แม่ "พิม" เปิดความจริงอีกมุม เพื่อนสนิทเผยรู้จักแค่ 13 วัน หลังเรียก "ทอยทอย" มาเอ็น?

แม่ "พิม" เปิดความจริงอีกมุม เพื่อนสนิทเผยรู้จักแค่ 13 วัน หลังเรียก "ทอยทอย" มาเอ็น?

แม่ "พิม" เปิดความจริงอีกมุม เพื่อนสนิทเผยรู้จักแค่ 13 วัน หลังเรียก "ทอยทอย" มาเอ็น?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีที่ “พิม ชัชสรัญ สุวรรณกิจ” ถูก “ทอยทอย ชนะกุลพิศาล” นักแสดงจากซีรีส์ดังสังหารโดยใช้มีดแทงไปที่หน้าอกหลายแผลจนถึงแก่ชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีข่าวยืนยันว่าพิมคบหาทอยทอยได้ 1 เดือน แต่วันนี้แม่ของฝ่ายหญิงไม่เชื่อว่าทอยทอยคือแฟนของพิม เพราะรู้จักกันแค่ 13 วันเท่านั้น ส่วนอาวุธที่ใช้สังหารลูกสาว มีแค่แม่กับทอยทอยเท่านั้นที่รู้ว่าเก็บไว้ที่ไหน 

รายการโหนกระแสวันที่  10 ส.ค. 64 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33  สัมภาษณ์ “แม่ตั๊ก” แม่ของพิม มาพร้อม “พลอย” พี่สาว และ “ลิป” เพื่อนสนิทพิม รวมทั้ง “ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์”

ตอนนี้ทุกอย่างกลายเป็นอีกเรื่องนึง แม่ยืนยันว่าทอยทอยคบพิม 13 วัน แม่รู้จักทอยทอยมั้ย?

แม่ : ก่อนหน้านั้นไม่รู้จัก รู้จักเพราะลูกสาวอยู่กับหลานแค่สองคน สามีไปกักตัว ก็เป็นห่วงว่ากลางคืนเขาจะอยู่ยังไง เพราะเขาอยู่กับคุณแม่ ปกติแม่อยู่กับพิม นอนค้างด้วยกัน

ทอยทอยเข้ามาได้ยังไง?

แม่ : เขาบอกว่ามีน้องกับเพื่อนที่ช่วงที่ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินจ่ายค่าคอนโด ช่วงที่แม่ไปอยู่กับเจ๊พลอย ให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนได้มั้ย ขอห้องแม่ให้ทอยอยู่ แล้วมีเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึง ที่รู้จักทั้งพิมและทอย อยู่ในบ้านสามคน  ตอนนั้นขออนุญาตแม่แล้วค่ะ ซึ่งแม่ก็อนุญาตค่ะ

เพื่อนผู้หญิงอยู่ในบ้านด้วยมั้ย?

แม่ : วันนั้นไม่อยู่ เขามีปัญหาส่วนตัวก็กลับไปบ้านแถวรัตนาธิเบศร์ แล้วบอกจะกลับมาตอนกลางคืนแต่เขาไม่สบาย ไม่ได้กลับมาในคืนนั้น

ทอยเข้ามาอยู่ในบ้านพิมกี่วัน?

แม่ : 28 ก.ค. ค่ะ

อยู่แค่ไม่กี่วัน ประมาณ 10 กว่าวันแค่นั้นเองเหรอ?

แม่ : ใช่ค่ะ

ก่อนหน้านั้นแม่ก็ไม่รู้จัก พี่สาวสนิทพิมมั้ย?

พลอย : สนิทค่ะ บ้านเราสนิทกัน มีอะไรคุยกันอยู่แล้ว

น้องเคยเล่าเรื่องทอยให้ฟังมั้ย?

พลอย : ไม่เคยค่ะ มารู้จักกันวันที่ทอยจะเข้าบ้านไป พอดีว่าทอยกับพิม และผู้หญิงอีกคน เขาช่วยขนเสื้อผ้าแม่มา ระหว่างแม่มาอยู่บ้านพลอย พิมก็แนะนำว่าน้องเป็นดารา รู้จักแค่นั้นเอง

ถ้ามีแฟน น้องสาวแนะนำให้รู้จักมั้ย?

แม่ : เขาจะบอกแม่หมดค่ะ เขาไม่เคยปิดบังแม่สักครั้ง ถ้าเขารักชอบคนไหนจะไม่ปิดบัง เขาจะบอกเลย แต่อย่างทอยเขาบอกว่ายังไม่ใช่แฟนน้อง แต่ต่อไปเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ ณ เวลานั้นเขาบอกว่าไม่ใช่แฟนน้อง เขาสงสารน้อง น้องไม่มีงาน

ฝั่งลิป เป็นเพื่อนพิม เห็นลิปโพสต์ข้อความแล้วสะดุดใจมาก ลิปยืนยันว่าเขาไม่ใช่แฟน คบแค่ 13 วัน?

ลิป : ใช่ครับ เขาตกลงกันยังไงผมไม่รู้ แต่ระยะเวลาผมแค่ 13 วันไม่สามารถเป็นแฟนกันได้ ยังไม่รู้จักนิสัยใจคอกันเลย

เขารู้จักกันได้ยังไง?

ลิป : ลิปรู้วันแรกที่เขารู้จักกัน วันนั้นพิมไปถ่ายแบบ ผมไปด้วย ตอนกลางวันมีโมเดลลิ่งคนนึง ผมไม่รู้ชื่ออะไร วันที่ 24 ก.ค. ตอนเที่ยง มีโมเดลลิ่งทักมาหาพิมว่าช่วยรับน้องคนนี้ไปทำงานด้วยได้มั้ย พิมถามทำงานอะไร เขาให้ผมดูแชตทุกอย่าง โมบอกว่างานเอ็น เห็นพิมมีแบ็กดี ตอนนี้น้องไม่มีเงินจ่ายค่าคอนโดแล้ว

คำว่ารับงานเอ็น ใครเป็นคนพูด?

ลิป : โมเดลลิ่งครับ

พูดว่าให้รับทอยทอยไปทำงานเอ็นหน่อย?

ลิป : ใช่ครับ เรื่องวันนั้นมีรู้ไม่กี่คน ความจริงวันนั้นทอยทอยมาในฐานะทำงานเอ็นเตอร์เทนพิม และเพื่อนๆ ที่อยู่ในนั้นอีก 2 คน หลังจากนั้นพิมก็ลงสตอรี่คู่ทอยตลอดในโคลสเฟรนด์ (Close Friend) ผมก็ทักไปว่าติดเด็กแล้วเหรอ พิมก็ตอบปกติย่ะ แล้วผ่านไป พิมก็ถ่ายสตอรี่พาเขาไปอยู่บ้านแล้ว ผมก็งง ว่าทำไมพาไปเร็วจัง แต่ก่อนหน้านั้นเคยเตือนพิมแล้วว่าอย่าพาใครเข้าบ้าน เพราะพิมเขาเป็นแบบนี้ เวลารู้สึกดี รักใครเขาเต็มที่ไม่ว่าจะเพื่อนหรือแฟน เขาช่วยเหลือทุกคน ถ้าใครลำบาก

คิดว่าสองคนนี้รู้สึกรักกันมั้ย?

ลิป : ถ้ามองในความรู้สึก พิมรักคนแล้วทุ่ม เขาอาจจะรักและรู้สึกดี แต่ใช้ระยะเวลาในการดูไปก่อน แต่ถ้ามองมุมมองของทอย ผมว่าเขาไม่ได้เข้าหาพิมด้วยความรู้สึกรัก ถ้าเขารักพิมจริง คนเรารักกันถ้าทะเลาะกัน สมมุติพิมเป็นคนถือมีดเข้ามาอย่างที่เขาอ้าง 

ขอย้อนไปว่าจากคำให้การ ทางฝั่งทอยทอยให้ปากคำว่าตัวเขาเองนั่งดื่มเบียร์กับพิมด้านล่าง มีปัญหาทะเลาะกัน แล้วขึ้นไปพูดคุยด้านบน สาเหตุพิมต้องการให้ทอยทอยออกจากวงการบันเทิง หลังจากนั้นตัวเขาเองไม่ยอม พิมเลยบอกให้ออกจากบ้านไป ทอยก็เก็บของ พิมหยิบมีดจะทำร้ายเขา ก็มีการยื้อแย่งกันแล้วมีดหล่นอะไรสักอย่างทอยลุแก่โทสะในการแทง ประมาณนี้ ในมุมลิปบอกว่าไม่น่าเป็นอย่างนั้น?

ลิป : ไม่น่าครับ ถ้าพิมถือมีดอย่างที่เขาอ้างจริง ถ้าทอยรักพิมเขาต้องยอมแล้ว ไม่ใช่เดินไปแย่งมีดจากมือ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าพิมมีโรคประจำตัวคือยังไง ก่อนหน้านั้นรุ่นพี่ผู้หญิงอีกคนที่อยู่ด้วยก็เคยเตือนทอยแล้ว ถ้ารับไม่ได้อย่าเดินเข้ามาในชีวิตพิม ทอยก็บอกว่ารับได้ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริงๆ ทำไมถึงใช้กำลังในการทำร้ายพิมแบบนั้น

กรณีพิมที่จะไปหยิบมีดมา แม่เชื่อมั้ย?

แม่ : ไม่เชื่อค่ะ ลูกไม่เคยเดินเข้าครัวค่ะ แล้วลูกสายตาสั้น หาของอะไรไม่เจอ ของอะไรก็แล้วแต่ถ้าแม่เปลี่ยนที่ปุ๊บเขาหาไม่เจอเลย แล้วเขาเป็นคนที่ถ้าไม่เจอก็ไม่หา จะโทรถามแม่

มีดที่ใช้ก่อเหตุ เป็นมีดที่คุณแม่ใช้ทำอาหาร?

แม่ : คืนก่อนเกิดเหตุ วันนั้นทอยก็มาช่วย พอดีมีดมันไม่คม ก็เอามีดอันนี้มาช่วยหั่นผัก แม่ล้างเก็บแล้วซ่อนไว้เหมือนเดิม

ทอยเอามีดเล่มนี้หั่นผักก่อนวันสังหารพิม ทำไมแม่ต้องซ่อน?

แม่ : ใจแม่ คนมาในบ้านก็เป็นห่วง ไม่รู้ลูกรู้จักแค่ไหน แม่แค่เผื่อไว้ อะไรที่มีคมก็เอาหลบๆ ไว้ ไม่วางไว้ให้เห็นง่ายๆ เอาไปซ่อน เอาที่ใส่จับโมไครเวฟบังไว้ ไม่หยิบฉวยง่ายๆ อย่างนี้ค่ะ

คนที่รู้ว่าแม่เก็บไว้ตรงนั้น มีใครบ้าง?

แม่ : มีแค่ทอยคนเดียว ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ เพราะพิมไม่เข้าครัว

พลอย : ถ้าพิมเข้าไปในครัว โดยธรรมชาติคนไม่เข้าครัว เขาต้องหาก่อน อย่างน้อยถ้าเขาควานหาอะไรสักอย่างก่อนเจอมีดเล่มนั้น ถ้าแม่เก็บไว้มิดชิด แต่ในครัวมันปกติมาก ไม่มีร่องรอยการรื้อ

แม่ : ของปกติมาก ไม่กระจัดกระจาย

ถ้าพิมไม่รู้ต้องไปค้นหาก่อน รื้อค้นไม่มี?

แม่ : ใช่ค่ะ

แต่คนน่าจะรู้ และหยิบมาได้เลย?

แม่ : คือทอยค่ะ

พลอย : อันนี้เป็นการตั้งข้อสังเกตของครอบครัวนะคะ

แม่ : เพราะมีดเล่มนี้พิมไม่เห็นนานแล้ว เขายังถามเลยว่ามีดที่แม่ซื้อมาใหม่คมๆ เอาไปไว้ที่ไหนจะหั่นของ มีแต่มีดไม่คม แม่ก็บอกว่าไม่รู้อยู่ไหน เดี๋ยวหาให้

แต่สิ่งหนึ่งที่แม่ให้ดูก่อนเข้ารายการ แม่บอกว่าในคืนวันก่อเหตุ ทอยส่งข้อความหาคุณแม่ พอดีคุณแม่ปิดเครื่องนอน เขาส่งมาเป็นข้อความนึง ธรรมดาเขาเคยสัญญากับแม่เหรอ?

แม่ : ไม่เคยค่ะ เขาแอดไลน์มาเอง แม่ไม่เคยคุยกับเขา เพราะเพิ่งเข้าบ้านมาได้ไม่กี่วัน

นี่คือไลน์ที่เขาส่งมาวันพฤหัสบดีที่ 5 ส.ค. ห้าทุ่มห้าสิบสองนาที แม่ครับขอโทษนะที่ผิดสัญญาที่ให้ไว้จะดูแลพี่พิมให้ดี หนูคงทำไม่ได้ ขอบคุณที่ดูแลผม นี่คือเขาส่งมา พอเข้าสู่วันที่ 6 ส.ค. 02.28 น. เขาโทรหาแม่ แต่แม่ไม่ได้รับสาย เวลานั้นเป็นเวลาที่เขาก่อเหตุไปแล้ว เขาก่อเหตุตอนตีหนึ่ง ตีสองพยายามติดต่อแม่ ห้าทุ่มก่อนเกิดเหตุเขาก็โทรหาแม่ ไม่รู้เขาก่อเหตุไปก่อนหรือยังด้วย ตัวเขาเอง เคยสัญญากับแม่เหรอว่าจะดูแล?

แม่ : ไม่ค่ะ เวลาแม่จะออกจากบ้านตอนเย็น แม่จะบอกว่าดูแลกันดีๆ นะ แม่ไปแล้ว ผู้หญิงที่อยู่ด้วยอีกคนแม่ก็จะบอกแบบนี้

ฝั่งทอยทอยจะพูดอะไรก็ได้ เพราะคนตาย ตายไปแล้ว ทุกอย่างจะถูกฟ้องด้วยหลักฐานทั้งหมด ขอถามเรื่องอาการน้องพิม น้องไม่สบาย?

พลอย : ไม่สบายจริงค่ะ เป็นโรคซึมเศร้าและโรคไพโบลาร์ ซึ่งมีการรักษาต่อเนื่องมา 2 ปี ระหว่างนี้เราไม่ปฏิเสธว่าน้องเคยมีความคิดที่จะพยายามฆ่าตัวตาย แต่ทุกครั้งที่ทำเขาก็ทานยาที่คุณหมอจ่ายโรคซึมเศร้า ยานอนหลับ บางครั้งแม่ยังบอกว่าบางทีเขาก็กลัวตายเหมือนกัน บางทีทานยาไปแล้วโทรบอกเพื่อนให้พาไปหาหมอ จริงค่ะ ที่เขาเคยมีความคิดจะฆ่าตัวตาย แต่ทางเราเชื่อเหลือเกินว่าไม่ใช่ทางที่พิมเลือกแน่นอนกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่มีทางเอามีดมาแทงหน้าอกตัวเอง ขนาดเขาเคยฆ่าตัวตาย แม่ถาม เขาเคยบอกแม่ว่าเขากลัวไม่สวย

แม่ : เขาบอกเขาเป็นคนสวย ถ้าจะตายขอเป็นคนสวยแม่ เขาอารมณ์ดีๆ พุดเล่นๆ ติดตลก

ที่แม่ถืออยู่คืออะไร?

แม่ : เป็นตุ๊กตาที่เขาชอบ เขาเข้าฝันให้เล่นกันตุ๊กตาเขาหน่อย เดี๋ยวเขาเหงา (ร้องไห้) เขาไว้ที่หัวเตียง น้องพิมรักครอบครัว รักหลาน มีตุ๊กตาตัวนึงที่รักมาก หลานขอก็ให้หลานไป แล้วเขาซื้อใหม่ เมื่อคืนเขาบอกว่าให้เล่นตุ๊กตาเขาหน่อยนะ

แม่ฝันถึงน้องพิมเมื่อคืน เลยเอาติดตัวตลอด วันนี้ก็อยากให้เขามาด้วย?

แม่ : ใช่ค่ะ พอดีตัวนี้อยู่บนเตียง ก็หยิบตัวนี้มา เราคิดว่าคงอยากให้เอาตัวนี้มา (เสียงสั่นเครือ)

หลายคนอาจตั้งข้อสงสัย เป็นไปได้มั้ย พิมอยู่บ้านแต่ไม่เคยเข้าครัวเป็นสิบปี ไม่ใช่ไม่เคยเข้าเลย?

แม่  : ใช่ค่ะ ไม่เคยค่ะเข้าไปก็แค่กดน้ำร้อนใส่มาม่าคัพเท่านั้นเอง ทำอาหารไม่เคยเลย จุดแก๊สไม่เป็นค่ะ

มีคนอาจตั้งข้อสงสัยว่าทำไมแม่ต้องซ่อนมีด แม่บอกว่าเพราะมีดมันคม แม่เอาที่เอาไมโครเวฟบังเอาไว้ ซ่อนเอาไว้ กลัวจะมีการไปหยิบมาแล้วมันจะไม่ดี?

แม่ : เห็นมีคนอื่นมาอยู่ในบ้าน อะไรที่เป็นอาวุธก็เก็บเอาไว้อยู่แล้วค่ะ

เพิ่งมาอยู่ได้แค่ 13 วัน แม่ยืนยันว่าคนหยิบมีดน่าจะเป็นทอยทอยเพราะเขารู้ เพราะเขาทำกับข้าวกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้นแม่ออกจากบ้านไป?

แม่ : ทอยออกจากบ้านไปก่อน แล้วแม่ออกไปอยู่กับพลอย ทอยทอยกลับมาในบ้านอีกที

แฟนคลับอาจไม่เข้าใจ พิมไม่เคยเข้าครัวเลยเหรออยู่เป็นสิบปี แม่เอามีดไปซ่อนทำไม ไม่ให้ลูกผิดเลยเหรอ มีคนคิดแบบนั้น ยืนยันว่าการรู้จักกันครั้งนี้ ไม่ได้เริ่มจากความรัก เกิดจากโมเดลลิ่งแนะนำมา?

ลิป : ยืนยัน  ผมเห็นแชตทุกอย่าง พิมเอาให้ผมดูเอง ว่ามีโมเดลลิ่งทักมา เป็นดาราจะให้เรียกมางานวันนี้ ผมว่าไม่ต้องเรียกหรอก อยู่กินกันเองดีกว่า เพื่อนๆ ก็คอยเตือนกัน พิมเขาก็แซวว่าจะเรียกดีมั้ย วันนั้นผมกลับก่อน พอกลับถึงห้องเห็นสตอรี่ว่าพิมเรียกเขามาแล้ว ก็ปกติดีเหมือนที่เคยกินสังสรรค์กันทั่วไป อยู่ๆ อีกวันพิมเขาลงสตอรี่อีก ก็อ้าว ชอบกันหรือเปล่า แต่วันแรกที่เขามาสถานะเป็นเด็กเอ็นครับ โมเดลลิ่งยังบอกว่าช่วยรับน้องไปทำงานหน่อย น้องไม่มีเงินจ่ายค่าคอนโดแล้ว ตกลงเรื่องเวลางานกัน ราคาทั้งหมดที่เสนอมา คือ 5 พันบาท ผมยังรู้เลยว่าเขาแบ่งให้โม 1 พัน อีก 4 พันให้ทอยทอย

เพราะฉะนั้นยืนยันว่าเขาไม่ใช่แฟน?

ลิป : ไม่ใช่ครับ

พี่เดชามองเรื่องนี้ยังไง การที่คุณแม่ออกมาพูดแบบนี้ จะเป็นกระแสตีกลับคุณแม่มั้ย?

เดชา : ฟังจากญาติผู้เสียหายพูด เขาก็พูดตามข้อเท็จจริง คือคดีนี้ไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก คดีแบบนี้เกิดขึ้นศาลเยอะ ผมเคยทำคดีประเภทสามีฆ่าภรรยาตาย ลักษณะคล้ายๆ แบบนี้ ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต เขาก็สู้ว่าป้องกันตัว บันดาลโทสะแต่ศาลไม่เชื่อ การต่อสู้ว่าบันดาลโทสะหรือป้องกันตัวจะพูดอะไรก็พูด ศาลไม่ฟัง แต่มันง่ายในการกล่าวอ้าง ข้อเสียคดีนี้มีเรื่องเดียวคือไม่มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ แต่ทุกวันนี้ศาลยุติธรรมไทยพัฒนาไปไกลแล้ว ใช้นิติวิทยาศาสตร์หมด หลักการพิจารณาว่าเจตนาฆ่าหรือไม่ เขามี 4 อย่าง ดูจากอาวุธ อย่างมีดยาว 9 นิ้ว แหลมแทงคนตายมั้ย ทำให้ตายได้ ก็ใช่แล้วหนึ่ง สองแทงไปที่อวัยวะ บริเวณปอด อย่างนี้ก็ชัดเจน สำคัญโดนแล้วตาย สามสำคัญคือบาดแผล โอ้โหโดนตั้ง 20 แผล แผลลึกเท่าไหร่ ยังไง อันนี้ชัด สุดท้ายพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ทำซ้ำๆ รอยบาดแผลจำนวนมาก เต็มหน้าอกไปหมดอย่างที่ฟังจากญาติคนตายพูด ก็เข้าครบ 4 หลักเลย สุดท้ายตัวเองยอมรับในที่เกิดเหตุ แล้วแจ้งตร.เอง ทุกสิ่งทุกอย่าง มีด เลือด ดีเอ็นเอ อะไรต่างๆ ยอมรับหมด ที่บอกว่าป้องกันบันดาลโทสะต้องมีพยานหลักฐานประกอบ แต่ที่เกิดเหตุไม่พบการกระจัดกระจาย แสดงว่าไม่มีร่องรอยการต่อสู้

ห้องไม่มีร่อยรอยการต่อสู้?

พลอย : ไม่มีเลยค่ะทุกอย่างเรียบร้อย ปกติเลยค่ะ ซึ่งถ้าเกิดการยื้อแย่งมีดกันจริง ต้องมีการเคลื่อนไหวตัว ห้องแคบๆ อย่างนั้น ทีวีหรือของต้องมีการกระจัดกระจายบ้าง แต่นี่เข้าไปมีแค่เลือดตรงที่น้องเสียชีวิต ถ้าแย่งกันของก็ตกแล้ว แต่นี่ทำขนาดนั้นจะไม่มีอะไรกระจัดกระจายเลยเหรอ

ณ วันนี้สองมุมพูดไม่เหมือนกัน ฝั่งโน้นบอกว่าพิมถือมีดขึ้นไป แม่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะแม่เก็บมีดคนเดียว กับทอยทอยที่รู้ เพราะทอยทอยช่วยแม่หั่นของช่วยแม่ทำอาหาร เก็บมีดตรงไหน รู้กันสองคน?

เดชา : คำพูดผู้ต้องหาจะพูดอะไรก็ได้ เพราะเขาต้องการเอาตัวรอด เขาปฏิเสธ ส่วนทนายความผู้ต้องหาต้องรักษาผลประโยชน์ผู้ต้องหา ไม่ต้องเก็บอะไรมาคิดเลย ถ้าให้การขัดกับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุก็จบแล้ว ฟังไม่ขึ้น ไม่ต้องห่วงคดีนี้ มั่นใจที่พนักงานสอบสวนตั้งเจตนาฆ่า มาตรา 288 โทษสูงสุดคือประหารชีวิต

เรื่องเงิน 2 หมื่น?

แม่ : แม่ขอไปเช็กกับทางธนาคารก่อนค่ะ ว่าโอนเข้าบัญชีใคร

เงิน 2 หมื่นบาท พิมยืมไปให้ใครคนนึง เดี๋ยวแม่จะไปตรวจดูว่าโอนเข้าบัญชีใคร อันนี้อาจเป็นสาเหตุนึงหรือเปล่า ณ วันนี้ทอยเองปฏิเสธข้อกล่าวหาจะไปให้การในชั้นศาล?

เดชา : ยิ่งให้การในชั้นศาลแสดงว่ามีพิรุธสิ ความจริงเป็นอย่างไร โดยสุจริตชนต้องให้การทันที จะไปให้การในศาลเพื่ออะไร เพราะคุณบอกว่าคุณไม่ได้ฆ่าเขา ดังนั้นการให้การช้าหลังทนายไปเยี่ยมแล้ว เวลาขึ้นศาล คำให้การเหล่านี้จะไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือ ถ้าบอกว่าไม่ได้ฆ่าก็ต้องให้การทันที จะไปกั๊กไว้ทำไม ตัวเองได้ประโยชน์

แม่บอกว่าวันเขาก่อเหตุ เขาไปเสียใจกับรปภ.?

แม่ : เขาไปกอดรปภ. บอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจแทง

เท่าที่ดูฟีดแบ็กจากการที่คุย หลายคนติดใจประเด็นน้องไม่เข้าครัว คำว่าไม่เข้าครัว หมายความว่าไม่ได้เข้าครัวทำกับข้าวหรือยังไง เพื่อให้หายคลางแคลงใจ?

แม่ : ไม่เข้าเลยจริงๆ ค่ะ

แม่ยืนยันว่าไม่เข้าเลย?

แม่ : ค่ะ ล้างจานก็คุณแม่เขาไม่เคยล้างจาน แม่ทำให้เขาหมด เขาจะนั่งอยู่แค่โต๊ะกับข้าว เวลาทานยารักษาโรคซึมเศร้า เขาก็จะนอน ส่วนใหญ่ก็จะนอน เข้าครัวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย

พิมไม่รู้เลยเหรอว่ามีดอยู่ตรงไหน?

แม่ : ไม่รู้ค่ะ

พลอยยืนยันมั้ยว่าน้องไม่น่าจะรู้?

พลอย : คิดว่าไม่น่าจะรู้จริงๆ ค่ะ เขาไม่เข้าไปเลย

แม่ : เวลาแม่ทำกับข้าว เขาก็อยู่แค่โต๊ะ แล้วก็ไปโซฟา

พลอย : ถ้ากรณีต้องมีการหา แต่ครัวไม่มีร่องรอยการรื้อของ หาของเลยค่ะ

แม่ : ขนาดจานข้าวแม่ก็เก็บให้ เขาไม่ทำอะไรเลย

พลอย : เขาไม่ล้างจานอะไรเลย

กลับมาถึงบ้านแม่ก็ทำข้าวให้กิน?

แม่ : ใช่ค่ะ แล้วเขาก็ขึ้นห้องไป

ถ้ามีแฟนเขาจะเล่าให้ลิปฟังมั้ย?

ลิป : เพื่อนพิมทุกคนรู้อยู่แล้วว่าพิมจริงใจแค่ไหนกับแฟนหรือเพื่อน รักใครเขาก็ทุ่มโดยไม่คิดไตร่ตรอง เขาอยากทำให้ดีที่สุด ทำให้ผู้ชายคนนึงเข้ามาไม่รู้มีเจตนาอะไรถึงเข้ามาหาพิม

เรื่องเอ็น อาจมีคนแย้งกลับมาได้ เรื่องการล็อกดาวน์?

ลิป : ล็อกดาวน์อยู่ได้ไม่เกิน 5 คน ตอนนั้นอยู่กันสามคน ไม่ได้จัดปาร์ตี้ใหญ่โต มานั่งกินกัน เพราะพิมเป็นคนขี้เหงาอยู่แล้ว เขาจะหาเพื่อนมาให้หายเหงา

บางคนไปขยายความ ไปแย้งบางเรื่อง นี่คือข้อเท็จจริงของครอบครัวเขาที่ประสบกันอยู่ มีหลักฐานไลน์ที่เขาคุยกันอยู่ ทนาย เรื่องนี้ไม่น่ามีการพลิก?

เดชา : ยากครับ พยานหลักฐานมันชัด ผู้ต้องหาจะพูดก็เป็นแค่ความเห็น ดูเฉพาะบริเวณที่เกิดเหตุ ดูสภาพศพ โดยเลือด ก็จบแล้ว

มีเรื่องนึง ทอยส่งไลน์คุยกับเพื่อนคนนึง แล้วบอกว่าพิมไปขู่อาฆาตพ่อแม่เขา ?

เดชา : ไม่มีผลต่อรูปคดี อะไรก็แล้วแต่เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาทำขึ้น ข้อความแชต หลังเกิดเหตุ ไม่มีผลต่อรูปคดี คุณจะไปส่งแชตใช้ข้อความอะไรก็เรื่องของคุณ เพราะผู้ต้องหาทุกคนก็ดิ้นรนเอาตัวรอด ทำยังไงก็ได้ให้เอาตัวรอด

แม่รู้จักพ่อแม่เขามั้ย?

แม่ : ฟังจากปากทอย เขาเล่าว่าพ่อบวชเป็นพระอยู่พะเยา แม่อยู่ชลบุรี แค่นั้น

แม่ที่บอกว่าอโหสิกรรมให้ทอย อโหสิกรรมให้ แต่เรื่องกฎหมายก็ว่ากันต่อไป ถ้าทอยเขาอยากขอโทษแม่?

แม่ : แม่อโหสิให้ กังวลใจเรื่องข้อกฎหมายเหมือนกัน อยากให้ลูกได้ความยุติธรรมค่ะ

พลอยล่ะ?

พลอย : เรื่องได้ประกันหรือไม่ก็สิทธิ์ของเขา ยังไงเขาก็ต้องชดใช้กรรมอยู่แล้ว แต่ถ้าตามกฎหมายก็อยากให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เขาควรได้ชดใช้กรรมของเขา

เห็นหลานของน้องพิม วันนั้นไปงานแล้วพูดส่งน้องพิมด้วย?

พลอย : ใช่ค่ะ เขามีความผูกพันกัน ถ้าใครว่าครอบครัวเราไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกัน พลอยพูดเลยว่าไม่ใช่ เรามีแม่เลี้ยงลูก 3 คน พวกเราผูกพันและรักกันมาก กับหลานพิมเขาก็น่ารักกับหลานมากๆ ค่ะ

เท่าที่พูดคุยกันและสรุปได้ เป็นอีกมุมที่เพิ่งทราบ เรื่องหนึ่ง เพิ่งรู้จักได้ 13 วันเท่านั้นเอง สองไม่น่าใช่แฟน สามลิปบอกว่าเรียกทอยมาเรื่องเอ็น มีเรียกราคาด้วย 5 พัน แล้วก็เรื่องมีด วันสุดท้าย ทอยเข้าไปทำอาหารกับแม่ในครัว ทอยใช้มีดเล่มนั้นหั่นอาหาร แม่เอามีดไปล้างและเอาไปเก็บเอาไว้ และเอาสิ่งของมาบังมีด ทอยเห็นอยู่ พิมอยู่ในโซนตัวเองไม่ยุ่งกับใคร ไม่เข้าครัวเลย มีเข้าไปคือเอาน้ำร้อนใส่มาม่าคัพ แม่ยืนยันว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่แม่ไปหยิบมีดโดยไม่มีการรื้อค้น ต้องเป็นคนที่รู้ ซึ่งมีแค่แม่กับทอย เรื่องข้อกฎหมาย ทนายยืนยันว่าข้อเท็จจริงมันฟ้องอยู่แล้ว?

เดชา : ครับ การที่ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ไม่ให้ประกันตัว มองว่าพฤติการณ์ร้ายแรง อัตราโทษสูง กลัวหลบหนี มันชดัเจนอยู่แล้วว่าหลักฐานพนักงานสอบสวนแน่นหนา เอาผิดคนร้ายได้

แม่อยากฝากอะไร?

แม่ : ฝากถึงทอยอยากบอกว่าเขาทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ และแม่ก็รู้ว่าลูกแม่ไม่มีวันทำในสิ่งที่เขากล่าวหา

พลอย : พลอยอยากพูดเรื่องกระแสสังคม ที่มองน้องที่เป็นโรคไม่ว่าจะซึมเศร้าหรือไบโพลาร์ จริงค่ะน้องเป็นโรค แต่ไม่ว่าคนปกติหรือคนมีโรคไบโพลาร์ ซึมเศร้า ไมได้หมายความว่าเขาสมควรต้องมาเจออะไรแบบนี้ แล้วคนที่บอกว่าน้องสาวหนูแทงตัวเอง คุณเคยลองแทงตัวเองมั้ย แทงแล้วคุณสามารถแทงซ้ำๆ จนหมดลมหายใจได้มั้ยคะ ถ้าเรื่องนี้เกิดกับครอบครัวคุณ พวกคุณจะรู้สึกยังไง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook