โฆษกรัฐแฉแผนทักษิณส่งจิ๋วเดินสายขายโปรเจ๊ค

โฆษกรัฐแฉแผนทักษิณส่งจิ๋วเดินสายขายโปรเจ๊ค

โฆษกรัฐแฉแผนทักษิณส่งจิ๋วเดินสายขายโปรเจ๊ค
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โฆษกรัฐ แฉแผน "ทักษิณ" ส่ง "จิ๋ว" เดินสาย ขายโปรเจ๊ค "พลังงาน" ยั่วน้ำลาย "ปท.เพื่อนบ้าน" จับมือถล่มรัฐบาล ตอบไม่ชัดผู้นำอาเซียนนอนบ้านทักษิณ

(27ต.ค.) นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสวิจารณ์สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี ว่า โดยปกติแล้วการประชุมนานาชาติก็มักจะมีผู้นำบางประเทศที่ต้องการผลักดันวาระของตัวเอง แต่โดยมารยาทก็จะต้องไม่สร้างวาระใหม่จนสังคมไม่สนใจหัวข้อการประชุมเช่นกำลังประชุมเรื่องโลกร้อน แต่ผู้นำคนหนึ่งกลับเสนอปัญหาชายแดนจนเป็นข่าวใหญ่โตก็ไม่สมควร ในกรณีสมเด็จฮุนเซน หลังจากที่ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วหลังจากนั้นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์ทำนองตักเตือนไม่ให้พูดลักษณะนั้นอีก ซึ่งก็ได้ผลเพราะหลังจากนั้นไม่ถึง 24 ชั่วโมงนายกฯกัมพูชาก็มีท่าทีสนับสนุนการจัดตั้งกองทุนเชียงใหม่

"รัฐบาลคาดเดาอยู่แล้วว่าจะมีผู้นำกัมพูชา อาจจะพูดแบบนี้เพราะก่อนหน้าที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จะไปพบสมเด็จฮุนเซนก็จะมีบุคคลอีกหลายคณะเป็นนายทหารไปพบบุคคลระดับสูงของกัมพูชา กระทั่งพล.อ.ชวลิต ไปพบเราก็เชื่อมโยงเห็นภาพทั้งหมด ว่าเวทีการประชุมนานาชาติเช่นนี้จะเป็นโอกาสให้กับคนที่ไม่คิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมใช้เป็นโอกาสในการดิสเครดิตผู้นำและรัฐบาลไทย ซึ่งคนกลุ่มนี้เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อตอนประชุมที่พัทยา" โฆษกรัฐบาล กล่าวและว่า

ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของพล.อ.ชวลิต ที่เดินทางไปจับมือกับประเทศเพื่อนบ้านแล้วอาศัยจุดที่เป็นปัญหาย้อนกลับมาโจมตีรัฐบาลไทยเป็นแผนการที่ถูกปรับตัวหลังจากที่ไม่สามารถชุมนุมประชาชนจำนวนมากในสถานที่ประชุมได้ ก็หาทางล็อบบี้ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านที่จะเข้าร่วมประชุมเป็นเบี้ยหรือเป็นตัวแทนผลักดันวาระของตัวเอง

นายปณิธาน กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต จะเดินทางไปพบกับผู้นำมาเลเซีย นั้นพล.อ.ชวลิตจะอ้างสถิติความรุนแรงที่ไม่ลดลง หรือบุคคลที่รับผิดชอบไม่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงความล่าช้าในการปรับโครงสร้างการแก้ปัญหาของรัฐบาลไทยพยายามโน้มน้าวให้ผู้นำมาเลเซีย เห็นด้วยกับเขา แต่ผู้นำมาเลเซีย นั้นมีความสนิทสนมกับนายอภิสิทธิ เพราะเป็นผู้นำรุ่นใหม่ที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ดเหมือนกัน มียุทธศาสตร์ในการพัฒนา 3 จังหวัดที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะในเรื่องการจัดตั้งสภาสันติสุขซึ่งจะเป็นรูปแบบให้ประชาชนในพื้นที่ได้ปกครองตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่พล.อ.ชวลิตจะทำได้เหมือนกรณีสมเด็จฮุนเซน

"ผมเคยพูดแล้วว่าวันหนึ่งคุณทักษิณ จะมาป้วนเปี้ยนอยู่ตามแนวชายแดนไทย ซึ่งวันนี้ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ บนเครื่องบินส่วนตัวของคุณทักษิณจะมีทีมงาน 3-4 คนคอยประสานกับผู้นำประเทศเพื่อนบ้านอยู่ตลอดเวลา วิธีการที่คุณทักษิณ เข้าหาผู้นำประเทศเพื่อนบ้านคือให้พล.อ.ชวลิต ไปตกลงว่าถ้าคุณทักษิณ กลับมาเป็นนายกฯจะเดินหน้าพัฒนาและลงทุนสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างท่อก๊าซเชื่อมประเทศเพื่อนบ้าน โดยคุณทักษิณจะใช้ความสัมพันธ์กับเศรษฐีในตะวันออกกลางแล้วอ้างว่าจะติดต่อให้เข้ามาลงทุนด้านพลังงาน รวมทั้งยังขายฝันเรื่องอุตสาหกรรมอาหารด้วย โดยพยายามทำให้โลกเห็นว่ารัฐบาลไทยเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาด้านพลังงาน เป็นการเปิดเกมใหม่ของคุณทักษิณ" นายปณิธาน กล่าว

