ที่แท้คนใกล้ตัว! รวบมือฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าร้านชำ พบกำลังพยายามกินยาฆ่าตัวตาย

ที่แท้คนใกล้ตัว! รวบมือฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าร้านชำ พบกำลังพยายามกินยาฆ่าตัวตาย

ที่แท้คนใกล้ตัว! รวบมือฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าร้านชำ พบกำลังพยายามกินยาฆ่าตัวตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รวบแล้ว มือฆ่าชิงทรัพย์แม่ค้าร้านชำ โยงแก๊งโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติ พบกำลังพยายามกินยาฆ่าตัวตาย 

(15 ก.ค. 64) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายประสิทธ์ อายุ 56 ปี ผู้ต้องหารายสำคัญที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางกันนิกา อายุ 44 ปี โดยตำรวจเข้าจับกุม ขณะที่นายประสิทธิ์พยายามกินยาฆ่าตัวตายภายในบ้านพักในเขต อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งขณะนี้ได้ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตาก ท่ามกลางการดูแลของกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่างใกล้ชิด เนื่องจากผู้ต้องหาอาจจะคิดสั้นได้

รวมไปถึงการจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการได้อีก 5 ราย ประกอบด้วย นายทศพร อายุ 30 ปี ,นายศุกล อายุ 43 ปี ,นายพนม อายุ 47 ปี ,นายวรวิทย์ อายุ 34 ปี และนายศราวุธ อายุ 44 ปี ทั้งหมดถูกควบคุมตัวมาสอบสวนที่ บก.สส.ภ.4

พล.ต.อ.สุชาติ  ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีที่เกิดขึ้นชุดสืบวนร่วม บช.ภ.4,บช.ภ.2 และ กองปราบปราม ได้ประสานข้อมูลการทำงานโดยหลังจากที่มีผู้มาพบศพผู้เสียชีวิต ภายในป่าเขตพื้นที่ บ.เหล่า ต.บ้านเหล่า อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ชุดสืบสวนจึงแกะรอยเริ่มจากทรัพย์สินของผู้ตายที่หายไปตามคำให้การของครอบครัวคือเงินสดประมาณ 100,000 บาท รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ผจ-4512 นครปฐม และโทรศัพท์มือถือ จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยพบว่า รถยนต์กระบะของผู้ตายนั้นได้วิ่งเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านของนายประสิทธิ์ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่าสมชาย

จากนั้นพบรถยนต์คันดังกล่าวซึ่งขับผ่านด่านตรวจนาโน อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแกน เมื่อวันที่ 10 ก.ค.โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของจุดตรวจสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ชุดสืบสวนจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิด โดยพบว่ารถคันดังกล่าวหลังจากที่ผู้ตายขับเข้ามาภายในซอยศรีจันทร์ 39 ในวันที่ 9 ก.ค. แล้วนั้น จากนั้นก็มาพบอีกครั้งในจุดใกล้กับพบศพผู้ตาย และในช่วงเย็นวันเดียวกันนายประสิทธิ์จึงได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาที่ร้านแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองขอนแก่น ก่อนที่นายพนม จะมาขับรถคันดังกล่าวไปจอดไว้ที่บริษัทฯ อีกแห่งหนึ่ง

จนกระทั่งวันที่ 11 ก.ค. นายพนม จึงได้พานายศราวุธ, นายวรวิทย์ และนายทศพร มาดูรถและขับรถออกจากบริษัทฯแห่งหนี้ก่อนที่จะไปจอดรถเติมน้ำมันที่ อ.บ้านไผ่ และ ขับผ่านจุดตรวจนาโน  ซึ่งล่าสุดพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวนี้นั้นได้ถูกส่งมอบให้กับนายเพียบ ชาว กัมพูชา ที่ จ.สระแก้ว เพื่อส่งขายในต่างประเทศตามแนวทางการสืบสวนที่พบว่ากลุ่มดังกล่าวนี้นั้นจัดอยู่ในแก๊งโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติรายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก

นายประสิทธิ์ หลังก่อเหตุและส่งมอบรถให้กับนายพนมแล้วนั้น ได้หลบหนำไปที่บ้านภรรยาเก่า ซึ่งเปิดร้านขายข้าวมันไก่ที่ อ.เมือง จ.ตาก ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนได้แกะรอยและเฝ้าติดตามพฤติกรรมและสามารถจับกุมตัวได้ขณะพยายามกินยาฆ่าตัวตายเมื่อเช้านี้ภายในบ้านพัก ทำให้ต้องส่งต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้ยังคงไม่สามารถให้การใดๆ ได้ จึงยังไม่สามารถควบคุมตัวมาสอบสวนที่ขอนแก่นได้ ขณะที่มูลเหตุเชื่อว่าน่าจะเป็นการชิงทรัพย์ ที่นายประสิทธิ์ มีหนี้สินและเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ด้วยการสนิทมักคุ้นกับผู้ตาย จึงโทรศัพท์นัดกันให้มาพบในช่วงเช้าของวันที่ 9 ก.ค. ก่อนที่จะออกไปด้วยกัน จนกระทั่งมีผู้มาพบศพผู้ตายถูกทิ้งไว้ที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น

อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังคงไม่ปักใจเชื่อว่าคนร้ายก่อเหตุฆาตกรรมเพียงคนเดียวแต่ขณะนี้เจ้าตัวยังไม่สามารถให้การใดๆได้ จึงต้องรอให้อาการดีขึ้นจึงจะควบคุมตัวมาสอบสวนว่าซัดทอดไปถึงใครและคนใดบ้าง ซึ่งหากสาวถึงใครตำรวจจะควบคุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด”

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่ออีกว่า นายประสิทธิ์ และ นายพนม นั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน หลังจากที่นายประสิทธิ์ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์มาแล้วนั้น จึงมีการนำรถยนต์มาจอดทิ้งไว้และขายต่อให้กับกลุ่มขบวนการโจรกรรมรถยนต์รายใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยที่นายพนม มีหน้าที่มารับรถที่ชิงทรัพย์มาได้ขายต่อเป็นทอดๆ จนกระทั่งถึงปลายทางคือที่ประเทศกัมพูชา ดังนั้นแนวทางการสืบสวนสอบสวนจึงแกะรอยมาจากผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จากการนำรถไปขายต่อจนได้มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามแม้ในขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ถูกจับตัวได้ จะถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันลักทรัพย์หรือรับของโจร แต่หากนายประสิทธิ์ ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีให้การได้และซัดทอดไปถึงใครก็จะดำเนินการตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพิ่มเติม รวมไปถึงการสืบสวนเส้นทางการเงินว่าเงินที่ได้จากการชิงทรัพย์นั้นโอนไปที่ใคร ทรัพย์สินที่ชิงทรัพย์ไปนั้นจำหน่ายหรือส่งต่อไปที่ใด ทั้งหมดจะต้องถูกจับกุมมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างไม่มีละเว้น ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านฝาง ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว ส่วนรถของผู้ตายอยู่ระหว่างการนำกลับมาที่จังหวัดขอนแก่น

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook