รองโฆษก ตร. เตือนม็อบยิงแสงเลเซอร์อันตราย ย้ำสลายชุมนุมตามยุทธวิธีที่ทั่วโลกใช้กัน
รองโฆษก ตร. เตือนม็อบยิงแสงเลเซอร์อันตราย ย้ำสลายชุมนุมตามยุทธวิธีที่ทั่วโลกใช้กัน ทราบแล้ว "ไฮโซลูกนัท" ถูกยิง ขอตรวจสอบก่อน
(13 ส.ค.64) เวลา 15.40 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มผู้ชุมนุมทะลุฟ้าจัดกิจกรรม ศุกร์ 13 ไล่ล่าทรราช โดยบรรยากาศล่าสุดกลุ่มผู้ชุมนุมได้นำเชือกมาปิดกั้นถนน 3 เลน และบีบให้รถขับไปยังถนนพญาไทเพียงฝั่งเดียว จึงทำให้รถติดขัดเล็กน้อย โดยรถยนต์ที่ผ่านมามีการบีบแตรเป็นการให้กำลังใจ มีการปราศรัยโดยโจมตีการทำงานของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีถึงการจัดการโควิด-19 ที่ล้มเหลว ทั้งการบริหารจัดการวัคซีน การบริหารงานที่ทำให้ประชาชนติดเชื้อและล้มตาย รวมไปถึงการบริหารเศรษฐกิจที่ล้มเหลว จนทำให้มีผลไม้ที่ล้นตลาด ทั้งลำไย มังคุด และเงาะ วันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้นำลำไยและมังคุด มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเผาผลไม้ที่นำมา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจตกต่ำมาก บริเวณกลางถนนหน้าเกาะพญาไทและได้มีการประกาศตั้งขบวนเพื่อเคลื่อนขบวนไปยังบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
หลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางมาถึงสามเหลี่ยมดินแดงเมื่อเวลา 17.10 น. ได้มีเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ทำการขว้างปาสิ่งของ พลุ และมีเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิด และประทัดดังตลอดเวลา
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงแก๊สน้ำตาออกมายังบริเวณผู้ชุมนุมอย่างต่อเนื่อง และเวลา 17.25 น. แกนนำผู้ชุมนุมทะลุฟ้าได้ประกาศยุติการชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมและสื่อถอยออกจากบริเวณดังกล่าวมาอยู่กันบริเวณถนนอโศก-ดินแดง ที่มุ่งหน้าไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และยังมีมวลชนบางส่วนยังคงปักหลักบริเวณนี้
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า กลุ่มที่ออกมาชุมนุมแสดงออกก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนกลุ่มที่ออกมาป่วนเมืองก่อความวุ่นวายก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ต้องแยกกัน มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้ยิงกระสุนลูกแก้วและหินเข้าใส่ เจ้าหน้าที่จึงประกาศเตือนหลายครั้ง ไม่ให้สร้างความวุ่นวาย ก่อนจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมาย ทั้งกระสุนยางและแก๊สน้ำตาตามยุทธวิธีจากเบาไปหาหนัก เป็นยุทธวิธีที่ใช้กันในหลายประเทศทั่วโลก
นอกจากนี้ยังพบผู้ชุมนุมจุดพลุและประทัดยักษ์ เป็นอาวุธที่เตรียมมาใช้ปะทะกับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยิงแสงเลเซอร์ใส่เจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งเป็นแสงที่มีความอันตรายต่อดวงตา มีทั้งแสงสีแดงและสีเขียว ขอให้ผู้สื่อข่าวระมัดระวังด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ยิงจากบนทางด่วนนั้น ประเด็นนี้จะยิงจากจุดไหนเป็นไปตามสถานการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ระมัดระวังการใช้กฎหมายอยู่แล้ว จุดไหนดำเนินการไม่ให้เกิดความเสียหายก็ต้องปฏิบัติ เพราะการชุมนุมสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนบริเวณนี้ด้วย อยากให้เห็นใจประชาชนทั่วไปที่ต้องออกมาใช้ชีวิต รีบซื้อหาอาหารแล้วกลับเข้าบ้านก่อนเคอร์ฟิว
ส่วนกรณี นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท โดนกระสุนแก๊สน้ำตาเข้าที่บริเวณดวงตาจนได้รับบาดเจ็บนั้น ได้เห็นภาพจากโซเชียลมีเดียแล้ว ต้องขอตรวจสอบก่อน