"ไผ่ พงศธร" เศร้าโควิดโหดร้าย พรากชีวิตคนรักไปจากครอบครัว
ไผ่ พงศธร ระบายความโศกเศร้า โควิดโหดร้ายพรากชีวิตคนรักไปจากครอบครัวอย่างรวดเร็ว สะเทือนใจแม้แต่คนเป็นแม่ยังไม่สามารถมาเผาศพลูกชายได้
ไผ่ พงศธร ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบายความรู้สึกสุดเศร้า หลังจากสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเพราะโควิด-19 "โควิดนี้มันโหดร้ายอีหลี พรากคนฮักไปจากครอบครัว แม้แต่หน้าก็ยังไม่ได้เห็นเลย บ่น่าเชื้อว่ามันสิเร็วขนาดนี้ ไปอยู่บนสวรรค์เด้อโหน่งเด้อ"
นักร้องลูกทุ่งคนดังเปิดเผยกับ Sanook.com เพิ่มเติมว่า บุคคลดังกล่าวเป็นน้องชาย ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องในตระกูลเดียวกัน ออกจากบ้านเกิด อ.กุดชุม จ.ยโสธร ไปสู้ชีวิตในกรุงเทพมหานครตั้งแต่อายุยังน้อย จนสามารถเปิดร้านขายอาหารอีสานในอาคารพาณิชย์ได้
หลังจากตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด ได้ประสานหาเตียงรักษา แต่ยังไม่ได้เตียง ตัดสินใจขับรถจากกรุงเทพฯ กลับบ้านเกิด เพื่อมาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุดชุม แต่น้องชายมีโรคประจำตัว เบาหวาน ทำให้อาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลใน อ.เลิงนกทา และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้วยวัยเพียงแค่ 38 ปี
"ทราบข่าวว่าเขาติดเชื้อโควิด ขณะเปิดร้านขายอาหารให้ใส่ถุงกลับบ้าน เพราะมีญาติโทรมาบอก นับจากวันที่เขาติดเชื้อ จนถึงวันเสียชีวิต น่าจะประมาณ 6-7 วัน ไม่อยากเชื่อว่าจะไปเร็วขนาดนี้ เกิดขึ้นเร็วมาก ตื่นมารู้ข่าวว่าเขาเสียชีวิตแล้ว เสียใจมากเพราะผมกับเขารักกันมาก ถามไถ่ทุกข์สุขกันตลอด ทำไมมันโหดร้ายขนาดนี้ ลูกเมียใจสลายกันหมดเสาหลักของครอบครัวไม่อยู่แล้ว"
ไผ่ บอกอีกว่า เห็นวาระสุดท้ายของชีวิตน้องชาย ที่เป็นคนขยันทำมาหากิน ต้องจากโลกไปเพียงลำพัง ญาติพี่น้องไม่มีโอกาสได้เห็นหน้า ไม่ได้เอ่ยคำลา รู้สึกหดหู่ใจแล้ว แต่ที่สะเทือนใจยิ่งไปกว่านั้น คือการเห็นคนเป็นแม่ไม่สามารถมาเผาศพ เก็บอัฐิ ลูกชายได้ ญาติที่มาร่วมไว้อาลัยได้แต่มองโลงที่บรรจุร่างไร้วิญญาณขึ้นไปบนเมรุอยู่ห่างๆ แค่นั้น
"ป้าของผม ซึ่งเป็นแม่ของน้องเขาอยู่กรุงเทพฯ พอรู้ว่าลูกชายเสียชีวิตแล้วเสียใจหนักมากร้องไห้ฟูมฟาย หัวอกคนเป็นแม่เนอะ อยากมาเผาศพลูกชาย เก็บกระดูกลูกชาย ก็ทำไม่ได้ คนทางบ้านแนะนำว่าไม่ต้องมา มาก็ต้องกักตัว 14 วัน เห็นแบบนี้แล้วรู้สึกสะเทือนใจจริง" ไผ่กล่าว
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