ส.ส.ก้าวไกล เผยผลตรวจภูมิหลังฉีดซิโนแวค 2 เข็ม ครบ 2 เดือน สุดอึ้งเหลือน้อยมาก

แชร์เรื่องนี้

แชร์เรื่องนี้Line Twitter Facebook

วันที่ 13 ก.ค.64 ทวิตเตอร์ @VTalomsin ของ น.ส.วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 3 บางคอแหลม พรรคก้าวไกล เผยผลตรวจภูมิคุ้มกันโควิด-19 หลังฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ครบ 2 เดือน ระบุข้อความว่า...

"เมื่อวานไปตรวจภูมิที่ รพ. ด้วยความอยากรู้ หลังฉีด sinovac เข็ม 2 ไปวันที่ 12 พ.ค. ผลคือ ภูมิขึ้น 41.64 U/mL พยาบาลบอกว่าคนฉีด AZ ภูมิขึ้นหลักร้อย Pfizer ภูมิขึ้นหลักพัน ที่ผ่านมา ลงพื้นที่ด้วยความมั่นใจ เข้าใจผิดสินะ#ซิโนแวค #หรือน้ำเกลือ"

อย่างไรก็ตาม มีผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกราย นำผลตรวจหาภูมิคุ้มกันหลังการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 6 สัปดาห์ มาโพสต์ให้เปรียบเทียบ พบว่าค่าการตรวจภูมิคุ้มกัน อยู่ที่ 3004.00 U/mL

ซึ่งการตรวจหาภูมิคุ้มกันดังกล่าว เป็นการตรวจเลือดเพื่อหาปริมาณแอนติบอดีต่อเชื้อโควิด-19 (Covid19 Antibody Level Test) ซึ่งจะเป็นการหาระดับภูมิต้านทานต่อเชื้อ SARS-CoV2 ในส่วนของ Spike Protein ที่เป็นส่วนสำคัญในการนำเชื้อเข้าสู่เซลล์ และทำให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งผลการตรวจของผู้ที่มีภูมิคุ้มกันจะเป็น Positive (ปริมาณ IgU ≥ 1 U/mL)

ผล Positive (ปริมาณ igG ≥ 1.0 U/mL) หมายความว่า มีการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ต่อ Spike Protein ณ วันที่ตรวจวิเคราะห์ อาจเนื่องจากร่างกายเคยติดเชื้อ หรือได้รับวัคซีน กรณีผลการตรวจเป็น Positive ไม่ได้หมายความว่าท่านจะไม่ติดเชื้อ หรือไม่แพร่เชื้อให้บุคคลอื่น ดังนั้น ยังคงแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามแนวทางป้องกันการติดเชื้ออย่างเคร่งครัด และปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานใดออกมาให้คำแนะนำว่าจะต้องฉีดวัคซีนซ้ำในระยะเวลาเท่าไหร่ หรือภูมิตอบสนองจะอยู่ได้นานแค่ไหน ต้องรอการศึกษาเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการตรวจภูมิคุ้มกันผู้ที่ฉีดวัคซีน โควิด-19 แล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตรวจหาภูมิต้านทานแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่า ปัจจุบันแต่ละห้องปฏิบัติการ น้ำยาที่ใช้ตรวจ หลากหลายชนิดกันมาก ยังไม่มีมาตรฐานกลาง จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ และหน่วยที่ใช้วัดก็แตกต่างกัน