เปิดผลชันสูตร ครูสาววัย 39 ปี ดับหลังฉีดวัคซีนไขว้ ชี้ไม่เกี่ยวกับวัคซีน
กรมควบคุมโรค เผยครูสาว วัย 39 ปี ที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ ยืนยันไม่เกี่ยวกับวัคซีน แค่บังเอิญเกิดช่วงเวลาใกล้กัน
จากกรณีการเสียชีวิตของ นางสาวพงศ์ภัค อายุ 39 ปี ครูสอนพิเศษ ซึ่งเป็นเจ้าของสถาบันแห่งหนึ่ง ถนนมหาราช 1 เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 20 ก.ค. หลังจากฉีดวัคซีนสูตรผสมซิโนแวคเข็มแรก และแอสตร้าเซนเนก้า เป็นเข็มที่ 2 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ค.) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า จากกรณีข่าวหญิง 39 ปี ครูสอนพิเศษ และเจ้าของสถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตภายหลังฉีดวัคซีนสลับชนิด โดยได้รับวัคซีนของบริษัทซิโนแวคเข็มแรกวันที่ 28 มิ.ย. 2564 และแอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 2 เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2564 ที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
ต่อมา ผู้ป่วยมีอาการปวดศีรษะในเวลากลางคืนวันเดียวกันที่ได้รับวัคซีนเข็ม 2 และเช้าวันรุ่งขึ้นมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์ ยังพูดคุยได้ตามปกติ ในช่วงค่ำญาติพบฟุบที่โต๊ะทำงาน เรียกไม่รู้สึกตัว จึงโทรแจ้งหน่วยการแพทย์ฉุกเฉิน
เมื่อทีมกู้ชีพถึงที่เกิดเหตุพบผู้ป่วยไม่มีชีพจร ไม่หายใจ ปลายมือปลายเท้าเขียว ปากเขียว ตัวซีด นำส่งห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ตรวจไม่พบสัญญาณชีพ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตก่อนนำส่งโรงพยาบาลและได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ
ผลการชันสูตรเนื้อสมองบวมทั่วไป และพบก้อนเนื้องอกขนาด 5 เซนติเมตร ที่น่าจะเป็นมาก่อนหน้านี้ บริเวณสมองส่วนหน้าขวากดเบียดก้านสมอง ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดศีรษะและมีผลต่อการกดการหายใจ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
สรุปว่าการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ที่บังเอิญเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน
จากการตรวจสอบข้อมูลการเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และฐานข้อมูล MOPH-IC สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 22 ก.ค.64 มีรายงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิดไปแล้ว 124,704 ราย
มีผู้ป่วยในที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 86 ราย อาการส่วนใหญ่คือมีไข้ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อาเจียน และไม่พบว่ามีผู้เสียชีวิตหรืออาการร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือการฉีดวัคซีนสลับชนิด