ล็อกดาวน์! สั่งตั้งด่านสกัดเดินทางข้าม 13 จังหวัดสีแดงเข้ม หากมีเหตุจำเป็นต้องโชว์ 3 อย่าง
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) สั่งฝ่ายความมั่นคงตั้งด่านสกัดการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่สีแดงเข้ม 13 จังหวัด ทั้งบริเวณรอบชายขอบและระหว่างเส้นทางภายในพื้นที่ เพื่อให้การเดินทางได้รับความสะดวกน้อยที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะตรวจสอบ 3 หลักฐานกับผู้ที่เดินทางเข้า-ออก ได้แก่ หลักฐานการอนุญาตเดินทาง ผู้เดินทางต้องแจ้งข้อมูลในแอปพลิเคชั่นไทยชนะ และจะต้องลงทะเบียนในเว็บไซต์ หยุดเชื้อเพื่อชาติ เพื่อรับ QR Code มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ด้วย
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงข่าวในวันนี้ว่า ศบค.ขอร้องให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดงดภารกิจการเดินทางออกนอกเคหะสถานโดยไม่จำเป็น ไม่เฉพาะช่วงเวลาเคอร์ฟิวเท่านั้น แต่ช่วงเวลากลางวันก็จะต้องลดการเดินทางให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เว้นแต่การเดินทางจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต อาหาร ยาหรือเวชภัณฑ์ การเดินทางเพื่อเข้าพบแพทย์และบริการสาธาณสุข การเข้ารักษาพยาบาล และการเข้ารับวัคซีนป้องกันโรค หรือการปฏิบัติงานที่ไม่สามารถ Work Form Home ได้
ดังนั้น ฝ่ายความมั่นคงจะมีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มข้นและจัดชุดตรวจเข้มแข็ง กระจายในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด และเส้นทางระหว่างจังหวัดในกลุ่มพื้นที่ดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นประชาชนไม่ให้ได้รับความสะดวกในการเดินทางให้มากที่สุด
โดยเจ้าหน้าที่ประจำด่านจะตรวจสอบหลักฐานสำคัญ 3 อย่างกับผู้ที่เดินทางเข้า-ออก ได้แก่
- หลักฐานการอนุญาตเดินทางจากเจ้าหน้าที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเป็นใบผ่าน
- ผู้เดินทางต้องแจ้งข้อมูลในแอปพลิเคชั่นไทยชนะ
- จะต้องลงทะเบียนผ่านเวปไซด์หยุดเชื้อเพื่อชาติเพื่อรับ QR Code มาแสดงกับเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจด้วย
“ต้องขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า ความไม่สะดวกสบายที่จะเกิดขึ้นตรงนี้ เพื่อลดการเดินทางของท่าน ถ้าไม่จำเป็นขอท่านอย่าเดินทาง ท่านอยู่ในเคหะสถานเท่านั้น…คาดการณ์ได้เลยว่าสิ่งที่ท่านจะสะดวกสบายจะไม่เกิดขึ้น ทำให้ท่านตัดสินใจใหม่เพื่อไม่ออกจากบ้าน นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่วันนี้” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว