เผาแล้ว "อุไรวรรณ" พยาบาล รพ.สมุทรสาคร ครอบครัวติดโควิดอีก 7 ราย มาส่งครั้งสุดท้ายไม่ได้
เผาแล้ว "อุไรวรรณ" พยาบาล รพ.สมุทรสาคร คนในครอบครัวติดโควิดอีก 7 ราย มีเพียงเพื่อนพยาบาลมาส่งครั้งสุดท้าย
จากกรณีโลกออนไลน์แชร์เรื่องราว พยาบาลวิชาชีพวัย 45 ปี เสียชีวิตจากโควิดเป็นรายแรกของโรงพยาบาลสมุทรสาคร
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาครเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยได้พบกับ นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร
นายแพทย์อนุกูลเปิดเผยว่า น้องพยาบาลคนดังกล่าว คือนางสาวอุไรวรรณ จันทรปลิน อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพ รพ.สมุทรสาคร ปฏิบัติงานอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย โดยได้ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลสมุทรสาครมาตั้งแต่เริ่มบรรจุเข้ามา น้องเริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมและมาตรวจในวันที่ 26 กรกฎาคม พบว่าติดเชื้อ และเข้ามานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาครเมื่อวันที่ 27กรกฎาคม น้องมีอาการเหนื่อยค่อนข้างมากต้องให้ออกซิเจน สุดท้ายหมอต้องใส่เครื่องช่วยหายใจและอยู่ห้องไอซียู
จากนั้นประสานส่งตัวไปโรงพยาบาลราชวิถีเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม และเสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 1 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา สำหรับน้องพยาบาลท่านนี้เพิ่งได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม เป็นบุคลากรทางการแพทย์คนแรกของโรงพยาบาลสมุทรสาครที่เสียชีวิต โดยช่วงนี้บุคคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสมุทรสาครเริ่มติดเชื้อมากขึ้น นับถึงปัจจุบันประมาณ 200 กว่าราย ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง มีอาการปอดอักเสบประมาณ 4-5 ราย
โดยทางโรงพยาบาลสมุทรสาครไม่เคยปฏิเสธว่าไม่มีเตียงและไม่เคยที่จะไม่รับคนไข้ จากที่มีคนไข้ประมาณ 400 คน ตอนนี้เพิ่มมาเป็นเกือบ 600 ราย
ด้านนางสาว กิติมา ลิ้มประเสริฐ รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล บอกว่า ทุกคนรู้สึกเศร้าใจที่เสียน้องพยาบาลคนที่เรารักไป แต่เราก็ยังคงต้องเดินหน้าต่อไป เราต้องต่อสู้กับเชื้อโควิดอันนี้ให้ได้ ด้านศพของน้องพยาบาลจะไปรับศพกันวันนี้ และนำมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดศรีเมือง ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
สำหรับยอดผู้ติดเชื้อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 24.00 น. มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 1,252 ราย เป็นการค้นหาเชิงรุก 330 ราย ตรวจในโรงพยาบาล 922 ราย ผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 50,906 รายรักษาหายกลับบ้านแล้ว 30,911 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 19,855 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 140 ราย
ขณะที่โรงพยาบาลสนามทั้ง 8 แห่งที่เปิดใช้งานได้ครบหมดแล้วนั้น ข้อมูล ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2564 มีเตียงสนามพร้อมใช้งานทั้งหมด 2,780 เตียง ใช้งานไปแล้ว 2,623 เตียง คงเหลือ 157 เตียง ด้านการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามตำบลหรือศูนย์พักคอยคนสาคร Community Isolation (CI) ทั้งหมดมี 36 แห่ง มีเตียงทั้งหมด 4,156 เตียง พร้อมใช้ 4,017 เตียง ใช้งานแล้ว 3,161 เตียง คงเหลือ 856 เตียง
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ที่วัดศรีเมือง ม.3 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาครนางชุลีพร วิจิตร์แสงศรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในพิธีณาปนกิจศพ นางสาวอุไรวรรณ จันทรปลิน อายุ 45 ปี พยาบาลวิชาชีพ ปฏิบัติงานอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย1 โรงพยาบาลสมุทรสาคร ที่เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อโควิด-19
โดยมีพระครูสาครสิริวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง เจ้าคณะตำบลบ้านเกาะ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ร่วมด้วย นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร นายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมญาติพี่น้องเข้าร่วมพิธีประมาณ80คน โดยภายในงานมีแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลสมุทรสาครได้ร่วมร้องเพลงมาร์ชพยาบาล เพื่อเป็นการอาลัยผู้ตายและส่งดวงวิญญาณไปสู่สรวงสวรรค์
สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของญาติพี่น้องเนื่องจากครอบครัวผู้เสียชีวิตที่อยู่กันมีจำนวน 9 คนและมีผู้ติดเชื้อโควิด 7 คนซึ่งขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ โดยทางด้านเพื่อนพยาบาลรุ่น 6 วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเก้าเพชรบุรี กล่าวว่าพวกตนรู้สึกเสียใจมากคือไม่คิดว่ามันเป็นความจริง มันเกิดขึ้นกับเพื่อนเราจริงๆ ใช่ไหม ไม่มีใครอยากให้มันสูญเสีย ด้วยโรคที่เราดูแลคนไข้หรือว่าดูแลคนอื่นแล้วเราต้องมาเป็น เขาก็ต้องจากไป ซึ่งตนอยากให้ทางภาครัฐจัดวัคซีนให้เร็วเพื่อจะป้องกันได้เร็ว เพราะเราไม่รู้เลยว่าใครที่เดินมาจะเป็น บางคนก็ปกปิดข้อมูล บางคนก็บอกไม่บอก พอมาถึงก็เป็นแล้วมานอนรวมกัน คือเราไม่รู้เพราะตอนนี้มันเป็นโรคอุบัติใหม่ ไม่มีใครรู้อะไรดีที่สุด แต่เราอยากให้เขาดูแลเราให้ดีที่สุดเพราะเราต้องดูแลคนไข้
ส่วนทางด้านนายแพทย์อนุกูล ไทยถานันดร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร กล่าวว่าสำหรับสวัสดิการในการดูแลช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ทางผู้เสียชีวิตมีสิทธิ์หลายอย่างที่โรงพยาบาลดูแลให้ รวมทั้งประกันชีวิต ทางเจ้าหน้าที่จะรวบรวมทั้งหมดให้ และในส่วนโรงพยาบาลเองก็มีเงินที่ทางโรงพยาบาลได้รวบรวมไว้แล้วเพื่อให้แก่ญาติของผู้เสียชีวิตต่อไป