ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขอโทษประชาชน จัดหาวัคซีนไม่ทันต่อสถานการณ์โควิด

ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขอโทษประชาชน จัดหาวัคซีนไม่ทันต่อสถานการณ์โควิด

ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขอโทษประชาชน จัดหาวัคซีนไม่ทันต่อสถานการณ์โควิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"นพ.นคร" ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขอโทษประชาชน แม้จะพยายามเต็มที่ แต่ก็ยังจัดหาวัคซีนไม่ทันต่อสถานการณ์โควิด-19 ในไทย

วันนี้ (21 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า ในส่วนของสถาบันวัคซีนฯ ทำหน้าที่เจรจาจัดหา พยายามติดต่อประสานงานผู้ผลิตวัคซีนทั้งที่มีวัคซีนแล้วและอยู่ระหว่างวิจัยตั้งแต่ช่วง ส.ค. 2563 และพยายามหาช่องทางจองซื้อล่วงหน้าแม้ว่าวัคซีนจะอยู่ระหว่างการวิจัย จนได้มีการออกประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ มาตรา 18 (4) ที่จะเปิดให้สถาบันวัคซีนฯ ทำหน้าที่ในการจองวัคซีนล่วงหน้าที่อยู่ระหว่างการวิจัย

เป็นที่มาที่สามารถจัดหาวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าที่เป็นการจองตั้งแต่เริ่มต้น และวัคซีนที่ได้จำนวน 61 ล้านโดส เป็นการจองล่วงหน้าที่มีการเจรจาตั้งแต่เดือน ส.ค. - ก.ย. และจองวัคซีนเสร็จสิ้นเดือน พ.ย. 2563 และจองซื้อเพิ่มเติมครบ 61 ล้านโดส ในต้นปี 2564

แต่ละครั้งการที่จะเสนอในการจัดหาวัคซีนใดก็ตาม เมื่อมีข้อมูลจากการเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน จะนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงานและคณะกรรมการจัดหาวัคซีน ที่มีปลัด สธ. เป็นประธาน เป็นกลไกด้านการบริหารที่มีอยู่ให้เกิดการตัดสินใจในเชิงบริหาร เพราะว่าไม่สามารถดำเนินการได้โดยบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ต้องปรึกษาทั้งผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานที่รับผิดชอบ เป็นการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ

ถึงแม้ว่ากรมควบคุมโรค และสถาบันวัคซีนฯ จะเป็นผู้จัดหาวัคซีนร่วมกัน แต่การตัดสินใจต้องนำเข้าสู่การประชุมคณะทำงานและคณะกรรมการแต่ละชุดที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพิจารณาโดยรอบคอบ เพราะมีความเกี่ยวพันทั้งเรื่องภาระงบประมาณ และความผูกพันด้านสัญญาที่ไม่มีหน่วยงานใดดำเนินการได้ตามลำพัง

“เป็นที่มาที่เกิดความรับรู้ว่าการดำเนินการที่เราจัดหาวัคซีนอาจจะไม่ทัน ตามจำนวนที่คิดว่าควรจะเป็นได้ ทั้งหมดก็เป็นเรื่องของข้อจำกัดที่มี แต่ก็ต้องกราบขออภัยพี่น้องประชาชนนะครับ ที่ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แม้ว่าจะได้พยายามเต็มที่ก็ยังจัดหาวัคซีนได้ในจำนวนที่ไม่เพียงพอต่อสถานการณ์ ซึ่งสถานการณ์ก็เป็นสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิด การระบาดของโรคโควิด-19 เราไม่เคยประสบพบเจอกันมาก่อน

รวมถึงสถานการณ์การกลายพันธุ์ของไวรัส ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะคาดหมายได้ล่วงหน้า เกิดขึ้นแล้วทำให้เกิดการระบาดของโรค รวดเร็วและรุนแรงกว่าที่เคยเป็นมาก่อนในช่วงปีที่แล้ว ทำให้การจัดหาวัคซีนไม่ทันต่อสถานการณ์ ก็ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง” ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุ

นพ.นคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีหน้า สถาบันวัคซีนฯ จะเร่งรัดจัดหาวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่สามารถตอบสนองต่อไวรัสที่กลายพันธุ์ได้ ซึ่งมีเป้าหมายจัดส่งได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ต้องเร่งดำเนินการเพราะไม่สามารถรอได้ ต้องสั่งจองไว้ล่วงหน้า

ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ยังระบุอีกว่า เรายังอยู่ในการเข้าร่วมกับโครงการ COVAX เพียงแต่ยังไม่มีการลงนามในการทำความร่วมมือในการจัดหาวัคซีนร่วมกันผ่านโครงการ COVAX ส่วนนี้สถาบันวัคซีนฯ ได้เริ่มเตรียมการเจรจา โดยมีการส่งข้อความประสานงานไปที่องค์กรพันธมิตรเพื่อวัคซีนกาวี (Gavi) ในการขอเจรจาเพื่อจัดหาวัคซีนร่วมกับโครงการ COVAX โดยมีเป้าหมายของการได้รับวัคซีนในปี 2565 เพิ่มเติมไปกับการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ หากมีข้อสรุปเบื้องต้นที่ชัดเจน จะมีการเสนอผ่านคณะทำงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook