ปิดฉากพ่อมดการเงิน! ศาลแคนาดายกอุทธรณ์ ราเกซ สักเสนา เตรียมส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย
ศาลแคนาดายกอุทธรณ์"ราเกซ" เตรียมส่งตัวกลับไทยดำเนินคดี อัยการสูงสุดเตรียมแถลงข่าวหลังทราบผล บสก.เผยยึดทรัพย์บริษัทลูกหนี้ในสวิตฯ-ฝรั่งเศษแล้ว2พันล้าน เหลือหนี้ที่อื่นอีก3พันล้านคาดได้คืนยาก
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ศาลฏีกาแคนาดายกอุทธรณ์ของนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ ยื่นฎีกาคัดค้านความเห็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ประเทศแคนาดา ที่เห็นชอบให้ส่งตัวนายราเกซ กลับประเทศไทย ตามที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ประเทศแคนาดามีคำสั่งให้ส่งตัว ซึ่งเป็นการปูทางส่งนายราเกซไปดำเนินคดีในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถกล่าวถึงขั้นตอนใดๆ ในเรื่องนี้ได้ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแคนาดา แต่อย่างไรก็ดี จะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ในวันที่ 30 ตุลาคม เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) สำนักงานอัยการสูงสุด สนามหลวง
นายบรรยงค์ วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพฯ พาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยถึงกรณีที่จะนำตัวนายราเกซ กลับมาดำเนินคดีไนไทยว่า ในทางปฏิบัติแล้ว นายราเกซไม่ได้เป็นลูกหนี้ของ บสก. แต่อาจเกี่ยวข้องกับบริษัทที่เป็นลูกหนี้ของ บสก. โดยขั้นตอนในการพิสูจน์ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งจะเริ่มเมื่อมีการนำตัวนายราเกซ กลับมาประเทศไทย ส่วนคดีทางแพ่ง ศาลได้พิพากษาไปแล้ว
"ที่ผ่านมาทาง บสก.ได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดำเนินการยื่นฟ้องและยึดทรัพย์กับบริษัทลูกหนี้ที่นายราเกซเกี่ยวข้องได้แล้ว โดยแบ่งเป็นมูลค่าจากการถือหุ้นในบริษัท Movenpick ผู้ประกอบการด้านโรงแรมและอาหารในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่า 1.5 พันล้านบาท และยึดอพาร์ตเมนต์ติดทะเลที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส มูลค่า 195 ล้านบาท เงินสด 100 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่น รวมแล้วประมาณ 2 พันล้านบาท ทั้งนี้ ยังมีส่วนเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก แต่โอกาสที่ได้ค่อนข้างน้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีหนี้ที่ไม่มีหลักประกันอีก 3 พันล้านบาท จึงยากที่จะได้คืน" นายบรรยงค์กล่าว
นายบรรยงค์กล่าวว่า สำหรับทรัพย์สินในการบริหารของ บสก.ที่เป็นของบีบีซีนั้นอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ซึ่ง บสก.ได้โอนหนี้หลังจากการปิดกิจการบีบีซีเมื่อปี 2541 จำนวน 77,460 ล้านบาท โดยสามารถเรียกรับแล้ว 49,654 ล้านบาท และยังอยู่ในการเรียกเก็บอีก 27,815 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในหลายขั้นตอนทั้งในส่วนของการปรับโครงสร้างหนี้ บางส่วนอยู่ระหว่างบังคับคดี และบางส่วนยังอยู่ในขั้นตอนการผ่อนชำระรวมถึงอีกส่วนที่เป็นทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการเรียกเก็บอีก 3-5 ปี
สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองแวนคูเวอร์ แคว้นบริติช โคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ระบุว่า ตำรวจไทยจะเดินทางไปถึงแคนาดา โดยหวังว่าศาลฎีกาแคนาดาจะยุติคดีของนายราเกซ ที่ยืดเยื้อมานาน 13 ปี ซึ่งจะมีขึ้นในเวลา 21.45 น. ของวันที่ 29 ตุลาคม ตามเวลาประเทศไทย โดยตัดสินให้ส่งนายราเกซ ไปดำเนินคดีต่อในประเทศไทยตามข้อตกลงสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างแคนาดาและไทย
สำหรับนายราเกซ เจ้าของฉายา "พ่อมดการเงิน" ที่ปรึกษานายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ หรือบีบีซี ถูกดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์บีบีซี ร่วมกับนายเกริกเกียรติ กว่า 72 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,500 ล้านบาท โดยความผิดแยกเป็นหลายกรรม เมื่อบีบีซีล้มละลาย และถูก ธปท.เข้ายึดกิจการปี 2538 ต่อมา นายราเกซหลบหนีออกจากประเทศไทย ไปกบดานประเทศแคนาดา และสู้คดีส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนยาวนานถึง 12 ปี ขณะที่นายเกริกเกียรติ ศาลทยอยตัดสินไปจำคุกแล้วหลายคดี