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าแม้พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาเป็นนายกฯจริงก็จะทำไม่ได้ เพราะสังคมปัจจุบันจะก่อสร้างโครงการใหญ่ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญม.67 วรรคสอง ถ้าจะทำได้จริงก็ต้องยกมาตรานี้ทิ้งไป ซึ่งประชาชนจะไม่ยอม

ตอบไม่ชัดผู้นำอาเซียนนอนบ้านทักษิณ

นายปณิธาน กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวที่ผู้นำบางประเทศได้ไปพักที่บ้านพักของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะที่เดินทางมาประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 ชะอำ-หัวหิน ว่า ก็มีการพูดกันในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน จึงไม่สามารถจะบอกได้ว่ามีผู้นำประเทศไหนไปพักบ้าง แต่ก็เป็นที่เรื่องไม่แปลกที่อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้นำหลายประเทศได้ เพราะที่ผ่านมาขณะที่เป็นผู้นำอยู่สัมพันธ์กันมาก แต่พอลงจากอำนาจก็ยังไปมาหาสู่กันได้ โดยอีกฝ่ายก็ต้องให้การต้อนรับในฐานะที่เป็นอดีตผู้นำ

อย่างไรก็ตาม ผู้นำแต่ละประเทศก็สามารถแยกแยะได้ ว่าใครอยู่ในอำนาจ หรือใครอยู่ฝ่ายค้าน และใครมีบทบาทอะไร สำหรับการจัดหาที่พักประชุมส่วนใหญ่ก็จะมีการเสนอที่พักให้บรรดาผู้นำได้มาส่งคนดูว่าจะพักหรือไม่ ถ้าผู้นำบางประเทศต้องการจะพักที่ไหนก็เป็นสิทธิ์ของผู้นำ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่ทางเราไม่สามารถไปก้าวกายได้ เท่าที่ทางเราได้ทราบและยืนยันว่า ผู้นำที่มาร่วมประชุมได้พักอยู่ในพื้นที่ที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว เพราะต้องการให้อยู่ในพื้นที่ที่จัดไว้ให้และสามารถดูแลความปลอดภัยของผู้นำได้

"การเดินทางมาประชุมของผู้นำประเทศนั้นส่วนใหญ่จะแจ้งทางการให้ทราบว่าจะเดินทางไปที่ไหนหรือพักที่ไหน แต่เมื่อไม่แจ้งรัฐบาลก็ถือว่าเป็นภารกิจส่วนตัว เช่นคู่สมรสของผู้นำบางประเทศ เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วมีอาการไม่สบายเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลก็ไม่ต้องแจ้งรัฐบาลก็ทำได้"นายปณิธาน กล่าว

"เฉลิม"ชื่นชมฮุนเซนพูดถูกหมดเตรียมตั้งกระทู้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ระบุจะใช้สนธิสัญญาระหว่างประเทศระหว่างไทย-กัมพูชา ให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน มาดำเนินคดีในประเทศไทยว่า ตนฟังนายกฯและรมว.ต่างประเทศพูดเรื่องพวกนี้แล้ว ไม่นึกกว่าทั้ง 2 จะมีสติ ปัญญาเพียงเท่านี้

เพราะถ้าถามไปว่าตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่กัมพูชาหรือไม่ ก็ต้องตอบว่าไม่ได้อยู่ แล้วคนระดับนายกฯไปพูดจาเช่นนี้ทำไม มีวุฒิภาวะหรือไม่ หากตนเป็นนายกฯมีคนมาถามเช่นนี้ ก็ต้องบอกว่าแสดงความคิดเห็นไม่ได้เพราะเรื่องไม่เกิด ยิ่งไปกว่านั้น ไปพูดในช่วงเวลาที่เชิญเขามาร่วมประชุมอาเซียน ไม่ใช่วิสัยทางการทูต แต่เป็นเรื่องของพวกชอบพูด อย่างไรก็ตามในเรื่องดังกล่าวขอชื่นชมสมเด็จ ฮุนเซน ได้ศึกษาทำการบ้านเรื่องนี้มาอย่างดี สิ่งที่พูดมาถูกหมด

เพื่อไทยตั้งบิ๊กจิ๋วเป็นประธานพรรคแยกจากเฉลิม

ที่พรรคเพื่อไทย เวลา 16.30 น. นายพร้อมพงษ์ นพฤทธ์ แถลงผลการประชุมพรรคเพื่อไทยว่า ที่ประชุมส.ส.มีมติแต่งตั้งพล.อ.ชวลิตเป็นประธานพรรคเพื่อไทย โดยตำแหน่งประธานพรรคจะทำหน้าที่คล้ายประธานบอร์ด มีหน้าที่กำหนดนโยบายหลักของพรรค ซึ่งหน้าที่จะแตกต่างจากตำแหน่งประธานส.ส.ของร.ต.อ.เฉลิมที่ต้องทำหน้าที่ในสภาฯ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook