อึ้ง! รมช.สธ. ยอมรับสัญญาแอสตร้าฯ ไม่บังคับส่งวัคซีนครบเมื่อใด ล่าสุดขยายถึง พ.ค. ปีหน้า

อึ้ง! รมช.สธ. ยอมรับสัญญาแอสตร้าฯ ไม่บังคับส่งวัคซีนครบเมื่อใด ล่าสุดขยายถึง พ.ค. ปีหน้า

อึ้ง! รมช.สธ. ยอมรับสัญญาแอสตร้าฯ ไม่บังคับส่งวัคซีนครบเมื่อใด ล่าสุดขยายถึง พ.ค. ปีหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"สาธิต ปิตุเตชะ" รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า "แอสตร้าเซนเนก้า" ขยายระยะเวลาการจัดส่งวัคซีนโควิดให้ไทยจนกว่าจะครบไปถึง พ.ค ปีหน้า พร้อมยอมรับในใบสัญญาจัดซื้อ ไม่ได้ระบุการส่งมอบทั้งหมดภายในปีนี้ เป็นเพียงการเจรจากันเท่านั้น

วันนี้ (15 ก.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยผ่านรายการข่าว "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" ว่า แผนอนุมัติจัดซื้อวัคซีนที่เมื่อวานนี้ (14 ก.ค.) คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติมีมติขยายกรอบจัดหาในปีหน้าเป็น 120 ล้านโดส เพื่อเตรียมความพร้อมในทุกชนิดที่จัดซื้อ ไม่ว่าจะเป็น mRNA ไวรัสเวกเตอร์หรืออื่นๆ เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

เดิมสัญญาซื้อขายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากำหนดส่งมอบจนครบทั้งหมด 61 ล้านโดสที่สั่งซื้อไปในเดือน ธ.ค. ปีนี้ มีการคลาดเคลื่อน ซึ่งยอมรับว่าในสัญญาไม่ได้ระบุระยะเวลาการจัดส่ง บอกแค่เพียงเรื่องจำนวน เป็นการเน้นพูดคุยเจรจา ซึ่งทางแอสตร้าเซนเนก้าจะยืดเวลาส่งมอบไปจนถึงเดือน พ.ค. ปีหน้า แต่หากทางบริษัทสามารถผลิตได้จำนวนมากขึ้นก็จะส่งมาให้ก่อน พ.ค. ปีหน้า ซึ่งในตอนนี้นั้นทางแอสตร้าเซนเนก้าระบุว่าจะจัดส่งให้ไทย 40% ของกำลังการผลิต ซึ่งขณะนี้ผลิตได้จำนวน 15 ล้านโดสต่อเดือน และในอนาคตอาจจะผลิตได้มากกว่านี้

ทั้งนี้ นายสาธิต ยังระบุอีกว่า ดังนั้นเราจึงต้องนำแอสตร้าเซนเนก้าที่ได้รับ มารวมกับวัคซีนยี่ห้ออื่นด้วย เช่น ซิโนแวค ซึ่งเราเดินหน้าฉีดและมีการเก็บตัวอย่างแล้ว อย่างการฉีดซิโนแวค (เข็มแรก) แล้วมาฉีดแอสตร้าเซนเนก้า (เข็มสอง) ผลก็คือสามารถป้องกันสายพันธุ์เดลตาได้ถึง 60-70% จึงต้องนำวัคซีนตัวนี้มาบริหารแทน

ขณะที่เมื่อถามว่า คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติมีมติอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ กำหนดสัดส่วนการส่งออกวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า นั้น นายสาธิต ชี้แจงว่า เรื่องนี้เป็นข้อเสนอของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แต่ได้มีการให้สถาบันวัคซีนฯ และกรมควบคุมโรค ไปเจรจากับทางบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าก่อน เพราะแต่ละฝ่ายมีข้อจำกัด เน้นการเจรจาให้ได้ดีที่สุด ในส่วนจะมีการบังคับใช้ข้อกฎหมายหรือไม่นั้น ในส่วนนี้ถ้าใช้จะต้องเป็นสถานการณ์ที่เหมาะสมเท่านั้น

ต่อข้อถามที่ว่า ในส่วนที่รัฐบาลเคยให้เงินสนับสนุน 600 ล้านบาทกับสยามไบโอไซเอนซ์ เราสามารถใช้สิทธิในการนำเงินตรงนี้กลับคืนมาเป็นในรูปแบบวัคซีนได้เมื่อใด นายสาธิต กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นเรื่องของเงื่อนเวลา ไม่ใช่เงื่อนไขอย่างเดียว เพราะฉะนั้นทั้งหมดเป็นในเรื่องของการเจรจา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook