เปิดรายชื่อ 5 จังหวัด พบผู้ป่วยโควิด-19 สูงสุด
5อันดับภูธรป่วยโควิดสูงสุด
ยอดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในประเทศไทยไม่มีทีท่าว่าจะลดลงแต่อย่างใดและในช่วงที่ผ่านมาเพียงวันเดียวพบผู้ป่วยจากทุกจังหวัดทะลุ 20,000 ราย และเสียชีวิตไปแล้วจนนับไม่ถ้วน ดังนั้นจึงมีการออกมาตรการล็อกดาวน์เคอร์ฟิวทั้งหมด 29 จังหวัดแล้ว คงต้องจับตาดูว่า เคอร์ฟิว รอบนี้จะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยได้มากน้อยขนาดไหน หรือกลับไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลยกันแน่
นายแพทย์พรณรงค์ ศรีม่วง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่สะสมไปมากกว่า 40,000 ราย ที่รองจากจังหวัดกรุงเทพฯแล้วว่าแม้ว่าทางจังหวัดจะทำการตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงต่อเนื่องแต่ก็พบผู้ป่วยเป็นจำนวนมากดังคำพูดที่ว่าตรวจเยอะก็เจอเยอะ เป็นต้น
พบว่าส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะติดเชื้อมาจากหลายคลัสเตอร์ โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆในพื้นที่ที่มีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนมีประมาณ 5,000 ราย และเสียชีวิตสะสมไปแล้วประมาณ 400 ราย เบื้องต้นได้ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 300,000 รายจากกลุ่มเป้าหมาย ส่วนบุคลากรด่านหน้าฉีดไปได้ประมาณ 70-80% ขณะประชากรมีทั้งหมดกว่า 1,000,000 ราย และจะเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้ได้มากและเร็วที่สุด
ทั้งนี้ หากมาดูข้อมูลสถิติที่เพจเฟซบุ๊กไทยรู้สู้โควิดทุกวันนั้นจะเห็นได้ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ยอดรวมสะสม 5 อันดับมากที่สุดในต่างจังหวัดได้แก่
อันดับที่ 1 คือจังหวัดสมุทรปราการ มีผู้ป่วยสะสมกว่า 45,526 ราย เสียชีวิตสะสมกว่า 400 ราย
อันดับที่ 2 จังหวัดสมุทรสาคร มีผู้ป่วยสะสมกว่า 38,229 ราย เสียชีวิตสะสมกว่า 100 ราย
อันดับที่ 3 จังหวัดชลบุรี มีผู้ป่วยสะสมกว่า33,441ราย เสียชีวิตสะสม 156 ราย
อันดับที่ 4 จังหวัดนนทบุรี มีผู้ป่วยสะสมกว่า 28,367 ราย เสียชีวิตสะสมกว่า 100 ราย
อันดับที่ 5 จังหวัดปทุมธานี มีผู้ป่วยสะสมกว่า 22,124 ราย เสียชีวิตสะสม 226 ราย
โดยในแต่ละวันจะพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมากจนสถานการณ์นั้นวิกฤตมากแล้วจึงมีการประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ล่าสุดทาง ศบค.ได้ออกมาตรการเข้มสั่งล็อกดาวน์เคอร์ฟิวงดประชาชนออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น.เป็นต้นไป โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา ไปจนถึง 31 สิงหาคม ก็พบว่าส่วนใหญ่ประชาชนก็ค่อนข้างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ปัญหาที่ทุกจังหวัดพูดตรงกันนั่นก็คือ การห้ามคนไม่ให้ข้ามจังหวัดนั้นยากมาก เพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยต้องเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อไปประกอบอาชีพตามโรงงานต่างๆ ที่อาจนำเชื้อโควิดเล็ดลอดแล้วมาแพร่ให้คนในครอบครัว
ดังนั้นภาครัฐจึงช่วยเหลือโดยการจ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 ในจังหวัดที่เพิ่มมาจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับการเยียวยาจังหวัดที่กำหนดแนวทางเยียวยาไปก่อนหน้านี้ โดยจะนำเข้า ครม. ในวันที่ 10 สิงหาคม 2564 และคาดว่าจะเริ่มโอนเงินเงียวยาสำหรับผู้ประกันมาตรา 33, 39 และ 40 ในจังหวัดที่เพิ่มมา 16 จังหวัดได้หลังวันที่ 24 สิงหาคมเป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีการเยียวยา 13 จังหวัดเดิม เพิ่มอีก 1 รอบ เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ในพื้นที่รวมเป็น 2 เดือน (ก.ค.-ส.ค.) โดยจะจ่ายเงินเยียวยา 29 จังหวัดพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่มีตรวจโควิดเชิงรุกก็จะพบผู้ติดเชื้อโควิดจำนวนไม่น้อย และเมื่อตัวเลขไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มขึ้นสูงทุกวันอีกทั้งวัคซีนก็จัดสรรมาล่าช้า คงต้องติดตามดูสถานการณ์ว่าภาครัฐจะแก้ไขปัญหาจุดนี้ให้ผู้ติดเชื้อลดลงที่สุดได้เมื่อไหร่