“ณวัฒน์” สุดทน! ฟ้องพิธีกรช่องดัง ล้อเลียนอาการป่วยโควิด กล่าวหาเป็นไบโพลาร์
ณวัฒน์ ฟ้องหมิ่นประมาท อ.กบ-ช่องบลู สกาย หลังจัดรายการฟ้าวันใหม่นิวส์ 22 ก.ค. ล้อเลียนอาการป่วยโควิด พร้อมกล่าวหาเป็นโรคสัญชาติชั่ว-ไบโพลาร์ ชี้ ฟ้องเป็นตัวอย่าง เพื่อพิสูจน์กระบวนยุติธรรมต้องพึ่งได้
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 13 ส.ค. นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เจ้าของรายการโหนกะแฉ พร้อมทนาย เดินทางมาศาลเพื่อยื่นฟ้องหมิ่นประมาท นายกฤษณ์พงศ์ เกียรติศักดิ์ หรือ อาจารย์กบ ในฐานะพิธีกรรายการฟ้าวันใหม่นิวส์ เป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท บลู สกาย แชนแนล จำกัด ในฐานะเข้าของสถานีโทรทัศน์ช่องฟ้าวันใหม่ เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328
นายณวัฒน์ กล่าวว่า "นายกฤษณ์พงศ์ ได้จัดรายการฟ้าวันใหม่นิวส์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. โดยละเมิด และหมิ่นประมาทอย่างชัดเจน คือบอกว่าตนไม่ได้ป่วยจริง จัดฉาก สร้างความดราม่า และอาศัยโจมตีรัฐบาล นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าตนเป็นโรคไบโพลาร์ อารมณ์สองขั้ว และสิ่งที่ทำให้รู้สึกย่ำแย่มากคือการที่นายกฤษณ์พงศ์ พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่าตนเป็นโรคสัญชาติชั่ว โดยข้อความนี้ส่อให้เห็นว่าบ้านเมืองนี้จะพูดอะไรก็ได้ ตนจึงฟ้องเป็นตัวอย่าง เพื่อไม่อยากให้หลาย ๆ คน สนุกกับการพูดไม่จริง และทำให้เราเกิดความเสียหาย การป่วยของตนแพทย์ระบุแล้วว่าระบบการหายใจล้มเหลว แต่นายกฤษณ์พงศ์ ก็ด่าทั้งที่ขณะนั้นตนยังอยู่ในโรงพยาบาล โดยในรายการมีการใส่เครื่องช่วยหายใจ ล้อเลียนอย่างสนุกสนาน มีคำพูดหมิ่นประมาทมากมาย อย่างไรก็ตาม ศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 15 พ.ย. นี้"
"ยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด จะไม่ยอมเด็ดขาด เนื่องจากเป็นศักดิ์ศรีของเรา และเขาย่ำยีเราเกินไป ถ้าเกิดข้ามฝั่งมาแค่นิดๆ หน่อย ๆ ทำใจได้ แต่การบอกว่าสัญชาติชั่ว มันหนักเกินไป ส่วนการคะนองปากเรื่องอื่น จะเย้ยหยันเรื่องรูปลักษณ์หน้าตา ผมทำใจได้ แต่พอบอกว่าชาติชั่ว ผมก็คุยกับทนายว่า แล้วเขาแบ่งอย่างไรว่าเขาเป็นชาติดี แล้วผมเป็นชาติชั่วอย่างไร ผมไม่เคยเป็นไบโพลาร์ ก็มาหาว่าผมเป็น โดยเฉพาะคนที่มีรสนิยมเหมือนเขา ชอบการทำงานของเขา ก็จะเชื่อว่าผมเป็นไบโพลาร์ เพราะเขาพูดอะไร คนที่ศีลเสมอกันเขาก็จะเชื่อเสมอๆ กัน ผมก็กลายเป็นคนประหลาดไปอีก ดังนั้นจึงต้องรักษาสิทธิ์ของผม ผมไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แค่ต้องการความยุติธรรม จากนี้อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล ผมไม่ได้เรียกร้องอะไรส่วนตัว แต่เบื้องต้นอยากให้ใช้กฎหมายให้เป็นกฎหมาย เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับทุกคน ว่าสุดท้ายแล้วเราต้องพึ่งได้กับกระบวนการยุติธรรม"
นายณวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติม "คดีแบบนี้หลบไปทางไหนไม่ได้ เขาก็ชัดเจนด้วยตัวเขา เราก็ชัดเจนด้วยกระบวนการยุติธรรม อยากให้เขาได้ติดคุก เพื่อได้ไตร่ตรองตัวเอง ซึ่งตนไม่ต้องการคำขอโทษ สิ่งที่จะขอโทษได้คือคุณต้องเดินเข้าคุก ออกมาใหม่ แล้วอย่าทำอีก ส่วนจะดำเนินคดีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่มีการวิพากษ์วิจารร์ตนด้วยหรือไม่นั้น ความจริงก็มีคนวิจารณ์เป็นระยะ แต่ทำใจได้ เพราะยืนอยู่บนหลักไม่มีใครชอบเรา หรือเห็นด้วยกับเรา 100 เปอร์เซ็นต์ แต่กรณีนี้เรารู้ว่าเขามีการเซ็ทขึ้นมา มีการเตรียมพล็อพ จัดฉากพูดแบบร่ายยาวครึ่งชั่วโมง เป็นกรณีที่ต้องการสร้างบางอย่างขึ้นมาให้คนรู้สึกได้ว่าตนเป็นแบบที่เขาพูด เรื่องนี้ก็ต้องมีการดำเนินคดีกัน ในอนาคตก็อาจมีอีก อย่างช่วงบ่ายวันนี้ตนจะไปฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยตรง อะไรที่ตรงกับชีวิต ก็จะเดินหน้าสู้ ฝากเตือนว่าการวิพากษ์วิจารณ์ในระดับหนึ่ง เข้าใจได้ แต่ถ้ามีจุดประสงค์อื่น และพูดหมิ่นประมาทหนักเกินไป ก็ต้องเจอกันทุกคดี ไม่เคยคิดว่าในชีวิตจะต้องมาศาลบ่อย ๆ จากนี้ไปคงได้มาอีก"