รถโดยสารโคราชโอด เจอพิษโควิดรอบ 4 ต้องจอดรถทิ้งไว้ในอู่

รถโดยสารโคราชโอด เจอพิษโควิดรอบ 4 ต้องจอดรถทิ้งไว้ในอู่

รถโดยสารโคราชโอด เจอพิษโควิดรอบ 4 ต้องจอดรถทิ้งไว้ในอู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ประกอบการรถโดยสารโคราชโอด เจอพิษโควิดรอบ 4 สาหัส หยุดรถจอดรถทิ้งไว้ในอู่ 90% ดีกว่าวิ่งแล้วขาดทุนยับ

บริษัทขนส่งใน จ.นครราชสีมา ได้แก่ บริษัทนครชัยขนส่ง จำกัด และบริษัทนครชัย 21 จำกัด ซึ่งมีรถโดยสารปรับอากาศอยู่จำนวน 130 คัน วิ่งให้บริการใน 6 เส้นทาง ประกอบด้วย นครราชสีมา-แม่สาย, นครราชสีมา-เชียงใหม่, นครราชสีมา-เชียงราย, นครราชสีมา-นครสวรรค์, นครราชสีมา-มุกดาหาร และนครราชสีมา-กรุงเทพมหานคร พบว่าขณะนี้ ทางบริษัทได้จอดรถโดยสารปรับอากาศทิ้งไว้ในอู่เป็นจำนวนมาก

โดยนายชัยวัฒน์ วงศ์เบญจรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทนครชัยทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการคุมเข้มการเดินทางข้ามจังหวัด โดยเฉพาะจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสีแดง รถโดยสารทั้งที่เป็นรถประจำทาง และรถไม่ประจำทาง ก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

อย่างเช่น บริษัทนครชัยทัวร์ จำกัด ซึ่งมีบริษัทในเครือทั้ง 2 บริษัท เดิมมีพนักงานอยู่ประมาณ 600 คน มีรถอยู่ประมาณ 130 คัน ปัจจุบันมีพนักงานอยู่ประมาณ 300 คน ส่วนหนึ่งเลิกจ้างชดเชยตามกฎหมายไป ส่วนที่เหลือยังคงประคับประคอง เผื่อจะมีบางช่วงจังหวะที่จะมีการเดินทางกลับมาบ้าง จึงต้องมีพนักงานสแตนบายไว้ให้เพียงพอ แต่ล่าสุดเราใช้รถวิ่งไม่ถึง 10% พนักงานใช้ไม่ถึง 50 คนต่อวัน ที่เหลือจอดรถทิ้งไว้ในอู่ ทำให้เป็นภาระหนักของบริษัทอย่างมาก เพราะรายได้หลักเกิดจากการวิ่งรถ ในเมื่อรถส่วนใหญ่ 90% จอดทิ้งไว้ก็ไม่เกิดรายได้อะไร แต่รายจ่ายยังคงมีต่อเนื่อง ตอนนี้ทำได้อย่างเดียวคือรอให้วิกฤตโควิด-19 ผ่านไปโดยเร็ว เพื่อให้สามารถวิ่งรถได้ตามปกติ

แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นวี่แววว่าวิกฤติจะผ่านไปได้เลย มีแต่จำนวนผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากรัฐบาลจะช่วยแบ่งเบาภาระเบื้องต้นก็สามารถทำได้ เช่น ชะลอการต่อภาษีรถโดยสาร, ช่วยเหลือค่าจ้างพนักงาน เพื่อลดต้นทุนผู้ประกอบการ, ค่าผ่อนรถ กรณีบางบริษัทที่ต้นทุนน้อย เป็นต้น รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยลดต้นทุนสถานประกอบการรถโดยสารสาธารณะด้วย ก็จะเป็นการต่อลมหายใจให้ผู้ประกอบการเหล่านี้สามารถประคับประคองอยู่จนพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook