ป็อก หนุนเจรจาแก้ปัญหาไทย-เขมร

ป็อก หนุนเจรจาแก้ปัญหาไทย-เขมร

ป็อก หนุนเจรจาแก้ปัญหาไทย-เขมร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อนุพงษ์ ลั่น กองทัพจะไม่สู้รบ และไม่ใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา แต่จะต้องใช้กลไกในการเจรจา ยันทหารไทย-กัมพูชา ยังแน่นปึ้ก ปัดวิจารณ์ บิ๊กจิ๋ว เยือนประเทศเพื่อนบ้านจะกระทบความสัมพันธ์หรือไม่ เพราะรัฐบาลชี้แจงไปหมดแล้ว

(27ต.ค.) เวลา 08.30 น.ที่กองการบินกรมขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์พื้นที่ โดยเฉพาะเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดสถานีรถไฟรือเสาะ จ.นราธิวาส ว่า เจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องคงพิสูจน์ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องให้เจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายสรุปผล ซึ่งเราควรจะให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างอิสระดีกว่าไปตั้งข้อสังเกตโดยที่เรา ไม่ได้รู้อะไรเลย การให้ความเห็นไปในทิศทางโดยไม่มีพื้นฐานในสิ่งที่รู้ให้เจ้าหน้าที่ที่ เกี่ยวข้องไปตรวจสอบดีกว่า เพราะเรามีเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทเขาพระวิหารเป็นอย่างไร หลังจากที่ สมเด็จ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาแสดงจุดยืนเกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ในขณะนี้ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ทหาร ยังมีความสัมพันธ์อันดี และยังเป็นไปตามกรอบนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ในการแก้ไขปัญหาด้วยการใช้กลไกใน การเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชาแบบทวิภาคี ส่วนความเคลื่อนไหวทางทหารนั้น ยังไม่มี และทราบมาว่าทางผู้บังคับบัญชาระดับสูงยืนยันว่าจะไม่มีการใช้กำลังกัน ระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งเขายืนยันมาอย่างนั้น พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงไปในพื้นที่เสียมเลียบ และพนมเปญ ประมาณ 2 - 3 วัน

"การเดินทางไปกัมพูชาของแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นไปตามความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา และแม่ทัพภาคที่ 2 ของเรา ซึ่งมีพื้นที่ที่รับผิดชอบติดต่อกันก็จะเดินไปมาหาสู่กัน ซึ่งการแก้ไขปัญหาเราไม่ได้ใช้กำลังเพียงแต่เรารักษาสภาพอยู่ในเวลานี้ แต่กลไกทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายจะแก้ปัญหาตรงนี้ และผมยืนยันว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะไม่มีการสู้รบกัน และจะไม่มีการใช้กำลังในการแก้ไขปัญหาอย่างแน่นอน" พล.อ.อนุพงษ์

เมื่อถามว่า การเดินทางไปกัมพูชาของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย จะทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนอยากเรียกด้วยความจริงใจไม่ได้ตอบเลี่ยงคือไม่ทราบจริงๆ ตนไม่ทราบว่าที่ พล.อ.ชวลิต เดินทางไปกัมพูชาไปเรื่องส่วนตัว หรือไปพูดคุยในฐานะอะไรตนไม่มีความรู้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะให้ไปตัดสินว่าผลจะออกมาดีหรือไม่ดีอย่างไร

เมื่อถามว่า การเดินทางเยือนประเทศเพื่อนบ้านของ พล.อ.ชวลิต จะทำให้เกิดการกระทบต่อการทำงานของกองทัพ หรือมีการเชื่อมโยงอะไรหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ตนทราบเท่าที่มีข่าวออกมา ท่านก็ทราบดีว่าจะกระทบหรือไม่กระทบรัฐบาลก็ชี้แจงอยู่ ดังนั้นก็อยากให้กลไกที่เกี่ยวข้องชี้แจงอย่าให้ตนไปวิพากษ์วิจารณ์เลยมัน น่าจะดีกว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็ตอบแล้ว ตนคงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวน่าจะดีกว่า

เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะบานปลายจนนำไปสู่ความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้ว่าจะเอาสิ่งใดมาเป็นตัวชี้วัดว่าจะบานปลายหรือไม่ ตนไม่มีแนวคิดหรือวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องนี้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ในฐานะที่ตนรู้เรื่องราวตามแนวชายแดนตอนนี้อยู่ในความเรียบร้อย และสิ่งที่เป็นอยู่ในเวลานี้ไม่ได้อยู่ตามแนวชายแดนที่ตนรับผิดชอบ และตนคงไม่มีข้อมูลที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ใช่ขอบเขตในหน้าที่

เมื่อถามว่า ผบ.เหล่าทัพทั้งสองประเทศได้มีการพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ และตอนนี้ความสัมพันธ์ทางทหารเป็นอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนไปเจอ ผบ.ทบ.อาเซียน ที่มีการประชุม ผบ.ทบ.ที่ประเทศสิงคโปร์ก็มีการพูดคุยกันไม่มีท่าทีในลักษณะที่ไม่ดีต่อกัน โดยมีความสัมพันธ์ที่ดี และพูดคุยกันตามปกติ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook