ฮาครืนกันทั้งศูนย์กักตัว เจอตัวแล้ว หนุ่มอุ้มไก่ตัวเป็นๆ พร้อมเครื่องปรุงไปให้เพื่อนรัก

หนุ่มอุ้มไก่เป็นๆ พร้อมเครื่องปรุง เอาไปให้เพื่อนที่ศูนย์กักกัน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามเพราะผิดระเบียบ ต้องกลับไปเชือดต้มมาให้เพื่อนอีกครั้ง

จากกรณีผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok ชื่อ @xxxxnon123456 ได้โพสต์คลิปวิดีโอหนุ่มชาว อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ อุ้มไก่เป็นๆ พร้อมเครื่องปรุง เดินไปที่ศูนย์กักกันและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคโควิด-19 เพื่อจะเอาไปให้เพื่อนที่ถูกกักตัวภายในศูนย์ฯ ตามที่เพื่อนสั่งให้เอาไปให้เพราะหิวต้มไก่แบบทำเอง สร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์เป็นวงกว้าง มีคนเข้าไปดูคลิปนี้กว่า 7 ล้านวิว หลังจากโพสต์ไปได้เพียง 2 วัน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่าบุคคลภายในคลิป คือ นายบัญชา อายุ 27 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.เมืองแฝก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ โดย นายบัญชา เล่าว่า วันนั้นตนได้อุ้มไก่พร้อมเครื่องปรุงไปจริง สาเหตุเพราะเพื่อนที่รักกันเดินทางมาจากกรุงเทพฯ แล้วถูกกักตัวที่ศูนย์กักกันวัดบุโพธิ์ หมู่ 1 ต.บุโพธิ์  อ.ลำปลายมาศ เป็นเวลา 14 วัน

แต่หลังจากถูกกักตัวได้ 3 วัน เพื่อนที่อยู่ในศูนย์ ได้โทรศัพท์มาบอกว่า”หิวไก่ต้ม”แต่อยากต้มเองแบบบ้านๆ ตนพยายามถามไปว่า "ทำได้เหรอ" เพื่อนบอกว่า เอามาเลย จะฆ่าและต้มเอง จึงไปหาซื้อไก่ขนาดพอเหมาะในราคา 100 บาท พร้อมเครื่องปรุงครบชุด หวังเอาไปให้ตามที่เพื่อนร้องขอ 

นายบัญชา อายุ 27 ปี ชายในคลิป

เมื่อไปถึงศูนย์กักกัน ทั้ง อสม.และกำนัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่อยู่บริเวณนั้น มาสอบถาม แล้วต่างหัวเราะ แล้วมาบอกตนว่าไม่สามารถประกอบอาหารภายในศูนย์ได้ จะต้องปรุงสำเร็จมา ตนก็ทำตาม โดยกลับไปต้มแล้วใส่ถุงมาให้ แต่ไม่คิดว่าเรื่องแค่นี้จะมีคนสนใจมากขนาดนี้

อสม.ที่อยู่ในเหตุการณ์

ด้าน นางน้อย สรุปรัมย์ อายุ 57 ปี อสม.หมู่ 1 ต.บุโพธิ์ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ บอกว่า เห็นหนุ่มคนดังกล่าวอุ้มไก่เป็นๆมาถามหาเพื่อนที่อยู่ในศูนย์ รู้สึกแปลกใจ จึงซักถามกระทั่งทราบว่าจะเอาไก่มาให้เพื่อนภายในศูนย์กักกัน เพื่อให้เพื่อนเอาไปต้มภายในนั้น พอเจ้าหน้าที่แต่ละคนได้ยินต่างหัวเราะ ถึงความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของหนุ่มคนนี้

ก่อนจะไปชี้แจงให้ทราบว่าภายในมีกฎระเบียบ เพราะภายในศูนย์มีอาหารกินฟรีได้ทั้ง 3 เวลา ก่อนหนุ่มคนนั้นจะกลับไป ประมาณ 2 ชั่วโมงหนุ่มคนเดิม ได้เอาอาหารคือต้มไก่มาให้อีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่หายขำ และชี้แจงทำความเข้าใจให้หนุ่มคนนั้นอีกครั้ง พร้อมขอโทษที่ไม่สามารถทำตามความตั้งใจเดิมของชายหนุ่มได้