พขร.โวยโดนวางยารถไฟเกือบชนกัน

พขร.โวยโดนวางยารถไฟเกือบชนกัน

พขร.โวยโดนวางยารถไฟเกือบชนกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ระทึก รถไฟขบวนพัทลุง-สุไหงโก-ลก ออกจากสถานีหาดใหญ่ แค่ 300 เมตร ฝ่าสัญญาณไฟ-ประแจล็อก หวิดชนขบวนลังกาวี-หาดใหญ่ พขร.โวยโดนวางยา "ขัดขวางทางเทคนิค ทั้งๆที่ก่อนออกรถมีการยืนยันความพร้อม สหภาพได้ทีเย้ยคนขับส่วนกลางไม่ชำนาญ ฮือล้อมหัวจักรหวิดปะทะกับตำรวจ

การหยุดเดินรถไฟในเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้ยังยึดเยื้อเป็นวันที่สิบสอง แม้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ประกาศจะนำขบวนรถออกให้บริการประชาชน โดยส่งพนักงานรถจักรทั้งพนักงานขับรถไฟและช่างเครื่อง 6 ทีม จำนวน 12 คน เตรียมพร้อมที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อทนแทนพนักงานในพื้นที่ที่ยังคงลาหยุด และให้เดินรถได้ทันทีหากขบวนใดพร้อม แต่ไม่สามารถเดินรถได้ตามปกติ

ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ตุลาคม ความพยายามที่จะนำขบวนรถออกจากที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ ไปยังพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เกือบนำไปสู่โศกนาฏกรรมขึ้น นายสาโรจน์ รักษ์จันทร์ กรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) สาขาหาดใหญ่ กล่าวถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญว่า ขณะที่พนักงานขับรถไฟและช่างเครื่องประจำสถานีรถไฟบางซื่อ กรุงเทพฯ ปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวตามคำสั่งของฝ่ายบริหารการรถไฟ นำรถขบวนท้องถิ่นที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ออกจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ ไปรับผู้โดยสารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เมื่อขบวนรถเคลื่อนตัวจากสถานีเพียง 300 เมตร ได้วิ่งฝ่าฝืนสัญญาณควบคุม ทำให้ประแจสับรางติดค้างและขบวนรถหยุดทันที เนื่องจากระบบสัญญานเกิดขัดข้องไปด้วย

"โชคดีที่ขบวนรถหยุดก่อน เพราะเกือบพุ่งชนไปกับขบวนรถที่ 954 ลังกาวี-หาดใหญ่ ซึ่งจอดส่งผู้โดยสาร และกำลังจะเข้าเทียบชานชาลาเดียวกัน ห่างออกไปเพียง 200 เมตรเท่านั้น" นายสาโรจน์กล่าว

กรรมการ สร.รฟท. กล่าวอีกว่า กำลังรวมหลักฐานพยานเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับพนักขับรถไฟและฝ่ายบริหารการรถไฟ ที่ออกคำสั่งให้เปิดเดินรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร

"เชื่อว่าสาเหตุที่ขบวนรถฝ่าสัญญานไฟ เพราะพนักงานขับรถไฟไม่ชำนาญเส้นทา ทำให้ไม่เข้าใจระบบรางในพื้นที่ ทำให้ประแจติดค้าง ส่งผลให้ระบบสับเปลี่ยนรางขัดข้อง เรื่องนี้ต้องรีบซ่อมด่วน เพื่อให้รถขบวนอื่นๆ ที่จะวิ่งไปในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนไม่เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งหากเคลื่อนขบวน 1-2 เมตร จะเสี่ยงต่อการเกิดรถไฟตกรางทันที หรืออาจพุ่งชนขบวนรถไฟสายต่างประเทศที่จอดอยู่ในเส้นทางเดียวกันได้" นายสาโรจน์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กลุ่ม สร.รฟท. ต่างวิ่งเข้าไปล้อมหัวรถจักรและพนักงานขับรถไฟ ตำรวจรถไฟซึ่งตรึงกำลังในบริเวณนั้น ต้องรีบเข้าคุ้มกันพนักงานขับรถไฟทันที สถานการณ์การเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างตึงเครียด กระทั่งตำรวจมีการเสริมกำลังอีกกว่า 20 นาย จากนั้น สร.รฟท.หาดใหญ่ เข้าแจ้งความเอาผิดการรถไฟที่ สภ.หาดใหญ่

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.ท.ศราวุธ เจี้ยงเต็ม พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เชิญพนักงานขับรถไฟจากส่วนกลางจำนวน 13 คน เข้าให้ปากคำต่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานขับรถไฟจากส่วนกลาง ให้การว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่การเดินรถ หรือเรียกว่า "ขัดขวางทางเทคนิค" เพื่อไม่ให้สามารถทำการเดินรถได้ แม้จะไม่มีการขัดขวางด้วยการกระทำ เช่น เข้ายึดขบวนรถ

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจำนวน 6 นาย ได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นรอดูท่าทีของการรถไฟว่า จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร และจะเข้าแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่

ในช่วงเย็นวันเดียวกัน ประชานิวัติ บัวศรี รองประธาน สร.รฟท.หาดใหญ่ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการข่าวเด่นเย็นนี้ ว่า ไม่มีความจำเป็นที่ สร.รฟท. จะขัดขวางการเดินรถตามที่พนักงานขับรถจากส่วนกลางกล่าวอ้าง เนื่องจากที่ผ่านมาเราย้ำมาตลอดถึงความปลอดภัยในการให้บริการประชาชน เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความพยามของฝ่ายบริหารการรถไฟที่พยายามจะเอาขบวนรถออกวิ่ง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย

ด้าน นายนรินทร์ จันทรเดชา รองผผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสารวัตรเดินรถสถานีรถไฟหาดใหญ่ ขณะเตรียมนำรถขบวนท้องถิ่นที่ 463 พัทลุง-สุไหงโก-ลก ออกจากสถานีรถไฟหาดใหญ่ กลุ่ม สร.รฟท.ได้รวมตัวกันแล้วให้โทรโข่งต่อว่าพนักงานขับรถ จากนั้นเวลา 10.20 น. พนักงานประจำหัวรถจักเดินรถ อยู่ที่ประแจสับรางที่ 65 และเวลา 10.22 ได้ออกเดินรถ ระหว่างนั้นผู้ชุมนุมร้องตะโกนด่าทอตลอด

"เมื่อนำตัวออกจากสถานี พนักงานขับรถพบว่าประแจไม่เรียบร้อย เขาก็หยุดรถเป็นเรื่องปกติ ไม่มีปัญหาครับ อีกทั้งเกิดขึ้นในช่วงเขตย่านสถานี รถมีความเร็วต่ำ คนเขาวิจารญาณ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่รถไม่เรียบร้อยก็ต้องหยุด ไม่ได้ชน หรือตกรางทั้งสิ้น" นายนรินทร์กล่าวยืนยัน

ส่วน นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธาน สร.รฟท.หาดใหญ่ กล่าวว่า แม้นายกรัฐมนตรีต้องการให้เอาผิดทางวินัยกับพนักงานที่หยุดงาน แต่ยืนยันว่าพนักงานทุกคนไม่ได้ทำผิดทางวินัย เพราะทำตามระเบียบข้อตกลงสภาพการจ้างงานทุกประการ อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้การเจรจากับ สร.รฟท. ยังเป็นแค่ผู้บริหารการรถไฟในระดับท้องถิ่นเท่านั้น ซึ่งไม่มีอำนาจตัดสินใจใดๆ

พขร.ขบวน463เผยก่อนออกรถมีการยืนยันความพร้อม

นายสาโรจน์ สุขสำราญ พนักงานขับรถไฟขบวนที่ 463 หาดใหญ่-สุไหงโก-ลก ที่มีปัญหาไม่สามารถออกเดินรถได้และหวิดเกิดอุบัติเหตุ ออกมายืนยันในความพร้อมการเดินรถไฟขบวนดังกล่าว โดยระบุว่า ตนได้รับคำสั่งจากฝ่ายการช่างกลการรถไฟแห่งประเทศไทยให้มาทอดสอบความปลอดภัยการเดินรถจากสถานีหาดใหญ่ถึงสถานีสุไหงโก-ลก หลังจากที่สหภาพรถไฟอ้างว่าไม่ปลอดภัย

ก่อนที่จะนำรถไฟขบวน 463 ออกทำขบวนได้รับการยืนยันถึงความพร้อมของการเดินรถและได้รับห่วงทางสะดวกอนุญาตให้เดินรถระหว่างสถานีหาดใหญ่ถึงสถานีนาหม่อมซึ่งเป็นสถานีแรกที่จะไปถึง และทำการเปิดสัญญาณเดินรถก่อนออกเดินทาง แต่ปรากฏว่าระหว่างที่รถวิ่งออกไปได้ระยะหนึ่งได้สังเกตุเห็นโคมประแจผิดปกติไม่เดินในทางตรงเป็นรูปบิดจึงจำเป็นต้องหยุดเดินรถเพราะอันตรายซึ่งตนก็ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดขึ้นได้อย่างไรเพราะก่อนออกรถมีการตรวจสอบเส้นทางเป็นอย่างดีและยืนยันถึงความพร้อม จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้น

อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุตนได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของการรถไฟเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มสหภาพรถไฟหาดใหญ่เพื่อดำเนินคดีในข้อหากระทำการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ทำให้รถไฟได้รับความเสียหาย

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook