อเมริกาต้านโควิดสายพันธุ์เดลตาไม่ไหว แนะประชาชนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
เดลตา ครองสหรัฐฯ CDC หวนแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงกลับมาสวมหน้ากากอีกครั้งแม้จะฉีดวัคซีนครบแล้ว
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ (CDC) ได้ออกคำแนะนำล่าสุด ขอความร่วมมือประชาชนที่รับวัคซีนครบโดสแล้ว กลับมายกระดับป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้งเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะในร่ม โดยเฉพาะพื้นที่มีอัตราการกลับมาติดเชื้อสูง หลังพบเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา ระบาดลุกลามไปอย่างรวดเร็วในหลายพื้นที่เกินครึ่งประเทศ
CDC สหรัฐฯ ยังได้แนะนำด้วยว่า ให้นักเรียนทุกคนและครูที่สอนตามโรงเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงเกรด 12 พิจารณาการสวมหน้ากากอนามัยในโรงเรียน ทั้งผู้ที่ได้ฉีดวัคซีนแล้วและผู้ที่ยังไม่ได้ฉีด โดยหน่วยควบคุมโรคสหรัฐฯ เชื่อว่าเด็กๆ น่าจะกลับคืนสู่ชั้นเรียนและสามารถเข้าเรียนได้เต็มเวลา ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตามแผนของรัฐบาลกลางภายใต้ยุทธศาสตร์การป้องกันอย่างเหมาะสม
CDC ให้เหตุผลว่า “ในเมืองต่างๆมีประมาณ 63.4% ที่มีอัตราการแพร่กระจายเชื้อไวรัส Covid-19 ในระดับสูง ซึ่งยังไงก็มีความจำเป็นที่ต้องสวมหน้ากาก”
ความคืบหน้านี้มีขึ้นจากหลายพื้นที่ของสหรัฐฯ พบการระบาดของเชื้อโควิดรอบใหม่ที่พบว่าผู้ติดเชื้อใหม่เกือบ 80% เป็นสายพันธุ์เดลตา ที่ติดต่อได้ง่าย แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และเป็นตัวแปรสำคัญที่หลายผลการวิจัยชี้ว่าลดศักยภาพวัคซีน
ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโจ ไบเดน เผยว่ารัฐบาลกลางกำลังพิจารณาออกกฎบังคับให้ลูกจ้างของรัฐบาลกลางต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน เชื่อเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับหลีกเลี่ยงล็อกดาวน์อีกรอบ
“การฉีดวัคซีนควบคู่กับการสวมหน้ากากจะช่วยหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ ตลอดจนถึงการปิดโรงเรียนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ครั้งใหญ่ในปี 2020 ได้ ซึ่งเราจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิมอย่างแน่นอน” ผู้นำสหรัฐฯ ระบุ
โรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการ CDC ระบุว่า จากผลการศึกษาใหม่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่รับวัคซีนครบแล้วนั้น แม้จะแสดงอาการของโรคได้น้อย แต่อาจมีปริมาณไวรัสเท่ากับคนที่ไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งชี้ว่าผู้รับวัคซีนแล้วก็มีสิทธิแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้เช่นกัน สอดคล้องกับ นายแพทย์เดวิด ดัวดี นักระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อปปินส์ ระบุว่าคำแนะนำล่าสุดของ CDC มีแรงจูงใจจากลักษณะการแพร่ระบาดที่เปลี่ยนแปลงไป "เรากำลังเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเท่าตัวในทุก 10 วันหรือมากกว่านั้น"
อย่างไรก็ตาม คำแนะนำของรัฐบาล อาจสวนทางกับทางทีของบางมลรัฐที่ฏิเสธนโยบายของ CDC โดยเฉพาะพื้นที่ของรีพับลิกกัน อาทิ ดั๊ก ดูซี ผู้ว่าการรัฐแอริโซนา เป็นหนึ่งใน 8 มลรัฐที่แสดงท่าทีปฏิเสธคำแนะนำของ CDC โดยกล่าวว่า รัฐแอริโซนา เราไม่ได้บังคับให้สวมหน้ากาก เราประกาศเรื่องนี้ไปแล้วและเราจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ” โดยก่อนหน้านี้นครนิวยอร์ก กับรัฐแคลิฟอร์เนียเป็นสองพื้นที่แรกที่ออกคำแนะนำให้ประชาชนกลับมาสวมหน้ากากอีกครั้ง ก่อนที่ CDC จะมีคำเตือนดังกล่าว
แม้จะออกคำแนะนำดังกล่าว แต่ด้านทำเนียบขาวยืนยันว่า แม้จะมีความกังวลลกับการระบาดรุนแรงของไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตา แต่สหรัฐฯจะยังไม่ยกเลิกมาตรการห้ามคนต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ
สำหรับทางสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยต่อวันจะพบว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนทางกับก่อนหน้านี้ที่ยอดป่วยใหม่บางวันลดเหลือหลักพันคนต่อวัน โดยนับตั้งแต่ต้นกรกฎาคมเป็นต้นมา สหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อใหม่รายวันกลับมาอยู่ที่หลักหมื่นรายต่อวันอีกครั้ง