม 7 ศพ ทางตำรวจได้นำศพไปเก็บไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อรอให้ญาติมาติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอียิปต์ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟชนกันในแถบหมู่บ้านกูรซาห์ เขตอัล-อัยยัท ของเมืองกีซา ห่างจากกรุงไคโรลงมาทางใต้ประมาณ 40 กม. เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น 25 ศพ บาดเจ็บอีก 55 คน โดยรถไฟโดยสารขบวนแรก ที่ถูกชนนั้น กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองซายุม 100 กม. ทางใต้ของกรุงไคโร แต่ได้หยุดรถกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้รถไฟโดยสารอีกขบวนหนึ่ง ซึ่งแล่นมาจากกรุงไคโร มุ่งหน้าจะไปยังเมืองอัสซิยุท 400 กม. ห่างจากกรุงไคโร ด้วยความเร็วปกติ จนกระทั่งชนประสานงาเข้าที่ด้านหลังของขบวนรถโดยสาร

ส่วนโทรทัศน์ ไนล์ นิวส์ ของอียิปต์รายงานว่า พนักงานอัยการจะเข้ามาสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งนี้ ขณะที่นายโมฮัมเหม็ด มานซูร์ รมว.คมนาคมของอียิปต์ เผยกับผู้สื่อข่าวขณะไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุว่า ผู้กระทำผิดในคดีนี้จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษตามกฎหมาย สำหรับพื้นที่ เขตอัล-อัยยัท ที่เกิดเหตุนี้ เคยเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุกับขบวนรถไฟครั้งร้ายแรงของอียิปต์มาแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถขุดค้นพบศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 361 ศพ จากไฟไหม้ขบวนรถไฟเมื่อเดือน ก.พ. พ.ศ. 2545 นอกจากนั้น ระบบขนส่งทางรถไฟของอียิปต์ยังถือว่าใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพราะมีเส้นทางรถไฟยาวถึง 5 หมื่นกม. มีพนักงานมากถึง 86,000 คน แต่ก็เกิดอุบัติเหตุทางรถไฟหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา

ขณะที่เดือน ก.ค. พ.ศ. 2551 มีผู้เสียชีวิต 44 ศพ ใกล้กับเมืองมาร์ซา มาท รุช ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอียิปต์ เมื่อรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งเข้าชนรถโดยสาร รถบรรทุก และรถยนต์อีกหลายคันที่จอดรอ อยู่บริเวณแยกข้ามทางรถไฟ ทำให้รถหลาย คันกระเด็นตกลงไปในราง กีดขวางเส้นทางเดินรถไฟ ส่วนอีกครั้งหนึ่ง เกิดเมื่อเดือน ส.ค. พ.ศ. 2549 มีชาวอียิปต์เสียชีวิต 58 ศพ บาดเจ็บ 144 คน จากอุบัติเหตุรถไฟสองขบวนชนกันบนรางเดียวกัน กลายเป็นคดีความที่ฟ้องร้องเอาผิดกับพนักงานรถไฟ ซึ่งต่อมา ศาลได้ตัดสินจำคุก 1 ปี พนักงานการรถไฟ 14 คน ข้อหาประมาทเลินเล่อจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง

ต่อมาสำนักข่าวเอพีรายงานโดยอ้างจากแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขอียิปต์ว่า ขอแก้ไขตัวเลขรายงานผู้เสียชีวิต 25 ศพ และบาดเจ็บ 55 คน ก่อนหน้านี้ จากอุบัติเหตุรถไฟชนกันว่า มีผู้เสียชีวิต 18 ศพ และบาดเจ็บ 39 คน นอกจากนั้น จากคำบอกเล่าของพยานระบุสาเหตุที่รถไฟขบวน แรกหยุดกะทันหันนั้น แท้จริงแล้วเกิดจากการพุ่งชนควาย 1 ตัว และเจ้าของควาย ทำให้รถไฟขบวนหลังที่แล่นตามมาบนรางเดียวกัน พุ่งเข้าชนขบวนแรกด้วยความเร็วเต็มที่ จนเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook