เผาศพ "แพรพัชร์" พยาบาลติดโควิดดับ เพื่อนเผยไม่ได้ฉีดซิโนแวค เพราะมีโรคประจำตัว
เผาศพ "แพรพัชร์" พยาบาลติดโควิดเสียชีวิต เพื่อนเผยไม่ได้ฉีดซิโนแวคเพราะมีโรคประจำตัว รอวัคซีนทางเลือกแต่ก็ไม่ทัน
(24 ก.ค.64) เวลา 14.00 น.ที่วัดบางม่วง ต.บางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จากกระแสโลกออนไลน์ร่วมกันอาลัย “แพรพัชร์ ธัญวัฒน์ทวีสุข” พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลย่านบางแค เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ก.ค.2564 หลังติดเชื้อโควิด-19 จากการทำงาน ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้าประจำจุดตรวจโควิด โดยเจ้าหน้าที่ บุคลากรทางการแพทย์ ร่วมกันยืนตั้งแถวรับศพออกจากห้องผู้ป่วย
วันนี้ศพของ น.ส.แพรพัชร์ ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลเกษมราษฎร์บางแค ประมาณ 13.00 น. มายังเมรุวัดบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อทำการฌาปนกิจ โดยมีนายบุญทัน ศรีสุข แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต และเพื่อนร่วมวิชาชีพเดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก เพื่อส่งผู้เสียชีวิตครั้งสุดท้าย บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า และทุกคนเสียใจกับการจากไปของผู้เสียชีวิต
เพื่อนพยาบาล กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้ฉีดวัคซีน เพราะมีโรคประจำตัว เป็นไฮเปอร์ไทรอยด์ จึงเลือกที่จะรอวัคซีนที่มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด สำหรับพวกตนไม่ได้มีโรคประจำตัวจึงฉีดวัคซีนได้แต่ก็จองวัตซีนทางเลือกไว้เป็นเข็มบูสเตอร์ พี่แพรเป็นคนสะอาด เป็นคนรักสวยรักงาม ละเอียดรอบคอบ ระมัดระวังตัว เป็นพยาบาลที่รู้จักวิธีป้องกัน ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงติดเชื้อได้
นายบุญทัน ศรีสุข แฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนี้แพรไปสบายแล้ว ขอให้เขาหลับและไปสู่ภพภูมิที่ดีไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ แพรเป็นคนดีเป็นที่รักของเพื่อนพยาบาล โดยก่อนหน้านี้ตนและแพรวางแผนกันไว้ว่างจะย้ายกลับไปอยู่บ้านที่โคราช เพราะคิดถึงและเป็นห่วงพ่อกับแม่ เพราะแพรเป็นกำลังหลักให้ที่บ้าน พี่น้องอยู่ที่ประเทศสวีเดนทั้งหมด ก่อนที่แพรจะเสียเราเคยคุยกันว่าแพรต้องหายและต้องได้ออกมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ซึ่งเคยคุยกันว่าถ้าโควิดมันสถานการณ์ดีขึ้นเราสองคนจะพาพ่อและแม่ไปสวีเดนเพื่อไปเยี่ยมน้องที่อยู่ที่ประเทศนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป สำหรับตนคงต้องอยู่ต่อไปทำพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด ฝากบอกหมอและพยาบาลให้สู้และผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
พระครูสมห์บุญเกิด ฐานุตตโร เจ้าอาวาสวัดบางม่วง เปิดเผยว่า อาตมาไม่ทราบมาก่อนเลยว่า ศพที่มาถึงวัดเมื่อช่วงเช้าเป็นร่างของพยาบาลวิชาชีพที่อยู่ด้านหน้าในการช่วยเหลือประชาชน เพียงแต่ได้รับการติดต่อมาว่าขอเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น จนกระทั่งมาทราบข่าวก็ตกใจเหมือนกันว่า ขนาดพยาบาลด้านหน้าที่มีความรู้ความสามารถในการป้องกันตัวยังพลาดท่าติดเชื้อได้เลย ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ขนาดด่านหน้ายังไม่เหลือแล้วด่านหลังอย่างวัดจะไปเหลืออะไร ตอนนี้อาตมาต้องสั่งกำชับพระลูกวัดให้ระมัดระวังตัวป้องกันให้ดี อย่าประมาท
ซึ่งในวันนี้นอกจากทางวัดจะดำเนินการฌาปนกิจเผาร่างพยาบาลที่เสียชีวิตแล้ว ยังมีศพผู้เสียชีวิตอีก 13 ราย ที่ติดต่อขอความช่วยเหลือให้ทางวัดทำพิธีฌาปนกิจให้อีก ซึ่งทางวัดเองก็ขอสู้สุดใจ มาเท่าไรก็เผาเท่านั้น เพราะนอกจากทางวัดจะมีเตาหลักแล้ว ยังมีเตาเผาสำรองอีกชุดซึ่งถึงแม้จะชำรุด แต่ก็สามารถซ่อมกลับมาใช้งานได้แล้ว และเตรียมสั่งเตาเผาสำรองมาเพิ่มอีก 1 เตา เพื่อเตรียมพร้อมรองรับไว้