สาวใหญ่เมืองสุพรรณ ตรวจโควิดยังไม่ทันรู้ผล เสียชีวิตในบ้านก่อน กู้ภัยนำร่างเผากลางดึก
เมื่อเวลา 20.30น.วันที่ 29 กรกฎาคม2564 นายวิญญู สัตบุตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษตอบโต้โควิด-19 ได้รับแจ้งมีคนเสียชีวิตที่บ้าน ในพื้นที่ ต จระเข้ใหญ่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี จึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ชุดป้องกันไปตรวจสอบร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า และแพทย์ รพ.บางปลาม้า ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นแต่ทางญาติไม่มีใครกล้าขึ้นไปดู และเปิดไฟในบ้านให้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องปฏิบัติงานท่ามกลางความมืด ที่กลางห้องบนบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่จึงสวมชุด ป้องกันพร้อมฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนทำการชันสูตรเบื้องต้นไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายและร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใดจึง ดำเนินการบรรจุศพด้วยถุงซิป 3 ชั้น พร้อมกับพ่นยาฆ่าเชื้อตลอดเวลา ก่อนนำบรรจุใส่โลงพร้อมซีลฝาโลงอย่างแน่นหนา ก่อนเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตออกจากบ้านด้วยความทุลักทุเลเนื่องจากความมืด
จากนั้นนายวิญญู สัตบุตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษตอบโต้โควิด-19 ได้ประสานไปยังพระปลัดธนิตย์ จันทิโก(หลวงพี่เบียร์) เจ้าอาวาสวัดบางปลาหมอ รักษาการแทนเจ้าคณะตำบลดอนกำยาน เพื่อช่วยฌาปนกิจศพให้ โดยพระปลัดธนิตย์ ได้ทำบุญผ้าไตร ดอกไม้จันทน์ พร้อมนิมนต์พระสงฆ์ สามเณรทั้งวัด สวดมาติกาบังสุกุล และ สวดอภิธรรมหน้าไฟให้ และทำหน้าที่สัปเหร่อ ทำการเผาศพให้ด้วยตัวเอง
ทางด้านนายสมชาย น้องชายผู้เสียชีวิตเล่าว่า พี่สาวไปทำงานดูแลอาม่าผู้สูงอายุอยู่ที่กรุงเทพฯ และช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาม่าได้เสียชีวิตลง ส่วนพี่สาวก็มีอาการป่วยอาการคล้ายกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 มีไข้ ไอ เหนื่อย หอบ จึงได้ให้รถพยาบาลกู้ภัยไปรับตัวมาเพื่อเตรียมรักษา โดย รพ.สต.จระเข้ใหญ่ ได้ส่งตัวไปตรวจเมื่อช่วงเช้า และผลการตรวจหาเขื้อโควิด-19 ยังไม่ทันออก พี่สาวก็มาเสียชีวิตในช่วงกลางคืน โดยผู้ใหญ่บ้าน ผอ.รพ.สต. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า และ แพทย์เวร รพ.บางปลาม้า ได้อนุญาตให้นำร่างผู้เสียชีวิตไปดำเนินการตามมาตรการทันที ทั้งนี้บริเวณชุมชนนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 อยู่แล้ว เป็นกรณีเดียวกับที่เจ้าอาวาสวัดกระทุ่มทอง ติดเชื้อโควิด-19 เนื่องจากการรับกิจนิมนต์
ทางด้านนายวิญญู สัตบุตร หัวหน้าศูนย์กู้ภัยมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี กล่าวว่า ขณะที่ทีมอาสาสมัครกู้ภัยชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ กำลังเตรียมตัวแยกย้ายไปพักผ่อน เนื่องจากเหนื่อยล้าจากการปฏิบัติการนำร่างผู้เสียชีวิตติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 5 ไปฌาปนกิจตามประเพณี ก็ได้รับแจ้งให้ไปเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตมาฌาปนกิจ จึงจัดเตรียมโลง และชุด PPE พร้อมอุปกรณ์ป้องกัน เข้าดำเนินการตามที่ญาติร้องขอ ถึงแม้จะเหนื่อยล้าอ่อนแรงแต่เราก็ไม่หยุดเนื่องจากวันที่ 29 กรกฎาคม มีผู้เสียชีวิตมากถึง 6 ราย