ยายถึงกับนอนไม่หลับ ได้รับเงิน 100 บาท เยียวยาพายุพัดบ้านพัง ตัดสินใจมอบคืนรัฐ
เจ้าหน้าที่ประเมินจ่ายเยียวยา 100 บาท ตอนแรกนึกว่าพิมพ์ตัวเลขผิด ยายคิดมากอยู่หลายวันว่าเขาจะว่าเราหรือไม่ ความเสียหายแค่นี้ก็ส่งไปขอความช่วยเหลือ
(19 ก.ค.64) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า ได้พาพี่สาว นำเงิน 100 บาท ที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐเหตุพายุฝนฟ้าคะนองเมื่อเดือนก่อน คืนให้กับ อบต.บ้านแป้น อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร หลังได้ปรึกษากันเพราะพี่สาวนอนไม่หลับและคิดมาก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง บ้านแป้น หมู่ 5 ตำบลโพนนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร ไปพบกับ นางประเพียน ศรีษะเนตร อายุ 68 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ที่โพสต์เรื่องนี้ลงโซเซียล
เมื่อได้พูดคุยก็ทราบว่า วันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้นได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง จนทำให้บ้านเรือนและทรัพย์สินของคนในหมู่บ้านได้รับความเสียหาย ผู้ใหญ่บ้านประกาศให้ไปแจ้งความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นบ้านของนางประเพียนด้วย
โดยบ้านของนางประเพียน บริเวณหลังคาหน้าบ้านคานบ้านมุงสังกะสียุบตัวลงมา ฝ้าหลังคาสังกะสีได้รับความเสียหายโยกคลอน จากนั้นแจ้งความประสงค์ไป มีเจ้าหน้าที่มาถ่ายภาพบันทึกเพื่อรายงานขอความช่วยเหลือไปยัง อบต.บ้านแป้น ระหว่างรอการช่วยเหลือได้ทำการซ่อมแซมด้วยงบของตนเองไปก่อน โดยการว่าจ้างช่างที่เป็นคนรู้จักมาซ่อมแซม ทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าแรง ค่าอาหารก็หมดไปประมาณพันกว่าบาท
ต่อมาวันที่ 6 ก.ค. ไปรับเงินค่าช่วยเหลือ ซึ่งเงินที่ได้รับแล้วแต่การประเมินความเสียหายของแต่ละราย เมื่อรับซองตอนแรกไม่เอะใจว่าทำไมได้ 100 บาท คิดว่าน่าจะพิมพ์ตกหล่น แต่พอกลับมาเปิดดูที่บ้านก็พบว่าได้ 100 บาทจริง
จึงสงสัยว่าใช่หรือไม่เมื่อไปสอบถาม จนท.ได้รับการชี้แจงว่าเป็นไปตามระเบียบจากการประเมินของกรรมการที่มอบให้ส่วนใครได้มากน้อยขึ้นอยู่กับความเสียหาย จากนั้นตนไม่ได้คาใจได้แต่ครุ่นคิดนอนไม่หลับอยู่หลายวันว่า เขาจะว่าเราหรือไม่ความเสียหายแค่นี้ก็ส่งไปขอความช่วยเหลือ ถ้าไม่ผ่านแต่แรกก็น่าจะแจ้งว่าไม่ได้ ยังจะดีกว่าเงิน 100 บาท ควรเอาไปช่วยเหลือคนอื่นที่ได้รับผลกระทบหนักกว่าตน จึงปรึกษาน้องสาวเลยตัดสินใจให้น้องสาวพาตนนำเงิน 100 บาท ไปส่งมอบคืนให้กับหน่วยงานที่มอบให้ อีกอย่างเข้าใจในระเบียบของราชการเช่นกัน หากจะมอบเงินให้ตนเกินจริง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องมาเดือดร้อนอีกจึงอยากให้จบในเรื่องนี้ไป